คู่ทุกข์คู่ยากของผม...
ผมไปเจอเธอในห้างโหลๆที่หนึ่ง แม้จะเป็นแค่แว็บแรกที่พบเจอ ผมก็ไม่พลาดที่จะชวนเธอมาร่วมใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน นั่นคือสาเหตุที่ทำให้คู่รักของผมก่อนหน้านี้ มิอาจที่จะทนอยู่กับผมได้อีกต่อไปหลังจากที่ร่วมใช้ชีวิตด้วยกันมาแค่ปีกว่าๆแต่กระนั้นผมก็ยังมิได้ทิ้งเธอไปไหน หากแต่ยังคงเก็บไว้ในห้องหับที่มิดชิดและในบางครั้งอีกเช่นกันที่ผมมักเผลอแอบชวนเธอไปเที่ยวออกงานต่างๆเพื่อเป็นการย้ำเตือนถึงความทรงจำของเราที่ผ่านมา
เกือบห้าปีกับคู่ชีวิตใหม่ สุขและทุกข์ ประดังเข้ามา มากน้อยแล้วแต่ฤดูกาลของโชคชะตาจะนำไป แต่ส่วนใหญ่เธอจะเป็นฝ่ายแบกนำ รองรับภาระที่ประเคนเข้ามาอย่างมิขาดสาย ร่องรอยบาดแผลขีดข่วนตามเนื้อตัวเธอยิ่งลึ้กและมากเท่าใด มันบ่งบอกได้อย่างแจ่มชัดถึงภาวะการต่างๆที่เธอเป็นผู้ให้ดูแลปกป้องผมได้เท่านั้น....
บ่อยครั้งที่ผมนอนหลับสบายอย่างเอมอุ่น บนเตียงนอนที่บุนุ่มอย่างหลับใหล เธอต้องอยู่อย่างเดียวดาย ทอดกายตะแคงข้าง ซับใบหน้าอยู่กับพื้นที่ชื้นแฉะอย่างเหน็บหนาว โดยมีเดือนดาวเป็นเพื่อนปรับทุกข์
เพิ่งมาระยะหลังนี้เองที่ผมเริ่มจะหันมามองเธอ กวาดเก็บเยียวยาร่องรอยความบอบซ้ำให้กับเธอบ้าง และหลังจากนั้นทุกๆวันในทุกๆเส้นทางที่เคียงคู่ ทุกก้าวย่างที่ทอดเดิน ผมแทบจะมิให้เธอห่างจากสายตาเลย แม้กระทั่งยามกิน หรือ ยามนอน
จนกระทั่งเมื่อวานนี้....หลังกลับมาจากรับลูกที่โรงเรียน
แม่บอกให้ผมเดินไปทำธุระบ้านน้าชาย ผมถูกเรียกขึ้นไปข้างบนบ้านเพื่อพูดคุย โดยปล่อยให้เธอซึมซับบรรยากาศที่บันไดข้างโอ่งชั้นล่าง ประมาณพักใหญ่เสร็จธุระแล้วผมจึงหวนกลับลงมา
ผมเห็นหมาตัวใหญ่กำลังบรรจงเทะโลมเธออย่างหื่นกระหายเมามันน้ำลายแตกเป็นฟองยาว ไม่มีเสียงร่ำร้องใดๆจากเธอ ไม่มีเสียงร่ำร้องใดๆออมาจากปากของผม ในขณะที่น้าชายกำลังใช้ไม้ไล่ตีหมาเขาอยู่
ผมค่อยประคองเศษที่ขาดวิ้นของเธอด้วยใจที่ไม่แตกต่างจากสภาพที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้ มุ่งเดินกลับบ้าน ทุกย่างก้าวที่สัมผัสพื้นมันทำให้ผมรู้สึกผิดต่อเธอ เธอต้องผจญสิ่งที่ผมกำลังย่ำก้าวอยู่นี้ เธอทำหน้าที่ของเธอ เธอปกป้องให้ผมได้เดิน ได้วิ่ง ได้เที่ยวค้นหาความหมายต่างๆมากมาย แต่ผมทำได้แค่ยืนมองเธอ
ผมโชคดีที่ยังได้ดูแลเธอบ้างในขณะที่เธอยังเคียงข้างอยู่กับผม และถึงตอนนี้ผมก็ยังจะเก็บเธอเอาไว้...
- บล็อกของ มานี มานะ วีระ ชูใจ
- อ่าน 5900 ครั้ง
ความเห็น
ตั้ม
20 กรกฎาคม, 2010 - 14:54
Permalink
นนท์..
อารมณ์อย่างนี้..พี่ไม่ได้เกิดบ่อยนักหรอก..เผอิญ..อ่านแล้วมัน..มันเขี้ยวอะ..อยากสนุกด้วย
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
มานี มานะ วีระ ชูใจ
20 กรกฎาคม, 2010 - 20:07
Permalink
จ้าวอารมย์
อารมณ์แบบนี้ เดี๋ยวผมจะยอมเดินเท้าเปล่า...ให้ร้องเท้าเธอเจ้าเสียดายเล่นซะหรอก
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
มานี มานะ วีระ ชูใจ
20 กรกฎาคม, 2010 - 20:00
Permalink
ความสุข
ยังไม่ถีงขั้นครับ...แต่ขอบคุณครับ
ผมขอแค่ท่านที่เข้ามาเยี่ยมกลับไปแบบมีรอยยิ้มบ้างก็เป็นความสุขของผมแล้วครับ
สำหรับพี่ตั้ม..หนึ่งในสามซ่าของผม..
คนนี้ย่อยเสียที่ไหน ลองชมบร็อคพี่เขาสิ วางไม่ลงเหมือนกัน
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
แดง อุบล
20 กรกฎาคม, 2010 - 14:58
Permalink
นนท์
ใช้ได้ทีเดียว
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
มานี มานะ วีระ ชูใจ
20 กรกฎาคม, 2010 - 19:50
Permalink
ใช้ผมได้ตลอดเลยครับ
มีผู้คนเจียดเวลามาอ่านบ้างก็ถือเป็นการให้กำลังใจมากที่สุดแล้วครับ
อีกอย่างเรามักจะละเลยสมาชิกใหม่กัน อย่างผมไม่เท่าไร
แต่สมาชิกใหม่ที่เพื่งเข้ามาเก้ๆก้างๆอยู่
เราในฐานะรุ่นพี่ก็ควรจะเจียดเวลาที่ยุ่งเหยิงมาทักทายตอนรับเขาสักนิดนะครับ
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
ตั้ม
20 กรกฎาคม, 2010 - 20:19
Permalink
อันนี้เห็นด้วยอย่างแรง
หลายคนที่เข้ามาแล้วออกไป..อาจจะส่วนหนึ่งที่เข้าไม่ถึง..เพราะพวกเราละเลย..วัฒนธรรมดั้งเดิมและดีงามอย่างยิ่งของที่บ้านนี้คือ ความรักและความอบอุ่น แม้จะเป็นคนใหม่ก็ทักทายโอภาปราศรัย(แม้ว่าบางครั้งจะเหมือนสุกี้ MK.หรือร้าน 7-11 ก็ตาม) คนจรหมอนหมิ่นหรือปราชญ์ผู้รู้ที่ผ่านทางแม้เพียงเฉียดผ่านก็สามารถสัมผัสได้ถึงไออุ่นเล็กๆ และเมื่อนานเข้า..มาใกล้ชิดหลายคนก็อาจสัมผัสได้ถึงความละมุนของไมตรีที่หยิบยื่นให้แก่กันและกัน..ยังอยากเห็นคนเก่าก่อน คนเดินนำ คนรู้ทางของบ้านนี้..ให้ความสนใจกับคนใหม่ๆที่ผ่านเข้ามา...จะด้วยสาระ..หรืออสาระก็ตามขอเพียงไม่มีพิษภัยและแฝงไว้รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว....
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
chutinan
20 กรกฎาคม, 2010 - 15:02
Permalink
หรอย..
เข้าใจแหลง ให้น่าสนใจ น่าติดตาม
มานี มานะ วีระ ชูใจ
20 กรกฎาคม, 2010 - 19:45
Permalink
ครับ...
เพ้อฝันมากกว่าครับ
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
amporn
20 กรกฎาคม, 2010 - 15:39
Permalink
ลาก่อนที่รัก
พูดถึงรองเท้า อิ๋วเป็นคนที่ใช้ของทนมาก ๆ มีรองเท้าอยู่คู่หนึ่งอายุมากกว่า ทาเกฮีโร่ เพราะเป็นรองเท้าคู่แรกที่อิ๋วมาญี่ปุ่นแล้วซื้อใส่ เป็นคู่แรก อายุ 9ปีกับ 8 เดือน รองเท้าผ้าใบสีขาว เพิ่งจะเอาทิ้งเมื่อเช้านี้เอง เพราะสามีบอกว่า คู่นี้ใส่มากี่ปีแล้ว ว่าแล้วก็โยนรองเท้าอิ๋วลงถุงขยะ ยังนึกเสียดายอยู่เลย ยังใช้ได้อยู่ แต่ก็รู้สึกขอบคุณรองเท้าคู่นี้ ตลอด เกือบ 10ปี ที่ไม่เคยบ่น เลยแม้แต่คำเดียว เป็นคู่รักที่ดีที่สุดที่ควรขอบคุณ
ทุกวินาทีมีค่า ถ้าเรามีความหวังเราจะไม่เคยพ่ายแพ้
มานี มานะ วีระ ชูใจ
20 กรกฎาคม, 2010 - 19:44
Permalink
อยากอยู่กับเขานาน...นาน
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครับ
ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน เที่ยงแท้คงทน ทุกสรรพสิ่งย่อมเปลียนไปตามกาลเวลา
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
หน้า