เคยหมัก หมักเคย
สัปดาห์ก่อน มีธุระไปเกาะลันตา จ.กระบี่ เจอชาวบ้านกำลังตาก ตัวเคย หรือลูกกุ้ง ที่เขาเอามาทำกะปิ ก็เลยขอซื้อตัวเคยที่ยังสดๆ มา 1 กก.
เนื่องจากเที่ยวหาอยู่นาน พอเจอเข้าก็รีบขอซื้อเลย เขาถามว่าจะเอาไปทำกุ้งเปรี้ยวหรือ ก็เออ ออ ไปตามเรื่อง เพราะหากจะอธิบายว่าเอาไปทำอะไร เขาอาจจะไม่ขายให้ก็ได้
เพราะผมจะเอาไปทำปุ๋ย
ปกติการทำน้ำหมักชีวภาพ เราทำได้จากพืช จากสัตว์ ได้หลายชนิด ก็ทำให้พืชเจริญเติบโต ให้ผลผลิตได้ดี (ใครไม่เชื่อลองเอาไปใช้ดู) ไม่ว่าจะปลูกบนบก ปลูกในน้ำ หรือในอากาศ(ก็กล้วยไม้ไง)
แต่ทำไมผมจึงอยากได้ตัวเคย หรือลูกกุ้ง มาทำปุ๋ย ทำไมไม่ไปใช้ปลาเป็ด หรือสัตว์ชนิดอื่นๆ
เคยทราบมาว่า นักขยายพันธุ์พืชบางท่านพบว่า กะปิ ที่ใช้ทำน้ำพริก หรือแกงกินกันนั้น ถ้าเอามาละลายน้ำ แล้วเอาไปทาที่กิ่งตอน กิ่งตอนจะงอกรากได้เร็วพอๆกับการใช้ฮอร์โมนเร่งราก ผมเก็บความสงสัยนี้ไว้นาน เพราะไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า กะปิ เกี่ยวข้องกับ NAA อย่างไร กะปิมีกลไกอะไรที่ไปกระตุ้นให้กิ่งตอนออกรากได้พอๆกับ สารเคมี NAA ที่เขาใช้กันในวงการขยายพันธุ์พืชมานาน
ต่อมา มีการศึกษาเกี่ยวกับการสกัดสารจากเปลือกกุ้ง เปลือกปู แล้วนำสารนี้ไปใช้เป็นเครื่องสำอาง และมีผู้นำมาใช้กับการเกษตร ก็พบว่า ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี สารตัวนี้คือ Chitin และ Chitosan ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในเปลือกของสัตว์ตระกูล กุ้ง ปู และแมลงเปลือกแข็ง (เราเคยเข้าใจผิดว่ากินเปลือกกุ้งแล้วจะได้รับแคลเซี่ยม ที่บอกว่าเข้าใจผิดก็เพราะว่า ในเปลือกกุ้งมี Chitin มากกว่าแคลเซี่ยม)
สมัยเด็กๆ ผมเคย เชเคย คำว่า เชเคย คือ การตำเคยด้วยครกไม้ที่ทำจากท่อนซุง เชเคย คือ การตำลูกกุ้งที่หมักเกลือและน้ำตาลจนได้ที่ ตากไว้พอหมาดๆ สะเด็ดน้ำดีแล้ว ก็เอามาตำ ให้กลายเป็น กะปิ สากที่ใช้ก็จะเป็นไม้กลมขนาดใหญ่เล็กกว่าแผ่น CD เล็กน้อย ซึ่งจะหนักมาก พอตำลงไปจะยกสากไม่ขึ้น เพราะสากมีน้ำหนักมาก และมีแรงดึงของกะปิ ดังนั้น จะต้องบิดสาก เพื่อยกสากขึ้นมาตำใหม่ได้
บันทึกนี้ ผมอยากจะบอกว่า ผมพบความเชื่อมโยงระหว่าง กะปิ กับ การงอกรากของกิ่งตอน
ผมเรียนรู้มาทางวิทยาศาสตร์การเกษตร ที่นิยมชมชอบการใช้สารเคมี จนคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรมาทดแทนสารเคมีได้ แต่พอผมเชื่อมโยง กะปิ กับ NAA ได้ ผมก็เริ่มรู้ว่า.......
- บล็อกของ ลุงพูน
- อ่าน 10504 ครั้ง
ความเห็น
ลุงพูน
18 พฤษภาคม, 2010 - 10:59
Permalink
ต้องลองทำน้ำหมักก่อนครับ
เศษปลาที่เหลือ เปลือกไข่ ของสดๆ ก็หมักเอาไว้พวกหนึ่ง
ส่วนพวกที่ผ่านไฟแล้ว เศษอาหารเหลือกินที่ยังไม่บูด ก็หมักไว้อีกพวกหนึ่ง
สวนสุขารมย์
18 พฤษภาคม, 2010 - 08:31
Permalink
ลุงพูน
ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ จะคอยติดตามค่ะ
เวลาพบกันสั้นนิดเดียว
vision
18 พฤษภาคม, 2010 - 12:49
Permalink
ขอบคุณครับลุงพูล
ได้ความรู้ให่มอีกแล้วเรากะปิหมดกระปุกแน่เลย
เงินทองเป็นมายาข้าวปลาเป็นของจริง
toy_za2519@hotmail.com
ยายอิ๊ด
18 พฤษภาคม, 2010 - 14:39
Permalink
ขอบคุณลุงพูน
ตอนเด็กเคยเห็นแม่ทำ ค่ะ ทั้งทำเคยเช็ดน้ำ เชเคย ก็ตำเคยนั่นเอง
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
เจ้โส
18 พฤษภาคม, 2010 - 16:06
Permalink
เชเคย......ตำกะปิ.......
ตอนเด็กๆ หน้าทำเคยต้องช่วยแม่เชเคย เชไปน้ำตาเล็ดไปเพราะมันหนักและเหนียว แต่ตอนกินอร่อย
การตอนกิ่งไม้ใช่เคยทาที่รอยควั่น มีคนบอกเหมือนกันแต่ยังไม่เคยทำว่าจะลองอยู่เหมือนกัน ขอบคุณลุงพูนนะคะที่เอาเรื่องดีๆ มาเล่า
garden_art1139@hotmail.com
ลุงพูน
18 พฤษภาคม, 2010 - 22:43
Permalink
ตอบเจ๊โส
คราวนี้ตอบถูกคนแล้วครับ
สากเชเคยหนักเพราะกะปิเหนียวครับ ต้องบิดสากนิดนึงแล้วยก จะยกง่ายกว่าครับ
วันไหนจะตอนต้นไม้หรือปักชำ ก็ลองดูนะครับ
หากจะตอนไม้ไผ่ ก็เอาขุยมะพร้าวแช่น้ำ แล้วควักกะปิ ใส่ลงไปนิดหน่อย พอเค็มๆ รากก็จะงอกดีเหมือนกันครับ หรือใส่กะปิลงในน้ำที่แช่กิ่งใผ่ ก็ได้ครับ
น้อย สวนบุรีรมย์
18 พฤษภาคม, 2010 - 17:17
Permalink
ตอนกิ่งไม่รู้ว่าใช้ความเข้มข้
ตอนกิ่งไม่รู้ว่าใช้ความเข้มข้นมากน้อยแค่ไหน
แต่ทางสระบุรี โคราชเขานิยมใช้ในการตอนกิ่งผักหวานกัน
สวนเกษตรบุรีรมย์การเกษตรแบบเสาร์เว้นเสาร์ เน้นที่เราปลูกเองกินเอง
บริการจัดทำและดูแลเว็บไซต์ ถูก ดี มีประสิทธิภาพ
ลุงพูน
18 พฤษภาคม, 2010 - 22:39
Permalink
ความเข้มข้น ตอบข้างบนแล้วครับ
ความเข้มข้น ตอบข้างบนแล้วครับ น่าจะใช้ได้ทั้งกิ่งตอนและกิ่งปักชำครับ
satjang
18 พฤษภาคม, 2010 - 17:26
Permalink
ลุงพูน
ขอบคุณมาก ๆ คะ หากควักกะปิทาเลยกิ่งตาย งั้นควรทำอย่างไรคะลุงพูน สนใจเรื่องน้ำหมัก หลาย ๆ สูตร เรพาะที่บ้านมีพื้นที่จำกัดและทำกับข้าวทุกวัน พอมาอ่านของลุงเลยได้ข้อมูลพอควรเลยคะ
...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...
ลุงพูน
18 พฤษภาคม, 2010 - 22:38
Permalink
satjang
เอากะปิละลายน้ำก่อนครับ เนื่องจากการทำกะปิ ต้องใส่เกลือ และตัวเคยที่เอามาทำกะปิ ก็ไม่ได้ล้างเอาน้ำทะเลออกก่อน กะปิแต่ละสูตร ใส่ส่วนผสมไม่เท่ากัน ดังนั้น จึงบอกว่าต้องใช้กะปิเท่าไหร่ ผสมน้ำเท่าไหร่ คงทำไม่ได้ ต้องลองดูเองก่อนนะครับ
การทำน้ำหมักชีวภาพ มีหลายสูตร หลายตำรา หลายเชื้อ ครับ ลองหาบันทึกเก่าๆอ่านดู ว่างๆจะเขียนครับ
หน้า