ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
ความจริงครูโจสั่งการบ้านหนัก ยังทำไม่เสร็จทั้งหมด (เยอะมากๆ) แต่วันนี้คุณครูป่วย..เลยขอส่งการบ้านบางส่วนเป็นกำลังใจคุณครูโจ
ก่อนจะเริ่มขอเพิ่มเติมข้อมูลเรื่องโปรโตซัวกำจัดหนูที่วางเหยื่อมาสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลา 4 สัปดาห์แล้ว ดูแล้วน่าจะได้ผลแม้นว่าจะยังไม่เคยเห็นหนูซักที โดยสังเกตุจาก (1)เริ่มมีเหยื่อบางจุดที่ไม่มีหนูมากิน (2)หมัดลดลงอย่างเห็นได้ชัด (3) แมวที่เคยอยู่ในสวนเข้ามาที่เพิงเก็บของเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสัปดาห์นี้ดูเหมือนว่าจะย้ายไปสวนอื่น และ (4) สัปดาห์ที่แล้วเห็นงูตัวสีน้ำตาล 1 ตัวเลื้อยออกจากสวนของเราไปสวนข้างๆ แทน อย่างไรก็ตามหนูยังมากินเหยื่อที่เพิงเก็บของอยู่แสดงว่ายังมีเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง เมื่อรู้สึกว่าหนูในสวนลดจำนวนลงจึงสบายใจที่จะย้ายต้นไม้ไปลงดินที่สวน
ขอเริ่มจากการบ้านแรกที่กลัวหนูที่สวนแทะเป็นที่สุด นั่นคือ "มันเลือด" ซึ่งออกรากยาวและมีใบแทงออกมาจากหัว 2 กิ่ง โดยกิ่งแรกยาวประมาณ 45 ซม. แล้วซึ่งยาวเกินกว่าที่จะอยู่ที่คอนโดแล้ว และใบกำลังจะบานออกแล้ว โชคดีที่หนูลดปริมาณลงวันนี้จึงขนไปลงดินที่สวนให้มันเลี้อยขึ้นต้นมะม่วง
การบ้านที่สองคือ "ผักเหลียง" ที่เอาไปลงดินใต้ร่มเงาของต้นขี้เหล็กตั้งแต่สัปดาห์ก่อน (เพราะไม่มีหัวที่หนูจะมาแทะ) โดยปักเฉียง 45 องศาตามคำแนะนำของ ผญ.โสทร ต้นแรกเริ่มแทงยอดยาวประมาณ 5 ซม. และต้นที่สองแทงยอดอ่อนๆ ออกมา 2 ยอด กำลังลุ้นว่าจะแตกกิ่งเยอะๆ แบบที่ ผญ. บอกหรือเปล่า
การบ้านที่สามปลูกอยู่ใต้ร่มเงาต้นขี้เหล็กใกล้ๆ ผักเหลียง แต่อยู่พื้นที่ต่ำกว่าต้น "ผักเหลียง" นั้นคือ "ผักกูด" ซึ่งวันนี้แตกยอดใหม่แผ่ใบสวยงามดีครับ โดยปลูกอยู่ใกล้ๆ บ่อน้ำเล็กๆ (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 เมตร น้ำลึกประมาณ 20-30 ซม.)
เรื่องแสงแดดคงไม่น่าเป็นห่วง เพราะอยู่ใต้ร่มเงาของต้นขี้เหล็กซึ่งไม่ทึบมาก พื้นดินที่เห็นเป็นหินๆ แบบนี้ไม่แล้งนะครับ แม้ว่าจะฝากเทวดาเลี้ยง ผมตรวจสอบดินบริเวณนี้แล้วว่า แม้นว่าฝนจะไม่ตกดินก็ชื้นอยู่เสมอเพราะอยู่ระหว่างบ่อน้ำเล็กๆ
และร่องน้ำเล็กๆ ที่เกิดจากการตักดินไปถมริมตลิ่งให้สูงขึ้น
ส่วนร่องน้ำเล็กๆ นี้ก็จะไปต่อกับลำห้วยเล็กๆ จากต้นน้ำบนภูเขา
จากจุดที่เห็นในภาพข้างบนไปทางซ้าย ลำห้วยก็จะไหลเอื่อยๆ ไปต่อกับอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กของกรมชลฯ
ดังนั้นเรื่องไม่มีน้ำก็น่าจะหมดห่วง ตอนนี้กำลังลุ้นว่าเดือนตุลาคม และพฤศจิกายนน้ำจะเยอะจนท่วมบริเวณที่ปลูกต้น "ผักเหลียง" และ "ผักกูด" หรือไม่ จะติดตามทุกสัปดาห์ครับ ถ้าท่วมเมื่อไหร่จะรีบย้ายต้นทันทีครับ ขอให้ครูโจหายป่วยเร็วๆ นะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงต้นไม้ 3 ชนิดนี้ครับ
- บล็อกของ teerapan
- อ่าน 9589 ครั้ง
ความเห็น
สายพิน
9 ตุลาคม, 2011 - 00:16
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
ครูโจไม่สบาย ... เจอการบ้านที่ส่งต้องตรวจ เอาใจช่วยครูโจตรวจการบ้านเลยค่ะ ... ผ่านแน่ ๆ น้องนึก ... เข้าใจส่งช่วงครูไม่สบายนะคะ
teerapan
9 ตุลาคม, 2011 - 00:44
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
ขอบคุณครับพี่สายพิณ ต้นไม้ที่สวนต้องอดทน :crying3:
เพราะฝากเทวดาเลี้ยงครับ :dong: ระบบน้ำยังไม่ได้ทำ
เลยต้องเลือกทำเลดีๆ สักหน่อย กลัวสอบตก :shy:
“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison
ดาวเรือง
9 ตุลาคม, 2011 - 04:38
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
บ้านพี่มีหนูแยะค่ะ ถ้าวิธีไหนดีแนะนำด้วยค่ะอยากทำทุกอย่างให้หนูมันหายไปน่ะค่ะ
teerapan
9 ตุลาคม, 2011 - 06:49
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
:sweating: พี่ดาวเรือง ผมก็ความรู้น้อยครับ แต่ที่บ้านแม่ก็มีปัญหาลองทั้งยาเบื่อหนู กรงดักหนู กาวดักหนู ส่วนใหญ่แล้วหนูมันจะฉลาดมากๆ ถ้าวิธีไหนใช้ได้ผลแล้วจะใช้ซ้ำไม่ค่อยได้ผล ต้องทิ้งช่วงหลายสัปดาห์ถึงจะใช้วิธีเดิมได้อีก ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นใหม่แล้ว (หนูอายุประมาณ 4 สัปดาห์ก็จะโตพอจะเริ่มทำลายพืชได้แล้ว และอายุ 3 เดือนก็จะขยายพันธุ์รุ่นถัดไปได้แล้ว) และพบว่าจริงๆ แล้วรังของหนูที่เป็นปัญหาบ้านที่บ้านแม่อยู่ในบ้านของเพื่อนบ้าน (ปกติหนูจะหากินอยู่ภายในอาณาเขตประมาณ 1400-1700 ตารางเมตร) จึงค่อนข้างยากในการจัดการ
วิธีของกรมวิชาการเกษตรที่ผมพูดถึงในบล๊อกก่อนหน้านี้เป็นศัตรูทางธรรมชาติของหนูในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เจริญในลำไส้ของงูเหลือม และมีลักษณะเฉพาะเจาะจงกับหนูเท่านั้น (จีงไม่เป็นอันตรายต่อสุนัข กระรอก และแมว เหมือนการใช้ยาเบื่อหนู) รวมทั้งออกฤทธิ์ช้า (ประมาณ 10-15 วัน) ทำให้หนูจะมาทานซ้ำ ราคาย่อมเยา(ชิ้นละ 2 บาท) แต่...ผมไม่คิดว่าจะมีขายที่สวีเดน และอายุของเหยือจะสั้นประมาณ 3 เดือนเท่านั้น แถมวิธีอินทรีย์แบบนี้จะต้องใช้ต่อเนื่องกันหลายสัปดาห์จึงจะเห็นผล ดังนั้นไม่น่าจะเป็นวิธีที่ดีในทางปฏิบัติของพี่ดาวเรืองซึ่งอยู่ต่างประเทศ วิธีที่ 2 ที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำคือเลี้ยงนกแสกซึ่งพี่ก็จะทำไม่ได้อีก สงสัยว่าพี่อาจจะต้องหาวิธีที่เป็นวิธีธรรมชาติที่เหมาะกับทางสวีเดนแทนมั้งครับ
“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison
สาวน้อย
9 ตุลาคม, 2011 - 08:10
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
ท่าทางจะผ่านนะคะ พี่นึก:cheer3:
ชีวืตที่เพียงพอ..
teerapan
9 ตุลาคม, 2011 - 18:11
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
:cute2: ขอบคุณครับ แต่คุณครูยังนอนซมอยู่เลย ไม่รู้ว่าจะมาตรวจได้เมื่อไร
“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison
4117
9 ตุลาคม, 2011 - 09:41
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
รบกวนถามคุณนึกเรื่องต้นผักเหลียงค่ะ ใช้วิธีปักเฉียง45 องศา ใช้เวลาประมาณไหนถึงแตกกิ่งย่อยๆใหม่ๆออกมาค่ะ แล้วต้องนำใปปักตรงๆอีกไหมค่ะ พอดีจะหามาปลูกกินเองที่บ้านหนึ่งต้นค่ะเพราะทราบว่ามีคุณค่าทางอาหารดีและเป็นไม้ในร่มคือจะปลูกใส่กระถางไว้ในร่มค่ะ ส่วนผักกูดก็อยากหามาปลูกเอาไว้กินเหมือนกันค่ะ ขอให้ต้นไม้คุณนึกโตไวๆ รอดจากพวกหนู วัชพืขและแมลงศัตรูพืชค่ะ :cheer3: เห็นวิธีการทำงานแล้วเป็นวิชาการดีมากๆ อดชื่นชมไม่ได้ :admire:
teerapan
9 ตุลาคม, 2011 - 18:16
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
เรื่องผักหลียงต้องถามผู้ใหญ่โสทร ผมเพิ่งเคยปลูก 2 ต้นแรกใช้เวลาประมาณ 3สัปดาห์จึงเริ่มแตกกิ่ง เรื่องปักเอียงผมเข้าใจว่าก็ทิ้งไว้แบบนั้นเลย เดี๋ยวมันก็ออกกิ่งมาทำให้สมดุลเอง. อีกอย่างต้นผักเหลียงไม่สูงจะเอียงๆหน่อยก็คงไม่เป็นไรครับ
“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison
4117
9 ตุลาคม, 2011 - 19:41
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
ใช้เวลานานเหมือนกันเพราะเคยอ่านเจอมาว่าวิธีการปำชำสำหรับผักเหลียงจะมีอัตราการเติยโตน้อย(ช้า)ค่ะ ต้นผักเหลียงหากลงดินจะแพร่พันธุ์แบบรากไหลค่ะ นอกจากนี้จะมีวิธีการตอนในการแพ่รพันธุ์ ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ
:cheer3:
jo korakod
9 ตุลาคม, 2011 - 20:48
Permalink
Re: ส่งการบ้านครูโจครั้งที่ 1
ปักชำนานค่ะ ต้องขุดแยกต้นอ่อนมาเลย เร็วกว่า ปักเอียง ไว้ตลอดเลยค่ะ จะแตกยอดออกมาหลายยอดค่ะ
ตามการทดลองของ ผู้ใหญ่โสค่ะ..
facebook https://www.facebook.com/ninkmax
หน้า