เที่ยววัด เที่ยววัง #4

หมวดหมู่ของบล็อก: 

กลับมาแล้วครับ ไปเที่ยวกันต่อดีกว่า แอบแว่ะไปปลูกต้นไม้มาแป๊บนึง วันนี้จะพาไปเดินเที่ยวที่สะพานชาร์ลส์ และย่านจตุรัสกรุงเก่ากัน สะพานชาร์ลส์ สร้่างขึ้นในปี 1357 เพื่อทดแทนสะพานเก่าที่พังทลายลงจากเหตุน้ำท่วม เพื่อใช้เป็นทางสัญจรเชื่อมระหว่างเขตเมืองเก่ากับจตุรัสเล็กในย่านมาลาสตรานา กระทั่งปี 1741 จึงมีการสร้างสะพานอื่นตามมา 

 

เป็นอีกหนึ่งวันที่เราต้องตื่นแต่เช้า (มาก) จากที่พักเรานั่งรถรางมาลงสถานีใกล้ๆ สะพาน เช้านี้ครึ้มฟ้า ครึ้มฝน แต่มิอาจหยุดยั้งนักท่องเที่ยวอย่างเราได้ 555

 

 

 

จากถนนใหญ่ เราเดินเข้ามาตามทางเรื่อยๆ ก็จะเห็นหอคอยคู่ ตั้งอยู่คู่กัน อันเตี้ยเป็นของสะพานเดิมที่เหลืออยู่ครับ

 

 

 

มองย้อนกลับไป หลังจากเดินขึ้นสะพานมาได้สักระยะหนึ่ง ฝนยังตกต่อไป สู้ว้อยยยย

 

 

ข้อดีของการตื่นแต่เช้าก็คือ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็จะกลายเป็นของเรา ได้เดินสูดอากาสยามเช้า ได้ถ่ายรูป อ้อยอิ่ง สงบ เชื่องช้า เยอะละ เดินต่อดีกว่า

 

เริ่มสว่างขึ้นมาอีกนิด มองย้อนกลับไปอีกที ภาพตรงหน้าก็เปิดกว้างขึ้นอีก เห็นยอดมหาวิหารเซ็นต์วีตุสอยู่ไกลๆ ด้วย

 

ตลอดสองข้างทาง เราจะพบรูปปั้นนักบุญและบุคคลสำคัญทางศาสนาประดิษฐานอยู่บนราวสะพานทั้งสองด้าน ปัจจุบันของเดิมส่วนใหญ่ถูกนำไปเก็บไว้ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วประเทศ

 

แม่น้ำวัลตาวายามเช้า บรรยากาศเงียบ สงบ จนอยากยืนชื่นชมนานๆ แต่สายลมและสายฝนไม่ปราณีเราเลย ขาสั่น เดินต่อดีกว่า

 

รูปปั้นเซ็นต์จอห์นแห่งเนโปมุก ตั้งอยู่ในจุดที่เชื่อว่าร่างของท่านถูกโยนลงแม่น้ำ นักท่องเที่ยวจะพากันใช้มือสัมผัสภาพนูนต่ำทองเหลืองที่อยู่ใต้รูปปั้นจนมันวาว (เหมือนนางอัปสราที่ปราสาทนครวัดแน่นแน่เลย 555) เพื่อขอพรให้โชคดี

 

ไหนๆ ก็มาแล้ว ซะหน่อยก็ดีนะ ไม่ต้องเข้าคิวด้วย บอกแล้วว่าสะพานนี้ ข้าจอง 555

 

รูปปั้นพระเยซู อยู่คู่สะพานนี้มาตั้งแต่ปี 1629

 

มองไปที่ปลายสะพาน เป็นเขตจตุรัสกรุงเก่า

 

คู่รักจากแดนกิมจิ ช่วยสร้างบรรยากาศให้ภาพนี้ได้ดีทีเดียว เด้วจะส่งรูปให้นะ ซาลังเฮโย

ริมฝั่งแม่น้ำยามเช้า

สงบนิ่ง

นอกจากจะเดินเที่ยว ที่นี่ก็มีบริการล่องเรือเที่ยวด้วยนะครับ ราคาเท่าไหร่ไม่รู้

เดินมาจนสุดปลายสะพานฝั่งตะวันออก มีหอคอยใหญ่กว่า เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สะพานและขึ้นไปชมวิวบนยอดหอคอยได้ แต่ แต่ เรามาเช้าเกิ้นนน 

อยากให้บ้านเรามีรถรางใช้บ้างจัง

ฝนเบาเม็ดลงแล้ว จากนี้เราจะเดินเล่นต่ออีกนิด ไปดูเขตจตุรัสกรุงเก่าแบบสงบเงียบ ก่อนจะกลับที่พักกัน

เวลาของเรา ผู้คนยังหลับไหล ร้านรวงยังไม่เปิด

นาฬิกาดาราศาสตร์ ทุกต้นชั่วโมงจะมีผู้คนมากมายมายืนเฝ้ารอดูโครงกระดูกสั่นระฆังและกลับนาฬิกาทราย หน้าต่างบานเล็กๆ 2 บาน จะเปิดออก จากนั้นหุ่นอัครสาวกทั้ง 12 องค์ จะพาเหรดออกมา ปิดท้ายด้วยไก่ตัวผู้ขันและเสียงตีบอกเวลา นาฬิกานี้สร้างตั้งแต่ปี คศ.1410 โดยนายช่าง Mikulas of kaden หน้าปัดแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ด้านบนแบ่งเวลาออกเป็น 24 ชั่วโมง ตามตำแหน่งดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ ส่วนวงล่างมีปฎิทินพร้อมสัญลักษณ์จักรราศี

 

อย่าหวังว่าจะได้ยืนถ่ายแบบนี้ ถ้าถึงเวลาทัวร์ 555

โบสถ์ติน สร้างขึ้นเมื่อปี คศ.1365 ถูกบดบังทัศนีภาพด้วยตึกแถวจากความตั้งใจของราชวงศ์ฮับสบวร์ก ซึ่งนับถือนิกายโรมันคาทอลิก ที่ไม่ต้องการให้โบสถ์นี้โดดเด่น

แต่ดูยังไง ก็ยังโดเด่น เนาะ

อาคารบ้านเรือน ร้านค้ามากมายในยามเช้าตรู่ ที่รอเวลากลับมาคึกคักอีกครั้ง

เดี๋ยวเราจะกลับมาเดินเล่นตอนบ่ายๆ กันอีกทีนะครับ ปล่อยให้พวกเขาหลับกันอีกสักพัก

สะพานชาร์ลส์ เด้วมาใหม่ กลับที่พักไปหาข้าวเช้าใส่ท้องก่อน

ขากลับเราเลือกใช้บริการรถไฟใต้ดินดูบ้าง สีสันสะดุดตาดีจัง

เวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก หลังจากถึงที่พัก จัดการหาอาหารเช้า หลับเอาแรงสักงีบ ตื่นมานั่งเก็บกระเป๋า วันนี้เราเหลือเวลาชื่นชมเมืองปรากเป็นวันสุดท้าย ก่อนจะกล่าวคำร่ำลา ช่วงบ่ายเราจะกลับไปเดินเล่นที่สะพานชาร์ลส์กันอีกรอบ ไปดูกันครับว่าบรรยากาศจะต่างจากช่วงเช้าขนาดไหน

ลงมาเดินเล่นเลียบแม่น้ำก่อนจะข้ามสะพานอีกรอบ มีบริการนั่งเรือล่องในคลองสาขาด้วย แต่ที่สะดุดตาเห็นจะเป็นเจ้ากุญแจสัญญารักนี่แหล่ะครับ ระบาดไปทั่วทุกมุมโลกแล้ว

คลื่นมหาประชาชน หลั่งไหลมาจากทั้งสองฟากฝั่ง ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

จากสะพานที่ไร้ผู้คนในยามเช้า บัดนี้ก็ถึงเวลาที่สะพานแห่งนี้กลับมามีสีสันอีกครั้ง

ได้โปสการ์ดส่งกลับเมืองไทยแล้วครับ การจะขึ้นมาขายของ หรือทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ต้องลงทะเบียนก่อน ถึงจะได้รับอนุญาตให้ใช้สถานที่ได้นะครับ เป็นระเบียบมาก ของที่นำมาขายบนสะพาน ส่วนใหญ่จะเป็นงานทำมือ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประมาณว่ามีชิ้นเดียวเท่านั้น ราคาตามป้ายครับ ห้ามต่อ

จากสะพาน มาสู่เขตจตุรัสเก่า ฝาท่อยังดูดีเลยครับ เมื่อเช้าไม่ทันสังเกตุ

เดินมาเรื่อยๆ จนมาเจอร้านขายของที่ระลึก ร้านนี้ราคาค่อนข้างถูก (ถูกใจ ใช่เลย) สินค้าสวยดี ไม่ค่อยเหมือนร้านอื่น คนขายก็อัธยาศัยดี ไม่ตื้อ ไม่กดดัน ใครมีโอกาสมาเที่ยว ลองแว่ะดูนะครับ หาไม่ยาก ทางมันบังคับเดิน ยังไงก็ต้องผ่าน

โบสถ์ติน อีกครั้ง การจะเข้าไปชมต้องเดินผ่านตรอกแคบๆ เข้าไป ด้วยเหตุผลเดียวกับการสร้างตึกแถว เพื่อ.....

ตึกสีหวานตกแต่งสไตส์รอคโคโค อยู่ทางตะวันออกของจตุรัสนี้คือ วังคินสกี

โบสถ์เซนต์นิโคลัส แห่งที่สอง ออกแบบโดยสถาปนิกคนเดียวกัน แต่หลังนี้สร้างเสร็จก่อนฝั่งที่อยู่ในปราสาทปราก

หอคอยนาฬิกาดาราศาสตร์ ในยามเย็น เข็มเวลาบอกว่าเย็นแล้ว คงใกล้เวลาที่จะกล่าวคำอำลาเมืองปรากกันแล้วซินะ ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ รอเวลาให้ตะวันลับขอบฟ้า ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนกันก่อนจากลา

สิ้นแสงสุดท้ายของวัน ความมืดเข้าแทนที่ ความสงบกลับคืนมาอีกครั้ง สายน้ำยังคงไหลไป ชีวิตก็ยังคงดำเนินต่อไป ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ

ราตรีสวัสดิ์ ปราก แล้วฉันจะคิดถึงเธอ

 

พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไปเมืองปราสาทมรดกโลก เมืองที่มีชื่อว่า เชสกี้ ครุมลอฟ

โปรดติดตามตอนต่อไป

หนุ่มบ้านนอก

 

ความเห็น

ฟังน้องหนุ่มเล่า เพลินดี

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ขอบคุณคร๊าบบบบ พี่เสิน

"what a wonderful world"

ใช่เลยค่ะ เพลินดี--เที่ยวตอน คนยังไม่ตื่นก็เป็นแนวคิดที่เก๋ดี น้องเล็ก--ปฏิมากรรม งดงาม จริงๆ--การทำภาพขาวดำ หรือ ถ่ายมานานแล้ว ..หรือสื่อให้เห็นว่า เคยเก็บภาพนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว--หรือเทคนิคถ่ายภาพ กันน๊า น้องชาย

ใช้แอปฯ ในมือถือนี่แหล่ะครับพี่อิ๋ว ถ่ายเสร็จก็เลือกฟิลเตอร์แต่งภาพเอา 555

"what a wonderful world"

ตามไปเที่ยวด้วยคะ

ด้วยความยินดีคร้าาาาา

"what a wonderful world"

สวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

ด้วยความยินดีคร้าาาาาา

"what a wonderful world"

ตามไปเที่ยวด้วยคน ตั้งแต่เช้ายันมืดเลย หมดวันพอดี ปิดท้ายด้วยภาพนายแบบเจ้าของผลงาน สุดยอดค่ะ ราตรีสวัสดิ์

Cool คงจะดี ถ้า...

ยินดีคร๊าบบบบ

"what a wonderful world"

หน้า