สาวน้อย(ไม่)มหัศจรรย์..ตอน..ลงทะเบียนเรียนน้ำหมัก วันนี้หมักมังคุดค่ะ

ตอนนี้วิชาน้ำหมัก กำลังฮิต ทั้งในบ้านสวนเรา และนอกบ้านสวน ผู้สูงอายุที่รู้จัก หมักน้ำหมักกันหลายราย ด้วยบทบาทของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จำเป็นต้องศึกษาข้อมูล ของน้ำหมัก ก็ได้เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ เริ่มตั้งแต่ ลุงพูน ลุงพี่ พี่วัชรินทร์ ธนนันท์ จนถึงวันนี้ ก็ยัง งงๆ กับอิทธิฤทธิของน้ำหมักที่ใช้รับประทานอยู่ ยังกล้า ๆกลัว ๆเหมือนป้าเล็ก  เลยต้องทดลองกับตัวเองก่อน หลังจากหมักน้ำหมัก รดปุ๋ย ล้างจาน ไล่แมลง  ก็ลองมา หมักผลไม้สำหรับกินดูบ้าง เริ่มจากวิชาไวน์พิลังกาสา ที่ผ่านการตรวจจากบุคลสำคัญในบ้านสวน นับแต่ผู้ใหญ่ ที่ปรึกษาท่านประธาน พี่สัยและที่สำคัญผู้ปกครองพี่สัยติดใจเสียด้วย ..*-*..  จบวิชาบ่มพิลังกาสา... เลยมาลองหมักมะขามป้อม..ซึ่งออกผลตามฤดูกาลพอดี..ได้มา 1 โหล ตอนนี้ครบ 2 เดือนแล้ว..เวลาเปิดขวดดู..กล้า ๆกลัว ๆ เพราะสีช่างไม่น่ารับประทานเอาเสียเอย จนกระทั่ง 2 สัปดาห์ก่อน ไอ แค่ก ๆ มาตลอดสัปดาห์..นวดคนไข้ไป ก็ไอ ไป จนคนไข้ดุ .."หมอ..มะขามป้อมหมักไว้ทำไมไม่เอามากิน..แหมสอนเค้าดีนัก ไอกินมะขามป้อมสิคะ" โดนเข้าคำนี้..หมอน้อยจ๋อย..เจ้าค่ะ ..ค่ำนั้นเลยต้องกลับมา เปิดฝาน้ำหมักมะขามป้อมอีกครั้ง...กลั้นใจ คน ๆ แล้วตักทั้ง น้ำ และผล ขึ้นมา นำน้ำมะขามป้อม 1 ช้อน ผสมน้ำต้มสุก  1 แก้ว  ..แล้วหยิบลูกมะขามป้อม มาชิม 1 ลูก...อื้มรสชาติใช้ได้เลยนี่ มีรสฝาดอมฝาดนิด กินแล้วชุ่มคอดี... และแล้ว ลูก  ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และ 5 ก็หายลงท้องภายใน ครึ่งชม...หลังจากนั้นก็มาจิบน้ำมะขามป้อใหมัก จิบแรก..โอเค รสชาติ หวานปนฝาดเช่นกัน.. งั้น..ลองเติมน้ำหมักสมอ เข้าไปสักนิด..คน ๆ ชิมใหม่..รสชาติแจ่มกว่าเดิม... หมดแก้วอีกเช่นกัน..เหลือรอลุ้น .หนึ่งคืนผ่านไป อาการไอลดลง อาการท้องเสียไม่แสดง ..รุ่งขึ้นเลย ตักใส่ขวดไปทำงานด้วย จิบเรื่อย ๆ ..จนเย็น..เหตุการณ์ปกติ.. ไอ นาน ๆ ครั้ง ท้องใส้ ก็ไม่ปั่นป่วน ..หลังจากวันนั้น จิบน้ำมะขามป้อมอยู่ 3-4 วัน จน หยุดไอ ..แอบกลับมาดื่มน้ำเย็นต่อ.. เลยไอแค่ก ๆ ประปราย แต่ใช้น้ำหมักมะขามสกัด..ซึ่งก็ได้ผล..เมื่อทดลองกับตัวเอง ไป  3 วิชาแล้ว  แอบเห็นครูตี๋ ส่งการบ้านน้ำหมักสับปะรด...เลยอาศัยช่วงสับปะรดถูก หมักกับเค้าบ้าง ...เมื่อเช้าน้ำหมักครบ 1 เดือน ไปเปิดมา มีฝ้าขาวบาง ๆ กลิ่นแอลกอฮอล์โชยมาเลย...เลยปิดต่อ ...จนมาถึงวิชาน้ำหมัก ที่น้องธนนันท์ เล่าถึงสรรพคุณอันหลากหลาย..เลยอดไม่ได้ที่จะลอง...วันนี้ได้ไปเจอมังคุด กิโลละ 25 บาท เลยถือโอกาศซื้อมาลองวิชาซะเลย ..ฝากคุณครูชี้แนะนด้วยนะคะ 

วันนี้อยู่ร้าน เน็ตร้านช้ามาก เปิดดูวิธีทำไม่ได้เลย อาศัยความจำ  ..ลุงพูนบอกว่าล้างให้สะอาด ตัดขั้วแล้วเลยแช่น้ำผสมผงฟูไว้ 30 นาที อันนี้ลุงพีแนะนำ..จะทำให้ล้างสะอาดขึ้น..

แล้วก็นำมาหั่น ๆ..วันนี้เกือบซื้อรอยเก่า หั่นพลาดโดน นิ้วเดิม ( 2 แผลติดกัน ) คมจริง ๆ ก่อนหั่น ลวกอุปกรณ์ทุกอย่างค่ะ

มังคุด 3 กก. ได้มาแค่นี้ค่ะ...เตรียมใส่โหล

เป็นความถนัดของน้อย ชอบใส่น้ำตาลทรายแดง.. ไม่ทราบว่าถูกต้องไหมค่ะ..เป็นความชอบส่วนตัวว่าใส่สีนี้ สีจะสวย..

ใส่มังคุด สลับกับน้ำตาล 1 กก. จนหมด เติมน้ำ 5 ลิตร แอบแถมน้ำตาลแดง ไปอีกนิดกลัวไม่หวานพอ..(นร.คนนี้ชอบออกนอกลู่นอกทาง)

หลังจากใช้แก้วหมัก..เห็นถึงความไม่สะดวกในการเคลื่อนย้าย เลย กลับมาใช้โหลพลาสติก..ไม่ทราบว่าจะมีผลอะไรไหมคะ วัตถุประสงคืของการหมักมังคุด  คือจะนำมาทดสอบสรรพคุณ ในการบำรุงผิวหน้า เพราะมังคุดมีฤทธิ์ด้าน ฝาดสมานอยู่แล้ว ถ้าหมักจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนอย่างไร...

ระหว่าง เก็บอุปกรณ์เลยชะโงกมอง น้ำหมักรางจืด ที่หมักมา 1 เดือนแล้วเหมือนกัน ..น้ำหมักรางจืดมีเป้าหมายไว้ทดสอบ การชะล้างสารพิษในผัก..ตั้งสมติฐานว่า เอานำหมัก ผสมน้ำแช่ผัก จะทำให้สารพิษหมดไปหรือไม่...ได้ทดสอบเมื่อไหร่ จะรายงานความคืบหน้านะคะ

อีก 1 ที่ขอคำปรึกษา... รวบหญ้าจากการถากถางสวนสมุนไพร ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 30 เมตร   ได้มา 1 กอง  เรากองแบบนี้ได้เลย หรือต้องซ้อนผ้ายางก่อนไหมคะ...สัปดาห์หน้าว่าจะเริ่มค่ะ..

  อย่างที่กล่าวข้างต้น... วิชาน้ำหมัก...สาวน้อย ยังด้อยความรู้อยู่...แต่เมื่ออยากเพิ่มพูนความรู้ ก็ต้องใช้คำพังเพยที่ว่า สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น (ขอแปลงนิดหนึ่ง ) สิบตาเห็น ไม่เท่า(เรา)ปฏิบัติและชิมเอง..ไว้จะน้ำน้ำหมักที่หมักไว้ให้ น้องห้องแลป ทดสอบการปนเปื้อนดูนะคะ...แล้วจะบอกเล่าประสบการณ์ต่อค่ะ