เดินสาย 2

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เดินสาย

เช้านี้ จากตรังไปหาดใหญ่ จะแวะบ้านเพื่อน แต่เห็นปิดประตู ก็เลยผ่าน

ขับรถจากหาดใหญ่กลับสวน ระหว่างทางมีชาวต่างประเทศโบกมือขออาศัย

ถามได้ความว่าจะไปสุราษฏร์ธานี พอดีเป็นทางผ่านก็เลยรับมาด้วย

เป็นชาวออสเตรเลี่ยน ชื่อ อังเดร ถามว่ามีเชื้อสายฝรั่งเศส เขาบอกว่า เชื้อสายทาง สโลวัก


มีอาชีพเป็นครูวิชาภูมิศาสตร์

เดินทางไปมาหลายประเทศ ตั้งแต่จีน อินโดนีเซีย มาเลเซืย ไทย

ถามว่ารู้จักคนนี้ไหม (นิลส์ บอร์)

เขาก็เอาไปเปิดดู มีรูปหลายรูป บอกว่าพอรู้จัก

เขาบอกว่าออกมาจากวัดแถวป่าพะยอม มีคนมาส่งที่ข้างทางให้โบกรถเดินทางต่อไป

พอมาถึงทางเข้าสวนผม ก็ส่งที่ป้อมยามตำรวจทางหลวง

จะโบกรถได้ง่าย

ความเห็น

ลุงพูนใจดีจัง ถ้าอ๊อดไปคนเดียวคงไม่กล้าจอดรับค่ะ กลัวเจอคนไม่ดีอย่างที่เคยเป็นข่าว

นี่แหล่ะน้ำใจคนไทย ถ้าเจอคนดีเขาก็จะประทับใจไปอีกนาน บอกเล่าต่อขานไม่รู้จบ มีความสุขทั้งสองฝ่าย ขอชื่นชมค่ะ

บางทีเราก็กลัวกันจนเกินไป แต่ก็กลัวไว้ก่อนนั่นแหละดี

เมื่อก่อนมีรถก็แบบนี้ละครับ แต่ต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุหน่อยเพราะเรามีภาระเพิ่มมาอีกหนึ่ง ความรับผิดชอบอยู่ที่เรา

EAKAPONG_36@hotmail.com Tel 087 959 9004

ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ความรับผิดอยู่ที่เราหมดเลย

มาชื่นชมลุงพูนค่ะ หนูกลัวจะเจอคนไม่ดีโบกน่ะค่ะ ก็ต้องระวังตัวเอง ไม่กล้ารับ

ผมเลยรับพระ มากกว่า แต่คนไทยเขาไม่ค่อยโบกกัน

คุณลุงใจดีมากค่ะ สมัยหนูเรียนเกษตร วิทยาลัยไม่ค่อยมีรถโดยสารผ่าน"เรา"ก็อาศัยโบกรถเข้าเมืองไปต่อรถกลับบ้านมีคนใจดีเยอะค่ะ แต่เดียวนี้จะกลัวอันตราย(ซึ่งก็มีเยอะ) กับคิดว่าไม่ใช่ธุระ ขอบคุณ คุณลุงแทนผู้ใจดีทุกท่านที่เคยจอดรถรับหนูค่ะ

ผมก็คยเป็น นักเรียนเกษตร เหมือนกันครับ ปกติแล้วถ้าคนในละแวกนั้นก็ย่อมรู้ดีครับว่า ใครเป็นใคร การรับส่งนักเรียนเป็นเรื่องที่ดีครับ

ประมาณปี 2517-18 ผมเคยมาเที่ยวแถวเมืองกาญจน์ (จำไม่ได้ว่าอำเภออะไร เมืองนี้หลายอำเภอจะมีคำว่า ท่า นำหน้า) กับรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งเป็นคนท้องถิ่น ขับรถไปคนโบกขึ้นรถตลอดทาง พี่เขาเล่าให้ฟังว่า คนแถวนี้เขาโบกรถกันทั้งนั้น ไม่โบกก็หยุดรับ แต่ปัจจุบันนี้ จะเหมือนเดิมหรือไม่ก็ไม่ทราบ

หน้า