ขี่จักรยานท่องไปในที่ราบคิบิจิ Kibiji Cycling

สวัสดีเพื่อนสมาชิกบ้านสวนพอเพียงทุกท่าน Blog นี้ขอต่อเนื่องถัดจากเมืองฮิโรชิมา ผมเดินทางมาแวะที่เมืองโอคายาม่า (หรือโอกายามะ  Okayama) ก่อนหน้านี้ได้ลองดูรีวิวคนที่เคยเขียนการเดินทางผ่านเมืองนี้ในประเทศญี่ปุ่น แบบเช่นที่พี่อ้อยหวานเขียน พบว่าเมืองโอกายามะมีหลายอย่างน่าสนใจ จึงหาข้อมูลดูและมาสะดุดใจที่มีเส้นทางขี่จักรยาน 1 ใน 100 เส้นทางที่น่าขี่จักรยานมากที่สุดในญี่ปุ่น (แต่เมืองนี้มีของดีมากกว่านี้อีกเยอะครับ) เดี๋ยวค่อย ๆ มาดูกันครับ

สำหรับเมืองโอกายามะ เป็นต้นกำเนิดนิทานเรื่อง โมโมทาโร่ ใครที่เคยได้อ่านเรื่องนี้น่าจะพอคุ้น ๆ อยู่บ้าง เรื่องราวคร่าว ๆ คือเด็กชายผู้เกิดในลูกท้อ (ตัวอ้วน ๆ หน่อย) มีเพื่อนร่วมเดินทางผจญภัยประกอบด้วย หมา ลิง และนก เพื่อไปปราบยักษ์หรือปีศาจนะครับ ก็เป็นนิทานพื้นบ้านที่สนุกสนานดีครับ

สำหรับเส้นทางขี่จักรยานทุ่งราบคิบิจิ เริ่มต้นที่สถานีรถไฟ Bizen-Ichinomiya ไปจบที่สถานีรถไฟ Soja (ด้านซ้ายของรูป) รวมระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาปั่นปรกติ 3 ชั่วโมง (แวะถ่ายรูปตามจุดที่น่าสนใจ) สำหรับค่าเช่าจักรยานคิดที่ 2 ชั่วโมง 400 เยน หรือทั้งวัน 1000 เยน ผมก็เช่าทั้งวันแต่รวมเวลาขี่ก็ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งครับ

เส้นทางขี่จักรยาน Kibiji เส้นนี้ทำได้ดีมาก มีป้ายบอกเส้นทางและระยะทางตลอด มีการตีเลนแสดงชัดเจน หลบเลี่ยงถนนใหญ่ (ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ค่อยมีรถมาก แถมยังขับขี่แบบสุภาพมาก ๆ) หากมีการก่อสร้างก็มีพนักงานถือธงคอยบอกให้หลบเลี่ยงเส้นทางก่อสร้าง (แม้จะสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้) ตลอดรายทางมีแปลงนา แปลงเกษตร เช่น สตอรเบอร์รี่ ท้อ บ๊วย ลำธาร คลอง ทุ่งหญ้าดอกไม้ วัด ศาลเจ้า สุสาน ฟาร์มม้าจนไปถึงตัวเมืองอีกแห่งหนึ่งครับ หลังจากขี่จักรยานเสร็จเราสามารถนั่งรถไฟกลับไปยังตัวเมืองได้เลยครับ สำหรับดอกไม้ช่วงนี้ก็เป็นดอกซากุระที่บานเรียงรายตลอดเส้นทางจักรยานครับ

สำหรับเมืองโอกายามะนี้ ยังมีสถานที่ไฮไลต์อีก 3 ที่ที่ควรค่าแก่การไปเยือนคือ สวนโคระคุเอ็น Korakuen จัดเป็น 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (เห็นเขาโปรโมทอย่างนั้น) ซึ่งเมื่อไปชมจริงก็สวยมาก ๆ ครับ ติด ๆ กันก็เป็นปราสาทโอกายามะ (อาจจะไม่ยิ่งใหญ่มาก) แต่ช่วงนี้ดอกซากุระบานพร้อม ๆ กับอากาศเย็นสบายน่าเดินเล่นพักผ่อนจริง ๆ ครับ

สองคือ เขตอนุรักษ์เมืองเก่าคุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter) จัดว่าเป็นเขตอนุรักษ์ที่คงสภาพเมืองเก่าไว้ได้อย่างดี  (เสน่ห์เมืองเก่าครับ) และมีกิจกรรม (workshop) หลายอย่างให้ได้ทดลองทำครับ

ส่วนสถานที่ 3 คือออกไปอีกนิดคือเมือง Kojima ต้นกำเนิดยีนส์ BIG John บางท่านอาจจะพอเคยได้ยินชื่อบ้างถึงจะไม่เปรี้ยงปร้างแบบแบรนด์ Levi’s หรือ Mc  ณ ที่เมือง Kojima นี้ถือเป็นแหล่งทำยีนส์ของประเทศญี่ปุ่นเลยครับ

ก่อนจบ Blog นี้ผมลองคิดเล่น ๆ (แต่ในใจอยากให้เป็นจริง) พูดไปแล้วเมืองนี้มีหลาย ๆ สิ่งหลายอย่างคล้ายกับจังหวัดสุโขทัยมาก มีเส้นทางขี่จักรยาน (เส้นทางขี่จักรยานเมืองเก่า) มีเขตอนุรักษ์เมืองเก่า (เขตเมืองเก่าสุโขทัย) มีตำนานเรื่องเล่า (พระร่วง) วิธีการต่าง ๆ ที่ญี่ปุ่นทำหรือเรียกว่าการพัฒนา/การจัดการก็เปิดเผยมาก เราสามารถนำเป็นต้นแบบและปรับปรุงตามแนวทางที่เขาทำไว้ให้ดู เพียงแต่บ้านเรา (คน-หน่วยงาน) ทำจริงจังไม่มีครับ ที่มีเป็นเรื่องฉาบฉวย (ไม่ยั่งยืน) เช่นสร้างเส้นจักรยานแล้วก็มีอีกหน่วยงานมาราดยางทับ (เหอ ๆ) อยากจะเปรียบเทียบชี้ให้เห็นเป็นจุด ๆ อีกหลายอย่างแต่กลัวเพื่อนสมาชิกจะอารมณ์เสียครับ หากเพื่อนสมาชิกบ้านสวนพอเพียงท่านใดมีประสบการณ์ท่องเที่ยว ณ ที่ใดก็ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้เลยครับ