ซีรีย์..ความพอเพียง..เพื่อเพียงพอ # 16 มัดข้าว

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ช่วงนี้ยุ่ง ๆ กับการจัดการนาข้าว ปีนี้ทำนานานเลยครับเพราะจ้างแรงงานไม่ได้จึงต้อง ลงแขกกันในเครือญาติ รวมจำนวนคนก็ 10 กว่าคนทำเก่งบ้างไม่เก่งบ้างก็ช่วย ๆ กันทำ ในเมื่อคนงานติดงานยิ่งกว่าหมอลำคณะดัง ๆ ทิ้งไว้นานก็เสี่ยงต่อดินฟ้าอากาศที่เอาแน่นอนไม่ค่อยได้ จึงรวมตัวกันลงแขกทุกขั้นตอนการทำนาซะเลยครับ วันนี้จะพาไปชมวิธีการมัดข้าว เป็นมัด ๆ มันมีเทคนิคที่น่าสนใจไม่น้อยครับ ซึ่งผมก็พึ่งทำเป็นนี่แหละครับ ปีแรกที่ได้ทำอย่างจริงจัง  ฮ่า ๆ


วันนี้พร้อมทั้งแรงกายแรงใจเต็มที่ สู้ตายครับแดดร้อนมาก ๆ ไม่ยอมแพ้อ้ายลำใย ส่วนจะใส่แขนสั้นเหมือนพี่เขานั้นคงไม่ไหวครับ คัน มาก ๆ แม้หุ่นไม่หล่อ คม เข้ม เหมือนพี่ลำใย แต่ก็สู้ ๆ ครับ ฮ่า ๆๆๆ



อุปการที่ใช้มัด ตอก ครับ ใช้ไม้ไผ่มาทำให้เป็นเส้นเล็ก ๆ ที่บ้านผมมีไม้ไผ่ให้เลือกอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ไผ่ป่า ไม้ข้าวหลาม ไม้ไผ่บ้าน พวกนี้เป็นไม้ข้าวหลามครับ แม่น้องโฟกัสเป็นคนทำ ส่วนผมจักตอกบ่เป็นทำทีไรเสียหมด ฮ่า ๆๆๆ


จัดการแช่น้ำให้ตอกนิ่ม เหนียว ยิ่งขึ้น พร้อมนำไปใช้ มัดละ 100 เส้น


อาวุธครบมือพร้อมรบ..เอ้ย !!! พร้อมลุยครับวันนี้เต็มยศครับแดดร้อนมาก ๆ แถมยังคัน ถ้าไม่ป้องกันเดี๋ยวมีของแถมเป็นโรคฉี่หนูด้วยครับ...


มือชั้นเซียน..แม่น้องโฟกัส จัดการสอน ที่ละขั้นตอน...


ขั้นตอนที่ 1 ใช้ไม้ตอกรวบมัดข้าว แบบนี้มัด 2 รอบครับ


ขั้นตอนที่ 2 ดึงให้แน่น ๆ แล้วอิ้วตอก (หมุนตอกให้แน่น ๆ )


ดูแล้วลูกศิษย์ อย่างผมก็จัดการทำตามโดยพลัน ฮ่า ๆๆๆ ต้องลองดูครับ ดีจริง ๆ ได้แฟนเป็นชาวนา


สำเร็จวิชา มัดข้าวจนได้ครับ ฮ่า ๆ  ดีที่ชอบเดา...เลยเก่งเรื่องเดา ๆ นะครับ อิอิอิ


ไม่นานคณะลงแขกก็มาครับ ช่วยกันมัดไม่นานก็เสร็จ สามัคคีคือพลัง งานเสร้จไวจริง ๆ


มัดข้าวที่ผ่านการมัดจะต้องกลับอีกด้านขึ้นมาตากแดดไว้ 2-3 แดดให้แห้งถึงจะเก็บได้ เพื่อให้ความชื้นในเมล็ดข้าวหมดไป วิธีนี้เป็นวิธีแบบดั้งเดิมนะครับ

 


แวะไปที่สวนเก็บผัก เก็บพริก ถั่วฝักยาว มะละกอ มาทำอาหารกลางวันเลี้ยงญาติ ๆ


อาหารปลอดภัยง่าย ๆ ขาดไม่ได้ คือ ตำบักหุง ได้ถั่วฝักยาวสด ๆ ปลอดสารพิษไว้เป็นผักเคียงกับลาบ


ลาบหมู กับ ถั่วสด ๆ อร่อยครับมื้อนี้


และที่ขาดไม่ได้ คือ ตำบักหุง (ส้มตำ) ได้มะละกอสด ๆ จากสวน ต้นนี้สำหรับทำส้มตำอร่อย มีมะละกอหลาย ๆ พันธุ์ มีทั้งไว้สำหรับ กินสุก กินดิบ ง่ายเลยครับ ขอบอกว่าแซบอีหลีเด้อพี่น้อง

                    ทำนาปีนี้ในที่สุดก็ได้นำวิถีแบบเดิม ๆ มาใช้คือลงแขก เมื่อคนงานหายาก ค่าแรงพึ่งขึ้นทุก ๆ วัน จาก 220 บาท/วัน ไปเป็น 280 บาท/วัน แต่เมื่อญาติ ๆ มีการรวมตัวกันก็ช่วยให้งานสำเร็จได้โดยง่ายปีนี้ก็เป็นปีที่ได้ลุยเรื่องการทำนาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว จากเมื่อก่อนจะใช้เงินจ้าง แต่ปีนี้ได้ลงมือทำเอง ถึงจะเหนื่อย แต่ก็สุขใจอย่างบอกไม่ถูก

                     เราทำนาเพื่อเก็บข้าวไว้กินในครอบครัว ไม่ได้ทำขาย พึ่งพาแรงงานในเครือญาติ ไม่พึ่งปัจจัยภายนอก เช่นเครื่องจักร (รถเกี่ยว..เพาะแถวนี้ไม่มี) การเรียนรู้การทำนาแบบดั่งเดิมทำให้ผมรู้ว่าการทำนากว่าจะมาเป็นเมล็ดข้าวขาว ๆ สวย ๆ อยู่ในจานมันยากเย็นเพียงไร จากที่เป็นลูกแม่ค้า ลูกข้าราชการ แต่เมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยนไป จากเคยอยู่ในเมือง อยู่กับความเจริญ มาใช้ชีวิตแบบคนชนบท ทำให้ผมสามารถปรับตัวอยู่กับวิถีชีวิตแบบนี้ได้อย่างมีความสุข แม้จะเหนื่อยกาย แต่ก็สุขใจที่ได้ทำ ได้มีข้าวที่เราปลูกเองกับมือ ปลอดภัย ไม่พึ่งพาปัจจัยภายนอกมากมายนัก ก็สุข สนุก กับชีวิตแล้วครับ

จะพอเพียง....เพื่อเพียงพอ...ให้ได้ในสักวัน..

โปรดติดตามตอนต่อไป..wisit_photo@hotmail.com


ความเห็น

:admire: ยกนิ้วให้กับความขยันของครอบครัวนี้จริงๆค่ะ:admire: :admire:

ช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าว สมัยนี้หายาก อย่างนี้ต้องโหวต

ข้าวปลา อุดมสมบรูณ์

น้องสิทเรา เลย น้ำหนักคงเดิม

ไม่ว่าจะทำงานเยอะแค่ไหน

ฮิ้วววววววววว

โหวตจ้า

ขอลาบหมูกับส้มตำสักชุด :embarrassed: :embarrassed:

ข้าวมัดเล็ก ๆ แบบนี้เวลาเก็บง่ายดี เราเคยมัด ใหญ่กว่าตัวเราอีกนะ แล้วต้องโยนขึ้นรถ แต่เป็นข้าวหอมมะลิ น้ำหนักเบาหน่อย แต่ถ้าเป็นข้าวหนัก คือที่อายุมากกว่าข้าวมะลิ ต้องทำมัดเล็กหน่อย เดี๋ยวโยนขึ้นรถไม่ไหว Laughing

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

บ้านเราภาคกลาง เค้าไม่ใช้ตอก  บ้านสิงห์บุรีใช้ต้นข้าวนั้นละ  ตัดที่โคน จะได้ยาว หยิบมาเป็นกำเล็ก ๆ สองกำวางสลับหัวท้าย แล้วบิดเกลียว...มัด ไม่ได้ใช้ตอกไม้ไผ่

ดีค่ะอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยไว้ วิถีชิวิตแบบบ้านๆ เด็กๆ เดี๋ยวนี้ไม้รู้จักกันแล้ว  มะละกอลูกยาวจัง

หน้า