..............ที่มา ๑๓(ความยิ่งใหญ่ของงานเล็กๆ).....................
อากาศของหลายวันที่ผ่านมานี้ครึ้ม มัวซัว ซีดซึมจนบางครั้งไม่อยากทำอะไรเสียอย่างนั้น แม้จะมีงานรออยู่เต็มกระบุงโกย ทั้งงานในบ้าน งานในสวน งานหลวง งานราษฏร์ฯ
ผมเคยสงสัยว่าทำไมไม่มีใครสนใจการงานหรืออาชีพหลากหลายอาชีพที่ตกหล่นอยู่ในปลีกวันของแต่ละช่วงอายุคน อาชีพที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เป็นกลจักรหรือฟันเฟืองตัวน้อยๆ ของสังคมอันกว้างใหญ่เพื่อให้สังคมนั้นๆ ดำเนินไ ป ขับเคลื่อนไปอย่างปกติ เรียบง่าย ดีงาม
หรือต้องรอให้จังหวะของแต่ละช่วงวัยมันลงตัวโดยตัวของมันเอง แล้วก็พรึ่บ...พร้อม..
ผมนั่งคิดเล่นๆ ว่าหากมีคนจัดวางชีวิตให้เราบนโลกทุกๆ คน โดยให้คนนี้ทำนั่นทำนี่ แล้วกดปุ่ม โชะ !! ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตนไป
...ลางคนที่แหกคอก แหวกขนบกระทั่งชั่วร้าย เป็นสีดำของเกมนั้นๆ ผมก็เคยคิดเล่นๆ ว่า หรือคนสร้างเกมส์ที่ควบคุมเราอยู่ เขาทำให้เกมส์ของการมีชีวิตนี้เข้มข้นขึ้น เพื่อให้สังคมก่อเกิด และขจัดออกด้วยตัวของมันเอง..ปล่อยคนชั่วเข้ามา จัดการกับคน กับดินหิน เทือกภู ลำธารใส ป่าดิบ ต้นไม้ยักษ์ หรือแม้กระทั่งจัดการกับคน กับตนเอง..
แล้วคนที่เป็นกลจักรหนึ่งๆ ของสังคมนั้นคิดอะไรขึ้นมาบ้างไหม หรือปล่อยให้ชีวิตเป็นไปอย่างนั้น?
คิดฟุ้งของผมไปเรื่อยเปื่อยครับ..แท้จริง..ผมอาจเป็นพวกหนึ่งในเกมส์นั้น - เกมส์ของคนอื่น
ในที่เก็บของอันรกรุงรังข้างๆ เตาเผาถ่าน ผมสร้างอาคารโย้เย้ผ่านการคิดนึกแบบสะถาปะนึก เป็นหลังคาทรงดอกเห็ด พอกันฝนและระบายควันให้ออกไปทางรูระบายบนหลังคานั่นได้ง่ายกว่าที่เคยทำคอกม้าเมื่อสองปีที่แล้ว
เมื่อเคยผ่านประสบการณ์ของการทำมาบ้างแล้ว งานสอง สามสี่ก็ไม่ยาก แต่ไม่ได้สวยงามเหมือนเมื่อได้ทำครั้งแรก สรุปว่าอาคารมุงจากหลังนี้สามารถค้มฟ้าคุ้มฝนมาได้น่าจะครบปีแล้ว
ซอกมุมเล็กๆ ผมทำเป็นที่ตีเหล็ก ใกล้กันได้วางเครื่องไม้เครื่องมือไร้ระเบียบ เศษไม้ เศษเหล็ก รองเท้าเก่ารอซ่อม เก้าอี้พื้นหาย กองขี้เถ้ารอขนไปทำปุ๋ย.. ฯลฯ
คนทำงานช่างทุกคนใฝ่ฝันที่จะมีโรงหรือช็อปอันสวยงาม เป็นระเบียบ เมื่อพอจะมีรายได้จากการประกอบอาชีพในสิ่งที่รักชอบมาตลอดชีวิต ก็อยากให้เป็น อยากให้มีอย่างที่ใฝ่ฝัน ส่วนในโอกาสไหน เวลาไหนอย่างไร ค่อยว่ากัน..
ผมก็เป็นเหมือนคนทั่วไปครับ.. อยากมีที่ทำงานสวย เป็นระเบียบพอที่จะเชื้อเชิญใครต่อใครมานั่งจิบน้ำร้อน ดื่มกาแฟพูดคุยกันขณะที่ผมสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องกระดากอายมุมมืดอันทึบอับนั่น
เศษไม้ที่คนโน้นคนนี้ให้มามีค่ามากพอที่เก็บไว้ในชั้นวาง อย่างเป็นระเบียบ ยังมีเหล็กรอเปลี่ยนสภาพ ที่เก็บงานเก่า งานใหม่ วางกระดานเขียนงาน กระดาษร่าง โต๊ะขัดงานหยาบ มุมทำงานเย็บปักถักร้อย ฯลฯ
นั่งฝันฟุ้งอยู่หลายวันขณะที่งานชิ้นเล็กๆ ยังนอนเย็นชืดอยู่ในเตารอการหยิบจับขึ้นมาเพื่อขัดแต่ง
สามสี่วันที่แล้วมาจึงเป็นวันที่จัดได้ว่านรกแตกสำหรับผม เนื่องด้วยถึงเวลาที่จะต้องเข็นงานสามสี่ชิ้นนี้ออกมาให้ได้
ผมไม่ค่อยหนักใจงานเหล็กครับ..แต่งานไม้ที่จะนำมาประกอบเป็นด้าม ทำเอาผมปวดหัว สมาธิที่หลุดกระจุยทำให้เสียไม้ดีๆ ไปหลายชิ้นเพื่อแลกกับการเรียนรู้บทเรียนของการทำด้ามมีดแกะสลักผลไม้ตามสั่งของสมาชิกที่ชื่อไม้หอม
ขณะที่นั่งขัดไม้ชิ้นเล็กๆ แต่ละชิ้นแต่ละอัน ผมถอดตัวเองออกมาดูตัวเองด้วยสายตานก...นี่ถ้าเราคือคนที่คุมเกมส์ของชีวิตตัวเราเอง...นี่เรากำลังเป็นฟันเฟืองหนึ่งของเกมส์การใช้ชีวิตบนโลกอย่างนั้นหรือ? หากเราคือคนคุมเกมส์ เราคงสนุกน่าดูกับการจัดการให้คนๆ หนึ่งโลดแล่นอยู่บนเส้นทางหลากหลายตามแต่ใจอยากให้มันเป็นไป
คิดได้ดั่งนั้นแล้วก็ยิ้มแย้มพึงใจ...จะเป็นคนที่ถูกควบคุมตามเกมส์ หรือเป็นผู้ควบคุมตัวเองในทุกเส้นทาง ทุกกิจกรรมที่ได้ผ่านมาแล้ว ดี เลว หรือธรรมดาสามัญอย่างที่ใครๆ ก็เป็นกัน นับว่าฟันเฟืองเล็กๆ นี้ก็ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มความสามารถแล้ว
หากเป็นไปได้ ขอให้ชิ้นงานชิ้นเล็กๆ นี้ได้สรรค์สร้างความงดงามให้กับสังคมอื่นๆ ต่อไปนะครับ...คุณไม้หอม
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ข้อมูลคร่าวๆ
ใบ ทำจากเหล็กแหนบรถไฟ
ด้ามจากซ้าย ปุ่มมะค่า กลางไม้อะรูมิไร้(?) ขวาสุด..ไม้ม่าวเหล็ก
ขนาดตามเสป็ค ใบ ๙ ซม. และ ๖ ซม. (ส่วนคม)
ด้าม ๑๐ ซม.
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
- บล็อกของ sailomloy
- อ่าน 8179 ครั้ง
ความเห็น
ไม้หอม
7 สิงหาคม, 2010 - 22:50
Permalink
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ พี่สายลมลอย
ชอบทั้งสามเล่มเลย ที่เพิ่มมาถือเป็นกำไรครับ
ฟันเฟืองไม่ว่าใหญ่หรือเล็กทุกชิ้นมีความสำคัญอยู่ในตัวของมัน
อยู่ที่เราหรือคนรอบข้างจะมองเห็น(ค่า)............ครับโผ้ม
วิหคน้อยบินไกล เฝ้ารอวันกลับคืนถิ่น
sailomloy
8 สิงหาคม, 2010 - 07:39
Permalink
ขอบคุณครับ เชฟอรรถ
ขอบคุณครับ เชฟอรรถ
ออกปากรุนท็อกที !!!
ไม้หอม
8 สิงหาคม, 2010 - 08:04
Permalink
ไม่ใช่เชฟครับพี่
ไม่ใช่เชฟครับพี่ แต่งานที่ทำต้องเกี่ยวข้องกับเชฟครับ
วิหคน้อยบินไกล เฝ้ารอวันกลับคืนถิ่น
มานี มานะ วีระ ชูใจ
7 สิงหาคม, 2010 - 23:24
Permalink
อืม....
หาก เราคือคนคุมเกมส์ เราคงสนุกน่าดูกับการจัดการตามแต่ใจอยากให้มันเป็นไป
หรือ..แท้จริง..ผมอาจเป็นพวกหนึ่งในเกมส์นั้น - เกมของคนอื่น
แต่.....นับว่าฟันเฟืองเล็กๆ นี้ก็ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มความสามารถแล้ว
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
sailomloy
8 สิงหาคม, 2010 - 07:38
Permalink
มานะ
ได้รับข้าวหอมนิลยัง? 1 กำมือ
ออกปากรุนท็อกที !!!
มานี มานะ วีระ ชูใจ
8 สิงหาคม, 2010 - 09:34
Permalink
หอม(นาน)นิล
ยังเลยครับ...
ผมไปโม้ไว้เยอะ...แถวบ้าน ถามคนโน้นคนนี้ว่ารู้จักไหม...
ไม่มีคนรู้จัก หรืออาจจะรู้จักแต่เรียกกันอีกชื่อหนึ่ง(อันนี้เดา)ก็เป็นได้
มันเท่ห์ครับ...อะไรที่คนอื่นไม่รู้ ไม่มี แต่เรากำลังจะ มี
เค้าถามผมว่าไหน..มายัง...คงอยากจะขอจากผม...บ้าง
ผมบอกว่าไม่ได้(ทำท่าสายหัว)...ช่วยผมปลูกก่อน ได้ผลเมื่อไรค่อยแบ่งกัน
.........ในเวลาต่อมา...
ไม่มีใครถามผมแล้วครับ...แค่เห็นคอยาวๆเป็นยีราฟของผม...เค้าก็รู้แล้ว...
ถึงแม้ว่าตอนนี้...ใครๆจะพากันเรียกผมว่า....คุณหอมนาน..
แต่ผม...ก็ยังรอ...
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
สะเออะไปรักเขา
7 สิงหาคม, 2010 - 23:29
Permalink
สวยครับ
มีดสวยครับ ชอบๆ
sailomloy
8 สิงหาคม, 2010 - 07:37
Permalink
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ออกปากรุนท็อกที !!!
ตั้ม
8 สิงหาคม, 2010 - 06:29
Permalink
งานศิลป์..กะงานเศษ
ถ้ามีวัตถุดิบที่ถูกผลิตจัดเตรียมมาเพื่อทำ..ก็คงเป็นงานธรรมดา..แต่หากเป็นงาน..ที่เก็บออมจากเศษ..ที่คนอื่นมองข้ามคุณค่า..ถือเป็นงานศิลป์ที่เหนือธรรมดา..และทรงคุณค่า..และยิ่งเป็นงานที่เก็บเรื่องราวของตัวอักษรมาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเนื้องานด้วยแล้ว..วิเศษมาก..
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
sailomloy
8 สิงหาคม, 2010 - 07:37
Permalink
ตุณตั้มครับ...ขอบคุณครับผม
ตุณตั้มครับ...ขอบคุณครับผม
ออกปากรุนท็อกที !!!
หน้า