มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
เธอที่รักทุกคน
ความจริงแล้วสิ่งที่มันเกิดขึ้นทุกวันนี้ ถ้าเธอหวนกลับไปมองสู่อดีต ฉันพูดไว้นานแล้วว่า
เหตุการณ์ต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ก็เพราะคนไทยหลงอยู่กับความสบาย
จนกระทั่งรากฐานจิตใจอ่อนแอ เห็นอะไรที่มิใช่ของตัวก็อยากได้ คอรัปชั่นก็เต็มบ้านเต็มเมือง
เศรษฐกิจย่ำแย่ก็แก้ไม่ตก การจัดการศึกษาก็ไม่ได้ทำให้คนเป็นมนุษย์
ถ้าฟังเสียงจากภายนอก ต่างชาติเขาพูดกันว่าคนไทยไม่รู้จักความยากลำบาก
ความจริงน้ำท่วมครั้งนี้ ถ้าเธอไม่ใช่คนลืมง่าย เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๕ มันก็เกิดไม่น้อยไปกว่านี้
เว้นไว้แต่ว่าคนไทยสมัยนั้นไม่ได้สร้างวัตถุมากมายเหมือนปัจจุบัน จึงไม่เดือดร้อนเช่นทุกวันนี้
ฉันจำได้ว่า เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๕ น้ำมันท่วมถึงชั้นที่สองของบ้าน
แต่คนไทยก็ยังอยู่กันได้ถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ
ขณะนั้นฉันมีอายุ ๒๑ ปี
แต่ทุกวันนี้เรากลับทำลายธรรมชาติ
ภูเขาหินปูนลูกใหญ่ๆ ในจังหวัดสระบุรี ลพบุรี และที่ปากช่อง เป็นต้น หายไปเยอะ
เปลี่ยนไปเป็นตึกสูงๆ แม้แต่มหาวิทยาลัยก็มีการก่อสร้างกันอย่างเอิกเกริก
การศึกษาที่ทำลายสิ่งแวดล้อมนี่เองที่ได้ทำลายจิตใต้สำนึกของมนุษย์
ทำให้สังคมแย่ลงไปทุกที ยิ่งแก้ไขก็ยิ่งตกต่ำ
ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดการจัดการศึกษาทางเลือก
การศึกษาที่จัดให้คนนั่งอยู่ในตึกสบายๆ
แล้วจะหวังให้ลูกศิษย์จบไปแล้ว ลงทำงานติดดินมันก็คงเป็นไปได้ยาก
ยิ่งกว่านั้นตัวผู้ใหญ่เองซึ่งเป็นผู้บริหารก็เช่นกัน หากรักแต่จะประชุมอยู่แต่ในตึกอยู่ในห้องแอร์
ลูกศิษย์จะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างไร
เพราะถ้าหัวไม่ส่าย หางมันจะกระดิกได้อย่างไร
ฉันคิดว่าน้ำท่วมครั้งนี้มันน่าจะสอนให้เธอทั้งหลายรู้จักอดทน
เพราะถ้าเธอต่อสู้กับใจตนเองไม่ได้ แล้วจะไปสู้กับอะไรที่ไหน
ฉันขอฝากเรื่องนี้เอาไว้ให้เธอกลับไปนอนคิด
ฉันไม่รู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้ มันจะเกิดขึ้นอีกสักกี่ครั้ง
ถึงจะช่วยให้เธอรู้จักตัวเองดีขึ้น และไม่ไปทำลายธรรมชาติ
เช่นเดียวกับเรื่องความพอเพียงที่พูดกันแต่ปาก หากไม่รู้จักทำ
มีแต่การพูดกันไปต่างๆนาๆ โดยหาจุดจบได้ยาก
ฉันอายุ 90 ปีแล้ว
ฉันขอเป็นกำลังใจให้เธอทุกคนได้เรียนรู้กับความยากลำบากและอดทนทำงานหนัก เพราะการทำงานหนักคือความสุขที่แท้จริง
ขอให้ชีวิตจงมีความสุขเพราะการทำงานให้แผ่นดิน
โปรดอย่าคิดว่าการทำงานให้แผ่นดินนั้นจะต้องทำให้กับส่วนรวมเสมอไป
แม้แต่การประกอบอาชีพอย่างดีที่สุดโดยมีความซื่อสัตย์สุจริต
ก็ถือได้ว่าคือการทำงานให้แผ่นดินเช่นกัน
วันที่ 27 ตุลาคม 2554
กาญจนบุรี
ที่มา: www.prasong.com/.../
- บล็อกของ boston
- อ่าน 3512 ครั้ง
ความเห็น
สาวน้อย
1 พฤศจิกายน, 2011 - 19:25
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
เห็นด้วยค่ะ
ชีวืตที่เพียงพอ..
หนูนิว
1 พฤศจิกายน, 2011 - 20:16
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
ขอบคุณแง่คิดดีๆ แบบนี้นะคะ
ป้าเล็ก..อุบล
1 พฤศจิกายน, 2011 - 20:48
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
อือ.โดนๆๆ เข้ากับคนบ้านสวนเลยนะ การทำงานหนักคือความสุขที่แท้จริง
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
ป้าลัด
1 พฤศจิกายน, 2011 - 22:04
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
ขอบคุณค่ะ :cute:
เกษตรมือใหม่
1 พฤศจิกายน, 2011 - 22:13
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
โดนใจครับ :admire2:
jo korakod
2 พฤศจิกายน, 2011 - 02:01
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
ชอบเป็นพิเศษค่ะ
ติดตามงานท่านมาตลอดเลยค่ะ
:admire2:
facebook https://www.facebook.com/ninkmax
สนิทเมืองอุดร
2 พฤศจิกายน, 2011 - 06:44
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆครับ
ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
ธีรยุทธ สรรพกิจ
2 พฤศจิกายน, 2011 - 12:29
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
เห็นด้วยครับ
ถ้าชนะใจตัวเองได้ ก็จะชนะอะไรได้ทั้งหมด
ธีรยุทธ สรรพกิจ
2 พฤศจิกายน, 2011 - 12:29
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
เห็นด้วยครับ
ถ้าชนะใจตัวเองได้ ก็จะชนะอะไรได้ทั้งหมด
แดง อุบล
2 พฤศจิกายน, 2011 - 15:29
Permalink
Re: มองน้ำท่วมในด้านสร้างสรรค์ โดย อาจารย์ระพี สาคริก
ขอบคุณมากเลยค่ะ :beg:
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
หน้า