วิศวกรรม หรือ วิศวกรรมเกษตร ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ สร้างโอกาส!
ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ สร้างโอกาส!
ในวันหนึ่งขณะที่ผมกำลัง Upload ข้อมูล “ความคืบหน้าสวนไผ่อาบู” ลงเฟสบุ๊คอยู่นั้น ก็ได้บังเอิญเห็นแท็กข้อความ ที่หลานผมโพสลงเฟสบุ๊คของเธอ! เป็นข้อความสั้นๆ ว่า “ความสำเร็จไม่มี “ขา” อยากได้ต้องเดินตามหาด้วย “ขา” ของตัวเอง!” ในตอนแรกที่ผมอ่านผมก็นั่งอมยิ้ม ไม่ได้สนใจอะไรมาก! ในใจก็นึกว่า “วัยรุ่นสมัยนี้ นึกว่าจะสนใจแต่เรื่องเทคโนโลยี แฟร์ชั่น และสื่อบันเทิง เท่านั้น แต่ ยังมีมุมเล็กๆ ที่พวกเขาให้ความสนใจ!” หลังจากนั้น ผมก็โพสข้อความกลับไป ตามประสาคนเล่นเฟสบุ๊ค!
จนเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง ผมก็คิดถึงข้อความนั้นขึ้นมาอีก! “ตอนที่เราอายุเท่านั้น (ประมาณ 25-26 ปี) เรายังไม่รู้จักเรื่อง ความสำเร็จ หรือ เรื่องราวอะไรพวกนี้เลยด้วยซ้ำ!” โดยกว่าที่ผมจะเริ่มให้ความสนใจกับ เรื่อง “การวางเป้าหมายชีวิต กับ การจะประสบความสำเร็จในชีวิต” ก็ตอนผมอายุ 30 แล้ว! ซึ่งตอนนี้ผมมองว่า “ช้าไปเสียด้วยซ้ำ!!” แต่ก็ยังไม่สายที่ใครจะเริ่มมอง หรือ เริ่มใส่ใจ กับการวางเป้าหมายชีวิต และ เรื่องของการที่จะประสบความสำเร็จกับการทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หน้าที่การงาน ธุรกิจส่วนตัว หรือ การมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น
ซึ่งตัวผมเอง ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่พยายามพาตัวเองมุ่งหน้าเข้าสู คำว่า “ประสบความสำเร็จ” ซึ่งเส้นทางที่แต่ละคนจะพาตัวเองออกไปตามหาความสำเร็จนั้น ก็ย่อมแตกต่างกัน ตามแต่โอกาสที่เขาเหล่านั้นพบเจอ!
และในมุมมองกลับกัน ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ด้วยการให้เหตุผลที่ต่างกันออกไป บ้างก็ว่า ยังไม่ถึงเวลา บ้างก็ว่า ยังไม่พร้อม บ้างก็ว่า ไม่มีโอกาส ไม่ว่าจะด้วย เหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แต่ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างต้องยอมรับ โดยไม่สามารถเลี่ยงได้
นั่นก็คือ ถ้าคุณเริ่มที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง..ช้าลงหนึ่งวัน! โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จกับสิ่งนั้นๆ ก็จะช้าตามไปด้วย! หรือในบางครั้ง อาจจะสูญเสียโอกาสนั้นไปเลยก็เป็นได้!!
ดังข้อความข้างต้น “ความสำเร็จไม่มี “ขา” อยากได้ต้องเดินตามหาด้วย “ขา” ของตัวเอง!” ผมก็ลืมถามหลานว่า ทำไมถึงโพสข้อความนี้ขึ้นมา? แต่นั้นไม่ใช้ประเด็น ประเด็น คือ มันเป็นเรื่องที่ดี และ ควรให้ความสำคัญ! และเราควรสนับสนุนให้เด็กรุ่นใหม่ ให้ความสนใจกับเรื่องแบบนี้บ่อยๆ!
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆ คน ที่อยากจะออกตามหาความสำเร็จในชีวิตของตัวเอง ก็คงจะเกิดคำถามว่า “แล้ว (ฉัน/ผม/เรา) ควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี?”
ถ้าคำถามนั้นดังมากพอ…จนผมบังเอิญได้ยินเข้า!! ผมก็จะบอกว่า “อย่าคาดหวังกับความสำเร็จให้มาก! ถ้าคุณยังไม่รู้จักการแสวงหาโอกาส!!”
และหากเสียงที่ผมบอกดังมากพอ คุณก็อาจจะรู้สึกว่า “ซ้ำๆ ซากๆ ก็วนเวียนกันอยู่ที่สองคำนี้แหละ!! “โอกาส! – ความสำเร็จ!” ใครๆ ก็พูดแบบนี้ทั้งนั้น! แต่เอาเข้าจริงไม่เห็นจะเข้าใจเลย!!”
ถ้าอย่างนั้นเอาใหม่! วันนี้เราลองมาคิดใหม่ทำใหม่กันบ้าง คิดให้มันสุดขั้วไปเลย!! แต่เอา ผลของความคิดเดียวกัน นั้นก็คือ “มองหาโอกาส ที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต”
คนมักจะบอกว่า “ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต มักจะเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกเสมอ!” เนื่องจากระบบกระบวนการทางความคิดของคนเหล่านี้ มองอะไร เห็นอะไร ก็ล้วนแล้วแต่เป็นโอกาส แม้จะตกอยู่ในสภาวะที่กดดัน ก็ยังมองเห็นโอกาส ดังที่คนกลุ่มนี้มักจะบอกว่า “ในวิกฤต มีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ!”
แต่สำหรับคนธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ขนาดไม่ได้อยู่ในช่วงวิกฤติ เรายังมองไม่เห็นโอกาสเลย! และถ้าวันใดวันหนึ่ง ชีวิตเกิดผกผันต้องอยู่ในสภาวะที่กดดัน สิ่งที่หวังไม่เป็นดังที่คิด เกิดอยู่ๆ ก็ตกงาน! หมดเงิน! จน! เครียด! อะไรๆ ก็ไม่สมหวัง แล้วเมื่อถึงตอนนั้น อย่าหวังเลยว่า คุณจะมองเห็นโอกาส เครียดก็เครียดมากพออยู่แล้ว จะเอาจิตในที่ไหนมาคิดหาโอกาสได้อีก!
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมเราไม่ลองเอาเวลาว่างๆ ที่เหลือจากการทำงาน มานั่งทบทวนแล้วมองโลกในแง่ลบดูบ้าง! เผื่อเราอาจจะโชคดี ได้เห็นโอกาส ก่อนที่เราจะตกไปอยู่ในสถานการณ์เหล่านั้น เช่น
มองโลกแง่ลบ แบบมุมมองของลูกจ้าง
ถ้าพรุ่งนี้ บริษัทเกิดล้มละลายเราจะเป็นอย่างไรนะ!.....?
ถ้าพรุ่งนี้ บริษัทเกิดปลดพนักงานออก เพื่อลดต้นทุน อนาคตเราจะเป็นอย่างไรนะ!.......?
ถ้าพรุ่งนี้ เราเกิดอุบัติเหตุ ไม่สามารถทำงานได้อีก อนาคตเราจะเป็นอย่างไรนะ!......?
ถ้าพรุ่งนี้ เราเกษียณอายุ อนาคตเราจะเป็นอย่างไรนะ!....?
ถ้าพรุ่งนี้ เกิดไม่สบายต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษา อนาคตเราจะเป็นอย่างไรนะ!....?
ถ้าพรุ่งนี้ ลูกของเราเข้ามหาลัย อนาคตของลูกเราจะเป็นอย่างไรนะ!....?
หรือแม้แต่ตัวผมที่เป็นชาวสวน ผมก็ยังต้องถามตัวเองอยู่เสมอๆ
ถ้าพรุ่งนี้ ราคายางและปาล์มตกต่ำ อนาคตเราจะเป็นอย่างไรนะ!....?
ถ้าพรุ่งนี้ เกิดน้ำท่วมหนัก อนาคตของเราจะเป็นอย่างไรนะ!....?
ถ้าพรุ่งนี้ เราแก่ทำงานหนักไม่ไหว อนาคตเราจะเป็นอย่างไรนะ!....?
ถ้าพรุ่งนี้ ลูกเข้ามหาลัย อนาคตของเขาจะเป็นอย่างไรนะ!...?
จากการมองโลกในแงลบ ดังข้างต้น คงพอจะทำให้ท่านสามารถจำลองสถานการณ์วิกฤติของชีวิตที่จะเกิดขึ้นกับตัวท่านได้นะครับว่า ท่านจะทำอย่างไร หากวันนั้นมาถึง? และ ท่านจะเตรียมตัวอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดกับตัวท่าน?
ไม่ต้องตอบผมว่า “ถ้าวันนั้นมาถึงท่านจะทำอย่างไร! แต่ จงตอบกับตัวเอง!”
ซึ่งครั้งหนึ่ง!…ผมเองก็เคยเจอกับวิกฤติข้างต้นมาแล้ว แต่ทว่า ผมโชคดีที่ “เจอโอกาสในสถานการณ์วิกฤติครั้งนั้น!” แต่ก็ต้องยอมสูญเสียบางสิ่งบางอย่าง ที่มีความสำคัญมากสำหรับผมเช่นกัน! และจากประสบการณ์ในครั้งนั้น ผมบอกได้เลยว่า “อย่ารอให้เกิดวิกฤติ แล้วค่อยมองหาโอกาส แต่ จงมองหาโอกาส ก่อนที่จะตกอยู่ในสภาวะวิกฤติ!” เพราะคุณอาจจะไม่พบโอกาสอย่างผมก็ได้! “โอกาสไม่ได้เป็นของทุกคน แต่ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสวงหาโอกาส”
“แล้วการมองหาโอกาส หรือ การประสบความสำเร็จมันจำเป็นแค่ไหนกันเชียว?” นั่นแน!!! มีคนคิดเสียงดังอีกแล้ว!!
ผมว่าขึ้นอยู่กับมุมมองนะ! เพราะบางคนไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก ก็มักจะไม่ได้สนใจกับเรื่องพวกนี้มากนัก! “ขอแค่ตอนนี้ มีงานทำ มีเงินใช้ ร่างกายยังแข็งแรง แค่นี้ก็พอแล้ว! อนาคตจะเป็นอย่างไรช่างมัน คิดไปก็ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา เสียเวลาเปล่าๆ”
เสียงของคนที่คิดแบบนี้ดังเหลือเกิน!! อาจจะดังเพราะเป็นเสียงของคนส่วนใหญ่ เชื่อสิครับว่า “เรื่องแบบนี้ ถ้าใครไม่เจอเข้ากับตัวเอง ก็ไม่มีทางรู้ ว่า วิกฤติ เป็นอย่างไร และ มันเลวร้ายขนาดไหน”
ครั้งหนึ่งผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง (ต้องขออภัย ท่านผู้เขียนที่ผมจำชื่อหนังสือไม่ได้) ในตอนหนึ่งของหนังสือ ได้อ้างถึงงานวิจัยชิ้นหนึ่ง โดยเป็นงานวิจัยที่ทำเพื่อสำรวจโอกาสที่คนเราจะประสบความสำเร็จในชีวิต โดยมีการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 100 คน
ลองมาทายกันเล่นๆ ว่า ในจำนวนคน 100 คน จะมีสักกี่คนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต……….?
การทำวิจัยเป็นการตามเก็บข้อมูล จากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เริ่มต้นตั้งแต่ จบการศึกษา จนกระทั่ง ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต
เชื่อหรือไม่ว่า ในจำนวนคน 100 คนมีเพียง 1 คนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต! ทั้งความสำเร็จในหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัว และ การยอมรับของผู้คนในสังคม แล้วคนที่เหลือละ….หายไปไหน…?
หากผมจำไม่ผิด ผลการวิจัยรายงานว่า
ในจำนวน 100 คน มี 60 คน เสียชีวิต ก่อนอายุ 60 ปี! อยู่ไม่ถึงวัยเกษียณ
ในจำนวน 40 คนที่เหลือ มี 20 คน ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ต้องให้ลูกหลานดูแลหลังวัยเกษียณ!
ในจำนวน 20 คนที่เหลือ มี 10 คน สามารถดูแลตัวเองในวัยชรา โดย ไม่เป็นภาระของลูกหลาน!
ในจำนวน 10 คนที่เหลือ มี 5 คน สามารถดูแลตัวเองในวัยชราและใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข!
ในจำนวน 5 คนที่เหลือ มี 4 คน ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัว!
และ ในจำนวน 100 คน มีเพียง 1 คน ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ทั้งหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัว และ เป็นที่รู้จักได้รับการยอมรับและให้การยกย่องจากคนในสังคม!
แล้วคุณละ? จะเป็นคนกลุ่มไหน 60 เปอร์เช็นต์ , 20 เปอร์เซ็นต์ , 10 เปอร์เซ็นต์ 5 เปอร์เซ็นต์ 4 เปอร์เซ็นต์ หรือเป็น 1 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผม…มีคำตอบอยู่ในใจแล้วครับ!!
บทสรุป คนที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต ในระดับที่ ไม่เป็นภาระของลูกหลานเมื่อยามเกษียณอายุ นั้น มีอยู่น้อยมากๆ ซึ่งมีอยู่เพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นั่นหมายความว่า ถ้าวันนี้เรายังไม่เริ่มทำอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเองเลย ในอนาคตเมื่อวัยชรามาเยือน เราอาจจะต้องตกเป็นภาระของลูกหลาน ที่ต้องมาคอยดูแล! แต่ถึงแม้จะมีน้อยคน ที่ดูแลตัวเองได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ และ ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากจนเกินความสามารถของคนที่พยายาม ที่จะพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จ!
ดังนั้น! การมองโลกในแงลบดูบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี ที่จะทำให้เราได้เห็น “วิกฤติล่วงหน้า” และ เมื่อเราเห็นวิกฤตินั้นๆ แล้ว ก็อย่าลืมที่จะ “มองหาโอกาส” ที่จะได้ลองคิดทำสิ่งแปลกใหม่ให้กับชีวิตดูบ้าง! ซึ่งผมขอเรียกกระบวนการทางความคิดนี้ว่า “การจำลองวิกฤติ เพื่อ สร้างโอกาส!” ไม่รู้มีใครเรียกหรือยังนะครับ?
และสิ่งสำคัญที่สุด คือ “เมื่อท่านได้เจอโอกาสนั้นแล้ว จงรีบไขว่คว้าและพยายามพาตัวเอง เข้าไปอยู่ในเส้นทางสายโอกาสนั้น โดยเร็วที่สุด!!” เมื่อทิศทางของเส้นทางสายโอกาสนั้นถูกต้อง โอกาสที่ท่านจะประสบความสำเร็จก็มีสูงขึ้นเช่นกัน!!!
- บล็อกของ RBOO Rev.01
- อ่าน 3684 ครั้ง
ความเห็น
RBOO Rev.01
29 มีนาคม, 2013 - 16:01
Permalink
ต้องขอโทษพี่ๆ ทุกคน ผมลงบล๊อคเบิ้ลอีกแล้วครับ!
เรียนท่านผู้ใหญ่
เรื่อง ขอความกรุณาช่วยลบบล๊อคที่ซ้ำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
R-Boo
RBOO Rev.01
29 มีนาคม, 2013 - 19:23
Permalink
Re: วิศวกรรม หรือ วิศวกรรมเกษตร ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ...
ขอบคุณมากๆครับที่จัดการลบออกให้เป็นที่เรียบร้อย!
R-Boo!
sujiraporn
29 มีนาคม, 2013 - 22:03
Permalink
Re: วิศวกรรม หรือ วิศวกรรมเกษตร ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ...
"ในจำนวน 10 คนที่เหลือ มี 5 คน สามารถดูแลตัวเองในวัยชราและใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข!"
ขอแค่นี้พอแล้วค่ะ เพราะป้าเตรียมตัวเตรียมใจไว้เพียงเท่านี้
RBOO Rev.01
30 มีนาคม, 2013 - 08:01
Permalink
Re: วิศวกรรม หรือ วิศวกรรมเกษตร ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ...
ผมก็คิดอย่างนั้นครับ
ขอแค่ดูแลตัวเองได้และมีความสุขกับการใช้ชีวิตเมื่อยามชรา
เท่านี้ก็ถือว่า ประสบความสำเร็จแล้วครับ!
R-Boo
เสิน
29 มีนาคม, 2013 - 22:07
Permalink
Re: วิศวกรรม หรือ วิศวกรรมเกษตร ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ...
ความประมาท ทำให้เกิดวิกฤติ
ผมไม่เคยลังเลที่จะทำเรื่องจำเป็นในอนาคตให้เป็นจริง
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
RBOO Rev.01
30 มีนาคม, 2013 - 08:06
Permalink
Re: วิศวกรรม หรือ วิศวกรรมเกษตร ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ...
ผมก็คิดเช่นเดียวกันครับ!
R-Boo
sert
29 มีนาคม, 2013 - 22:42
Permalink
Re: วิศวกรรม หรือ วิศวกรรมเกษตร ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ...
ต้องทัมใจ
กินอยู่แบบพอเพียง
RBOO Rev.01
30 มีนาคม, 2013 - 08:08
Permalink
Re: วิศวกรรม หรือ วิศวกรรมเกษตร ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ...
มันเป็นวัฏจักรของชีวิตที่ต้องพบเจอนะ
เลี่ยงไม่ได้ หนีก็ไม่พ้น!
R-Boo
RBOO Rev.01
10 พฤษภาคม, 2013 - 08:36
Permalink
ขออนุญาต update บล๊อก ตอนที่ 9 จำลองวิกฤติ เพื่อ...
ขออนุญาต update บล๊อคหน่นนะครับ
พี่ๆ น้าๆ อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ
Rboo