เพอร์มาคัลเจอร์ : ปุ๋ยหมัก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

มีคนเขียนบล็อกเรื่องวิธีการทำปุ๋ยหมักหลายท่านแล้ว  ผมคงไม่พูดถึงสูตรการทำปุ๋ยหมักอีก  แต่อยากให้เพื่อน สมช. เข้าใจว่าปุ๋ยหมักที่เราคิดว่าเหมือนกัน อาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว

คำเตือน : ท่านอาจจะต้องคุ้นเคยกับชื่อสารเคมีบ้างในการอ่านบทความต่อไปนี้

พืชต้องการอาหารแบบไหน?

จากผลการศึกษาพบว่าพืชแต่ละประเภทมีความต้องการอาหารแตกต่างกัน  อาหารสำคัญอย่างหนึ่งของพืชคือไนโตรเจน  แต่พืชแต่ละประเภทชอบไนโตรในรูปแบบแตกต่างกัน โดยสรุปคือ

1. พืชประเภทผัก พืชล้มลุก (annual) และหญ้า โดยส่วนใหญ่ชอบไนโตรเจนในรูปแบบของไนเตรทไออน (NO3-)

2. ต้นไม้ ไม้พุ่ม และพืชยืนต้น (perrenial) ต่างๆ ชอบไนโตรเจนในรูปของแอมโมเนียไอออน (NH4+)

เมื่อศึกษาต่อไปเราจะเข้าใจมากขึ้นว่าเมื่ออาหารอยู่ในรูปแบบที่ย่อยง่าย เช่น น้ำตาล แบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้เร็วกว่าเชื้อรา และขับถ่ายของเสียจากการย่อยอาหารในรูปของไนเตรท

ในขณะที่อาหารที่ย่อยยากอย่างแป้ง หรือเซลลูโรสจะไม่สามารถย่อยได้ง่ายโดยแบคทีเรีย  เชื้อราจึงสามารถเจริญเติบโตได้ดีกว่า และเชื้อราจะขับถ่ายของเสียจากการย่อยอาหารในรูปแบบของแอมโมเนีย

ผลการสำรวจประชากรของจุลินทรีย์ (จำนวนของแบคทีเรีย/โปรโตซัว และความยาวของเส้นใยของเชื้อรา) ในดิน 1 ช้อนชาจากสถานที่ต่างๆ เป็นดังนี้

  แปลงผัก ทุ่งหญ้า ป่า
แบคทีเรีย 100 ล้าน - 1,000ล้าน
100 ล้าน - 1,000ล้าน 100 ล้าน - 1,000ล้าน
รา/เห็ด หลายฟุต หลายสิบ - หลายร้อยฟุต
1 - 40 ไมล์
โปรโตซัว หลายพัน หลายพัน หลายแสน

ผลการสำรวจค่อนข้างยืนยันข้อสรุปก่อนหน้านี้  ทำให้เราต้องกลับมาพิจารณาว่าปุ๋ยหมักที่เราทำเพื่อใช้กับพืชแต่ละชนิดจะได้ผลดียิ่งขึ้นถ้าเรารู้จักปรับให้มีสัดส่วนของแบคทีเรีย และเชื้อราให้เหมาะสมกับชนิดของพืชที่เราจะเอาปุ๋ยหมักไปใส่

สัดส่วนของเชื้อราต่อแบคทีเรียของพืชแต่ละชนิดต้องการจะแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น

ตัวอย่างพืช
เชื้อรา : แบคทีเรีย
แครอท, กะหล่ำปลี, บร็อคโคลี่ 0.3:1 - 0.8:1
มะเขือเทศ, ข้าวโพด, ข้าว 0.8:1 - 1:1
หญ้า 0.5:1 - 1:1
ต้นโอ๊ก, เมเปิ้ล 10:1 - 100:1
ต้นไม้ส่วนใหญ่ 10:1 - 50:1

โดยสรุปง่ายๆ พืชล้มลุกจะชอบดินที่มีแบคทีเรียมากกว่าเชื้อรา  ในขณะที่ต้นไม้ขนาดใหญ่น่าจะชอบดินที่มีเชื้อรามากกว่าแบคทีเรีย ในขณะที่มีพืชขนาดเล็กหลายชนิดชอบดินที่มีสัดส่วนของแบคทีเรียและปุ๋ยหมักพอๆ กัน

ทำอย่างไรถึงจะปรับสัดส่วนของเชื้อราและแบคทีเรียในปุ๋ยหมัก?

หากต้องการให้มีเชื้อรามากควรจะต้องทำดังนี้

  • เพิ่มสัดส่วนของวัสดุสีน้ำตาล เช่น ใบไม้แห้ง, เปลือกไม้, ชิ้นไม้สับ (wood chips), กิ่งไม้ขนาดเล็ก, ขี้ลีบข้าว, กากอ้อย, ขุยมะพร้าว, ซังข้าวโพด, รำ เป็นต้น
  • การย่อยวัสดุ (เช่น การทำ wood chips) จะช่วยเพิ่มพื้นที่ให้เชื้อราเจริญเติบโต  แต่ถ้าย่อยจนเล็กมากเกินไปจะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีกว่าเชื้อรา
  • ควบคุมค่าความเป็นกรดด่างให้อยู่ระหว่าง pH 5.5 - 7

หากต้องการแบคทีเรียมากควรจะต้องทำดังนี้

  • เพิ่มสัดส่วนของวัสดุสีเขียว เช่น เศษหญ้าสด, เศษใบไม้สด, เศษอาหาร, ฟางข้าว, ผักตบชวา, เปลือกถั่วและต้นถั่วสด, เศษวัชพืชต่าง ๆ, อุจจาระ เป็นต้น
  • ย่อยวัสดุให้เล็กมาก เช่น ใบไม้แห้งซึ่งเชื้อรามักจะเจริญเติบโตได้ดีกว่า แต่ถ้าป่นใบไม้แห้งจนเล็กมาก แบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าเชื้อรา
  • ควบคุมค่าความเป็นกรดด่างให้อยู่ระหว่าง pH 7 - 7.5 เมื่อค่า pH ต่ำ (เป็นกรด) มากเกินไปอาจจะช่วยด้วยการเติมปูนขาวเข้าไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มค่า pH
  • เพิ่มไส้เดือนในกองปุ๋ย (ปกติถ้ากองปุ๋ยไว้กับพื้นดิน ก็อาจจะมีไส้เดือนมาอยู่แล้ว)

 

หวังว่าเพื่อน สมช. คงจะพอได้แนวคิดในการปรับสูตรของปุ๋ยหมักให้เหมาะสมกับชนิดของพืชที่เราจะนำปุ๋ยหมักไปใช้งาน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://my-experimental-farm.blogspot.com

ความเห็น

โห....กลับมาจากพัก...เริ่มวิชาการเลย นะคะพี่ชาย :nonono:

ชีวืตที่เพียงพอ..

รีบมาเม้นท์คนแรกเลยนะ :admire:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

ปกติพี่ก็ใช้วิธีเรียนรู้กับธรรมชาติค่ะคุณธีร์ นำวิชาการมาสอดแทรกให้ได้ความรู้บ้างก็ดีค่ะ ชอบจริงนะจ๊ะ โหวตให้กำลังใจค่ะ

พอดีอ่านเจอในหนังสือ teaming with the microbes ตอนไปพักร้อนนะครับ :embarrassed:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

:cute2: ขอบคุณครับพี่นันท์ เรื่องวิชาการคนไม่ค่อยชอบอ่าน แต่มันก็ช่วยเราในการตัดสินใจได้ จะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกมากนัก

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

:embarrassed: :embarrassed: :embarrassed:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยคิดอะไรมากเกี่ยวกับปุ๋ย ปลูกต้นไม้ครั้งแรกใช้ปุ๋ยคอก หลังจากนั้น อาจเพิ่มให้บางต้นถ้าดูไม่ดีเท่าที่ควร แต่ส่วนใหญ่ปล่อยให้โตเอง มีบ้างก็แค่รดน้ำให้ถ้าดูว่าขาดน้ำ

ปุ๋ยหมักยังไม่เคยลองทำเลยครับ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ส่วนใหญ่ผมก็ทำแบบนั้นครับถ้าไม่รีบ

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

หน้า