ส่งการบ้านน้ำหมักลูกยอลุงพูน และพี่ธนนันท์

หมวดหมู่ของบล็อก: 

หลังจากได้อ่านเรื่องน้ำหมักลูกยอของลุงพูน และสาระพัดน้ำหมักของพี่ธนนันท์ ทำให้ได้แรงบันดาลใจในการปลูกต้นยอ และทำน้ำหมักลูกยอ

พี่เจ๊หนูแหม่มผู้ใจดีได้ความอนุเคราะห์ต้นกล้ายอ ต้องขอขอบพระคุณไว้ที่นี้ด้วยนะครับ ซึ่งตอนแรกพี่เจ๊หนูแหม่มจะให้ต้นเดียว พอเอาเข้าจริงๆ เอามาให้เยอะมาก  ซึ่งผมยังคงอนุบาลต้นยอเหล่านี้ไปอีกสักพักกว่าจะได้เอาไปลงดินที่สวน  และคงต้องรออีกหลายปีกว่าจะได้ลูกยอมาใช้หมัก  แต่นั่นไม่ได้หยุดเรื่องการทำน้ำหมักลูกยอเพราะว่า...เรามีเพื่อนบ้าน..อิ อิ  เมื่อมีโอกาสไปเก็บผัก/ผลไม้จากที่สวนเพชรบุรี จึงขอไปเก็บลูกยอของเพื่อนบ้านกลับมาสัก 4 กิโลกว่า

ส่วนภาชนะที่จะใช้หมัก  ยังไม่กล้าใช้พลาสติกเพราะคิดว่าน้ำหมักเป็นกรด  กลัวว่าจะมีสารจากโหลพลาสติกถูกละลายปนไปในน้ำหมัก  จึงไปหาโหลแก้วแบบของลุงพูน  แต่ราคาโหลแก้วขนาด 5 ลิตรที่หาได้แถวบ้านตั้ง 400 กว่าบาท  จึงเปลี่ยนเป้าหมายไปหาขวดแก้วแทน  ปรากฎว่ามีคนขายขวดไวน์ขนาด 5 ลิตรในราคา 40 บาทต่อขวดเองจึงเปลี่ยนใจไปใช้ขวดไวน์แทน 

สูตรที่จะใช้คือลูกยอ 3 กิโล น้ำตาลทราย 1 กิโล น้ำ 5 ลิตร  ปัญหาแรกคือปากขวดมันเล็ก  เลยเสียเวลาหั่นลูกยอตั้งชั่วโมงกว่าเพื่อยัดเข้าปากขวดไวน์  ผมตัดสินใจหมักแบบแห้งคือยังไม่ใส่น้ำ  ใส่ลูกยอที่หั่นแล้วกับน้ำตาลทรายเท่านั้น

ปัญหาที่สองคือหลังจากใส่น้ำตาลกับลูกยอ  มีน้ำซึมออกมาจากลูกยอเองประมาณสัก 3 ลิตรได้  เอ.. แล้วผมจะใส่น้ำ 5 ลิตรได้อย่างไร  เพราะขวดไวน์ขนาด 5 ลิตรเอง :confused:

ผ่านไป 7 วันลูกยอค่อยๆ ยุบตัวลงมาจนน้ำท่วมเนื้อลูกยอทั้งหมด  มีฟองพอสมควร  จะต้องหมั่นคายเกลียวปากขวดให้แก๊สออกทุกวัน (โดยไม่เปิดฝาขวด) สรุปแล้วผมเติมน้ำเพิ่มได้ไม่ถึง 5 ลิตรตามสูตร (น่าจะเติมไปได้ประมาณ 2 ลิตรเอง)  จะเอาเนื้อลูกยอออกก็ลำบากเพราะปากขวดมันเล็ก  แต่ผมก็เติมน้ำจนใกล้เต็มขวดตามรูปข้างบน

ต้องรออีก 3 เดือนกว่าจะได้น้ำหมักสมบูรณ์  ถึงเวลานั้นคงต้องมาลุ้นกันว่าน้ำหมักจะออกมาเป็นอย่างไร  เพราะใส่น้ำน้อยกว่าสูตร  และไม่รู้ว่าถึงเวลาเนื้อยอจะเปื่อยจนผมจะเอาเนื้อยอออกมาจากขวดได้หรือไม่ :shy:

ความเห็น

โห พี่นึก ลงมือซะแล้ว...งั้นขอลอกการบ้านนะคะ

ชีวืตที่เพียงพอ..

ถ้าจะเอาตามสูตรนี้แนะนำให้หาภาชนะใหญ่สัก 7 ลิตรนะครับ  ของพี่มันเล็กไปหน่อย  หรือไม่ก็ต้องปรับลดสัดส่วนลงไป  ขวดแก้วขนาด 5 ลิตรน่าจะหาที่โรงพยาบาลได้ไม่ยากแต่จะเป็นขวดสีชานะครับ (ถามพวกที่ lab ดู) :cheer3:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

หึ!หึ! ไม่รู้ว่าจะแอบดูก่อนดีหรือจะตรวจการบ้านก่อนลุงพูนดี ไหน ๆ ก็มาแล้ว ขอดูหน่อยละกัน ที่จริงหัวใจสำคัญในเรื่องการหมักคือ ทดลองด้วยตัวเอง เรียนรู้ด้วยตัวเอง ทำเอง กินเอง ใช้เอง ต...เอง

เรื่องเอาน้ำออกมาใช้ไม่น่าจะเป็นปัญหามากนัก แต่ปัญหาที่น่าเสียดายคือ โอกาสที่จะใช้น้ำฝาถัง จะหมดไป เพราะไม่มีฝาให้น้ำเกาะ ซึ่งประโยชน์ของน้ำฝาถัง ถ้าใครมีน้ำหมักและได้ใช้ จะรู้ว่าเป็นสมบัติที่มีค่ามากกกก...

อีกอย่างคือ ถ้าหมักไปจนเป็นวุ้น จะเอาออกลำบากมาก ถึงมากที่สุด อาจต้องเคาะปากขวดให้แตกเลย เพราะวุ้นเป็นสิ่งเดียวที่ผู้ชายทุกคนที่ลงทุนหมักใฝ่หามากที่สุด ถ้าไม่เชื่อถามลุงพูนดูได้เลย ถ้าลุงบอก ลุงไม่รู้ ลุงแก่แล้ว (เชื่อได้เลยลุงไม่อยากบอก...อิอิ)

:cute2: ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ  จะค่อยๆ ลองไปครับ  ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หมักมีเรื่องให้เรียนรู้เยอะ  สนุกดีตอนทำนี่ละครับ  แต่ไม่รู้ว่าถึงเวลาหมักเสร็จตัวเองจะกล้าดื่มน้ำหมักหรือเปล่า :uhuhuh:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

 

 

       เหอ!เหอ! ลองดูแล้วจะซึ้งคำว่า...น้ำหมักเป็นยาสามัญประจำบ้าน...:uhuhuh:

 

                              ...ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้...

โห้.ขวดใหญ่จัง :uhuhuh: โหวตเด้อพี่น้อง :sweating:

ชีวิตไม่ได้เกิดมา เพื่อยอมแพ้

:shy: งานนี้เลยทำให้รู้ว่าไวน์ที่เราดื่มในงานเลี้ยง cocktail ตามโรงแรมเขาใส่ขวดแก้วขนาด 5 ลิตรแบบนี้นี่เอง  พอแขกกินกันหมดขวดแล้วทางโรงแรมก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับขวดพวกนี้ก็มักจะทิ้ง หรือชั่งกิโลขาย  ผมซื้อมา 40 บาทถือว่าแพงกว่าชั่งกิโลขาย (ราคาแก้วขาย 1-3 บาทต่อกิโล) อยู่มาก

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

การบ้านเรื่องของคุณครู แต่ขวดสวยค่ะ


เอาตำลึงไปทำน้ำหมักกันเห้อ :uhuhuh:

sudjai_waitong@hotmail.com
     0805401058

ตำลึงหมักได้ด้วยหรอ วันหลังต้องลอง  :cheer3: :cheer3:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

ใส่ขวดแก้ว  แบบนี้  บอกได้คำเดียวว่า  กล้าๆๆๆๆกิน  ถ้าใส่ถังดำ  แล้วเอามากิน คนอื่นอาจจะไม่เป็นไร แต่ฉันต้องเข้า  โรงพยาบาลแน่ๆ

หน้า