ยายฉิม พาไปรู้จักเห็ด ที่ท่านต้อง อี้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว อิอิ
หลายวันก่อนเข้าไปในสวนไปเจอเห็ดแปลกๆ ดอกนึง
มีแค่ดอกเดียวแปลกมาก
เลยไปคว้ากล้องจะมาถ่ายรูป กดแชะ ซื้ดดดด ดับ แบตหมด อดถ่าย
หลังจากวันนั้นติดภารกิจ พาหมาไปหาหมอสองวันไม่ได้เข้าสวน
กลับมาอีกทีเห็ดนั้นไม่อยู่เสียแล้ว..ยังจำภาพเห็ดน่ารักได้เต็มตา
เลยเข้าไปในกูเกิ้ล ดูรูปเห็ดไปเรื่อยๆๆ จนมาเจอชื่อเห็ดดอกนี้
ตั้งใจว่าจะเขียนบล๊อค แต่มัวยุ่งๆๆอยู่ วันนี้โดนตอกย้ำเรื่องเห็ดนี้โดยพี่อติศัย
เรื่องต้องรีบเขียน 55555555
แบบว่ามา กทม. ไม่รู้จะเขียนบล๊อคอะไรดี
เครดิตภาพ http://www.physics2u.org/index.php?limitstart=108
เครดิตภาพ พี่อติศัย http://www.bansuanporpeang.com/blog/%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%AD
เรามารู้จักเห็ดนี้กันดีกว่าค่ะ

เยื่อไผ่เป็นอาหารยอดนิยมในปัจจุบัน มักนำมาปรุงเป็นน้ำแกง แกงจืดเยื่อไผ่ ซึ่งเยื่อไผ่ที่เรารับประทานเข้าไปนั้นเป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายร่างแห ตาข่ายหรือฟองน้ำ
ลักษณะของเห็ดเยื่อไผ่ เมื่อยังอ่อนมีลักษณะก้อนกลมสีขาวคล้ายฟองไข่นก เมื่อโตขึ้นลำต้นและหมวกเห็ดจะยืดตัวแทรกออกจากเปลือก มักขึ้นเป็นดอกเดี่ยวๆ และเมื่อโตเต็มที่มีลักษณะเด่น คือหมวกเห็ดมีรูปร่างเหมือนตาข่ายหรือแห หรือกระโปรงลูกไม้ของสุภาพสตรี ก้านเห็ดเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำ ส่วนบนสุดของดอกมักมีสีเข้มทำหน้าที่ผลิตสปอร์และกลิ่นที่เหม็นล่อแมลงเพื่อการขยายพันธุ์ เห็ดชนิดนี้มีหลายสี เช่น สีส้ม แดง ขาว เหลือง ชมพู มักขึ้นในป่าที่มีฝนชุกหรือป่าช่วงฤดูฝน
การขยายพันธุ์ เห็ดเยื่อไผ่ขยายพันธุ์โดยสปอร์ซึ่งมีแมลงเป็นตัวช่วย พบมากบริเวณป่าฝนชุก หรือป่าช่วงฤดูฝน มีการเพาะเลี้ยงทั่วไปเพื่อการค้า เช่น ในประเทศจีนมีการเพาะเลี้ยง 2 ชนิดคือชนิดกระโปรงยาวสีขาว และกระโปรงสีแดง มากกว่า 50 ปีแล้ว ซึ่งมีราคากิโลกรัมละประมาณ 3,000-5,000 บาทขึ้นอยู่กับคุณภาพของเห็ด บางแห่งมีการเพาะเลี้ยงตั้งแต่เริ่มต้นจนเก็บขาใช้เวลาประมาณ 60 วัน
ชื่อของเห็ด เห็ดชนิดนี้มีหลายชื่อ เช่นประเทศไทยเรียก เห็ดร่างแห เห็ดเยื่อไผ่ เยื่อไผ่ ภาคอีสานเรียกเห็ดคางแห เพราะหมวกเห็ดคล้ายแหจับปลา ส่วนต่างประเทศมีหลายชื่อ เช่น Bamboo mushroom, Long net stinkhorn, Basket stinkhorn, Veiled lady, King of mushroom, Netted stinkhorn, Dancing mushroom ที่มาของชื่อน่าสนใจเพราะตั้งตามลักษณะเด่น เช่น เห็ดเต้นรำ (Dancing mushroom) ซึ่งเป็นการสังเกตตรงส่วนที่เป็นหมวกเห็ดมีลักษณะคล้ายกระโปรงลูกไม้สุภาพสตรีเมื่อโดนลมพัดคล้ายกระโปรงลูกไม้สุภาพสตรีเมื่อโดนลมพัดคล้ายสตรีเต้นระบำ ในประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า เห็ดราชา (King of mushroom) นอกจากนี้มีการใช้คำว่า “stinkhorn” ต่อท้ายชื่อ เพราะตรงส่วนบนสุดของเห็ดเป็นแหล่งผลิตสปอร์และมีกลิ่นเหม็นเพราะต้องการล่อแมลงให้มาดูดกินเพื่อการขยายพันธุ์
ชนิดของเห็ด ประเทศจีนมีเห็ดชนิดนี้ 9 ชนิด รับประทานได้เพียง 4 ชนิด ในประเทศไทยภาคอีสานพบ 5 ชนิด คือเห็ดกระโปรงยาวสีขาว กระโปรงสั้นสีขาว กระโปรงสีส้ม และกระโปรงสีแดง และที่นิยมนำมารับประทานคือชนิดกระโปรงสีขาวและกระโปรงสั้นสีขาว
สารอาหารในเห็ด ประเทศที่จำหน่ายเห็ดได้ระบุว่า เห็ดเยื่อไผ่แห้งจำนวน 100 กรัม ประกอบด้วยโปรตีน 26.3 กรัม ไขมัน 4.2 กรัม คาร์โบไฮเดรต 44.9 กรัม กาก 6.4 กรัม กรดอะมิโน 16 ชนิดและวิตามินอีกหลายชนิด
การใช้ประโยชน์ ประเทศจีนได้นำเห็ดชนิดนี้มาใช้ประมาณ 3,000 ปีแล้ว โดยเป็นส่วนผสมในยา และปรุงเป็นอาหาร เชื่อว่าสามารถลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต บำรุงร่างกายเมื่ออ่อนแอ โรคที่เกี่ยวกับไต ตา ปอด ตับอักเสบ หวัด ช่วยระบบขับลม ลดความอ้วน แต่ที่ได้ศึกษาแล้วคือ นำมาเป็นส่วนผสมน้ำมันนวดแก้โรคเกาต์และรูมาติซึมได้ ประเทศแถบเอเชียมักนิยมรับประทานเห็ดที่ตากแห้ง โดยนำมาเติมน้ำร้อนและสามารถดื่มได้ทันที สำหรับประเทศไทยนิยมนำมาประกอบเป็นอาหาร เช่น ซุปเยื่อไผ่ แกงจืดเยื่อไผ่
ที่มา: สำนักบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์บริการ
เครดิตข้อมูล http://healthy.in.th/categories/green/news/2685
- บล็อกของ jo korakod
- อ่าน 11688 ครั้ง
ความเห็น
kheatti74
12 กันยายน, 2011 - 21:24
Permalink
พี่โจ
อย่าบอกนะว่าตุ๋นไปเรียบร้อยแล้ว :what:
ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง
อติสัย
13 กันยายน, 2011 - 09:41
Permalink
Re: ยายฉิม พาไปรู้จักเห็ด ที่ท่านต้อง อี้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว อิอิ
กินผัก กินปลาไปก่อนเหอะ.. ของแปลกๆ อย่าไปยุ่งกะมันเลย
paloo
13 กันยายน, 2011 - 09:21
Permalink
Re: ไม่ยืนยัน ... แต่ไม่ควรลอง
จากภาพที่นำมาแสดง สุราษฎร์ฯ บ้านเกิดลุง บ้างเรียก "เห็ดร่างแห" บ้างเรียก "เห็ดเยี่ยวงู"
สรุปว่าที่เคยได้ยิน มี 2 ชื่อ พบเห็นได้ทํ๋วไป กลิ่นเหม็นเขียว ออกหืน แค่เดินผ่านก็ได้กลิ่นแล้ว คนเฒ่า คนแก่ บอกต่อ ๆ กันมาว่ากินเข้าไป เมาถึงตาย...
ลุงไม่กล้ายืนยัน นั่งยัน ... เพราะไม่เคยลอง เชื่อคนเฒ่า ตนแก่ ยอมผิด กาลามสูตร ก็กลัวกินเข้าไปแล้ว ซีเบ้ง ทั้งเท่ง ทั้งหนูนุ้ย ทึง ... ฮึ ๆ ๆ...
ถ้าถึงตอนนั้น ลุงคงได้นอนยันแน่ ๆ ... ฮุ ๆ ๆ ....
แดง อุบล
13 กันยายน, 2011 - 10:43
Permalink
Re: ยายฉิม พาไปรู้จักเห็ด ที่ท่านต้อง อี้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว อิอิ
ที่รู้ ๆแดงเคยเห็นในสวนบ่อย แต่ไม่กล้ากิน เพราะเห็ดพิษแน่นอน :crying2:
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
RUT2518
13 กันยายน, 2011 - 13:32
Permalink
Re: ยายฉิม พาไปรู้จักเห็ด ที่ท่านต้อง อี้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว อิอิ
แบบนี้แปลกดีครับพี่
ลุงจวบ
13 กันยายน, 2011 - 14:19
Permalink
Re: ยายฉิม พาไปรู้จักเห็ด ที่ท่านต้อง อี้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว อิอิ
โฮ สวยดีเน๊าะ ถ้าเจอจะเก็บมาทำเป็นกระเป๋าดีมั้ยเจ้โจ
สาวภูธร
14 กันยายน, 2011 - 11:35
Permalink
Re: ยายฉิม พาไปรู้จักเห็ด ที่ท่านต้อง อี้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว อิอิ
มีคนเคยบอกว่าให้กินเห็ด 3 ชนิด :embarrassed: :embarrassed: :embarrassed:
oddzy
14 ตุลาคม, 2011 - 02:50
Permalink
เห็ดอะไรน่ากลัว
เห็ดอะไรหน้าตาน่กลัว ยังกะแมงกะพรุน
priraya
14 ตุลาคม, 2011 - 09:06
Permalink
Re: ยายฉิม พาไปรู้จักเห็ด ที่ท่านต้อง อี้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว อิอิ
:uhuhuh: เห็ดโป๊....แต่การกินเห็ดที่ขึ้นเองต้องระมัดระวังด้วยนะคะ...:cheer3:
kveera
21 ตุลาคม, 2012 - 14:01
Permalink
Re: ยายฉิม พาไปรู้จักเห็ด ที่ท่านต้อง อี้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว อิอิ
ผมเป็นคนที่ไม่กินเห็ด ตอนนี้พยายามกินเพื่อสุขภาพ พยายามที่สุด ทานได้นิดหน่อย สวยดีครับ
หน้า