เบื่องานประจำอยากเป็นเกษตรกร ต้องทำอย่างไร ในมุมมองของผม
เรื่องนี้ผมเคยเขียนเอาไว้ที่ OKNation นานมากแล้วครับ ก่อนที่จะมีเวบนี้อีก วันนี้สมาชิกในเวบบ้านสวนพอเพียงคนหนึ่งค่อนข้างไม่สบายใจ กับการที่จะออกจากงานแล้วมาเป็นเกษตรกร ก็นึกถึงเรื่องนี้ที่เคยเขียนเอาไว้นำมาฝากกัน
เรื่องนี้สำหรับคนที่จิตใจไม่อยู่กับที่ทำงานในบริษัท หรือหน่วยงานราชการนะครับ หากต้องการมาเป็นเกษตรกรต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง ผมเล่าจากประสบการณ์ของผมเอง ไม่ใช่เป็นหลักการหรือทฤษฎีอะไร ใครที่มีงานทำมีเงินเดือนอยู่อย่าเพิ่งตัดสินใจลาออกกระทันหันครับ ตอนที่คุณทำงานมีเงินเดือนอยู่นี่แหละครับคุณก็สามารถเตรียมตัวเป็นเกษตรกร ได้ แต่คุณต้องมีที่ดินก่อน ที่ดินเป็นเรื่องสำคัญมาก มีใจรักแต่ไม่มีที่ดินก็ไม่ต้องคิดอะไรต่อแล้ว ผมจะสรุปสิ่งจำเป็นในการเป็นเกษตรกรเป็นข้อๆ ดังนี้
1. มีใจรัก คิดว่าการที่จะลาออกมาทำสวนคุณต้องมีใจรักก่อน ถ้าคุณไม่มีใจรักงานทางด้านนี้ก็อย่าฝืนครับ
2. มีที่ดิน ไม่จำเป็นต้องมีมากครับคนมีที่ดินแค่สองงานปลดหนี้หลักแสนก็มีมาแล้ว
3. มีกำลัง ใครที่คิดว่ารอซักอายุ 60 แล้วลาออกไปทำสวน ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ยิ่งคนที่ไม่เคยจับจอบจับเสียมมาก่อนอย่าแม้แต่จะคิด การเป็นเกษตรกรถ้าทำเองไม่จ้างเขา กำลังเป็นสิ่งสำคัญ มือแตกเป็นเรื่องปกติ ส่วนใครติดจะทำเกษตรแบบชี้นิ้วนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง
4. มีความรู้ คุณอยากทำอะไร สนใจอะไรหาความรู้ไว้ก่อนยิ่งมีสื่ออินเทอร์เน็ต ยิ่งสะดวกสบายใหญ่ค้นข้อมูลแป๊บเดียวก็ได้แล้ว แต่อย่าหวังว่าข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตจะช่วยคุณได้ทุกอย่าง ต้องอ่านและพิจารณาดีๆ ข้อมูลจากนักวิชาการบางครั้งนักวิชาการก็รู้แต่ทฤษฎีไม่เคยลงมือทำ เชื่อเขาทั้งหมดทำตามหมดก็เจ๊งได้ การหาความรู้อีกทางคือ การเข้าร่วมฝึกอบรมเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายของสันติอโศก หรือเครือข่ายมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ หรือที่อื่นๆ อย่ายึดติดกับแหล่งใดแหล่งหนึ่ง นำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้เอาเอง
5. มีเงินทุน ข้อ นี้ก็สำคัญไม่น้อยลาออกมาแล้วจะกินอะไร เอาเงินที่ไหนใช้จ่าย การเริ่มต้นชีวิตเกษตรกรใช่ว่าทำเดือนสองเดือนแล้วมีเงินเข้ามา ต้นไม้พืชผัก จะบังคับให้มันโตตามใจเราไม่ได้ถามว่ามีเท่าไหร่ถึงจะพอ ผมก็ตอบไม่ได้ครับ ข้อนี้ต้องคิดเองยิ่งคุณมีภาระทางครอบครัวแล้วคิดให้หนัก คิดไม่ออกก็เป็นลูกจ้างต่อไปครับ
6. ยังคิดไม่ออก ช่วยคิดต่อนะครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้ชักจูงให้ใครลาออกจากงานนะครับ ทำงานเป็นลูกจ้างมีความสุขอยู่แล้วก็ทำไป แต่เมื่อไหร่ที่ไม่มีความสุข แล้วหาทางออกไม่ได้เกษตรกรก็เป็นทางเลือกหนึ่ง
สำหรับคนที่ทำงานอยู่ไม่ว่าจะบริษัท หรือราชการมีที่ดินอยู่แล้ว สมมติว่ามีที่ดินยังไม่ได้ทำประโยชน์ คุณกลับไปปลูกป่าจะเป็นรอบๆที่ดิน หรือเต็มพื้นที่ สมมติว่าปลูกตะเคียนทอง หรือไม้ยืนต้นอื่นๆ อีกยี่สิบสามสิบปีข้างหน้าคุณจะขายตะเคียนทองได้เท่าไหร่ ถือเป็นเงินบำเน็จบำนาญก็ได้ หากคุณไม่ทันใช้ลูกหลานก็คงขอบคุณคนที่ปลูกเอาไว้ให้ ไม่ว่าจะขายได้เงิน หรือได้ไม้สร้างบ้าน
สำหรับคนที่จิตใจไม่อยู่กับบริษัท หรือราชการแล้ว และมีที่ดินอยู่แล้ว ใครไม่มีที่ดินก็หาที่ดินเสียนะครับ อย่างที่บอกว่าอย่าเพิ่งลาออก เสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุด ก็ไปปลูกป่าเอาไว้ก่อน ทดลองใช้ชิวิตเกษตรกรก่อนว่าทำไหวมั๊ย ทำไว้พอประมาณแล้วค่อยลาออก แล้วคุณจะพบว่าเกษตรกรเป็นวิถีชีวิตที่มีความสุข ไม่มีคนมาคอยสั่งงาน ไม่เป็นลูกจ้าง เป็นเจ้านายตัวเอง แต่เกษตรกรก็ต้องเหนื่อย แต่เหนื่อยก็มีความสุข
- บล็อกของ sothorn
- อ่าน 221959 ครั้ง
ความเห็น
ฮวย
20 มิถุนายน, 2010 - 11:39
Permalink
อยากทำเกษตรมั้ง
ตอนนี้กำลังวางแผนที่ทำอยู่และหาข้อมูลเพื่อนำกลับไปทำที่บ้านคิดจะลาออกกลับไปอยู่ที่บ้านพาที่บ้านทำเศรฐกิจพอเพียง
อยากเลี้ยงปลา,เลี้ยงเป็ด,เลี้ยงไก่,เลี้ยงหมู และปลูกผักไว้กินและขายได้ ตอนนี้ที่กำลังขุดบ่อเลี้ยงปลา และข้างบ่อกะจะปลูกกล้วย,มะม่วงและอื่นๆ
chutinan
5 กรกฎาคม, 2010 - 12:52
Permalink
ใจรักเกษตร..
อยากลาออกมาทำเกษตรอย่างเต็มตัวเหมือนกันค่ะ แต่ยังติดอยู่หลายอย่าง แต่ก็เอาใจช่วยสำหรับคนที่มีปัจจัยครบทุกอย่างพร้อมแล้วน่ะค่ะ
KUNTA
7 กรกฎาคม, 2010 - 13:55
Permalink
ต้องเริ่มแล้วล่ะ
"ข้าราชการเป็นอาชีพที่ก่อภาระให้กับประชาชนมากที่สุด"
นั่นเพราะความอยากสบาย อยากมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เหมือนกาดำที่มองเห็นเงาตัวเองเป็นสีขาว
เป็นนักวิชาการเกษตรมาหลายปี พบเห็นอะไรมาก็มากมาย
ตอนนี้ประวัติศาสตร์การเกษตรไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
คาดว่าไม่กี่ปีข้างหน้าระบบการทำเกษตรไทยลำดับแรกที่ไม่น่าจะไปรอดก็คือ "การทำเกษตรเชิงเดี่ยว"
ต่อไปเกษตรกรจะไม่มีโอกาสได้ต่อรองใดๆ ได้เลย
แต่เราก็เป็นแค่ฟันเฟืองตัวเล็กๆ หาที่ระบายความในใจยากนัก
คิดว่าไม่เกินเดือนนี้จะลาออกแล้ว เพื่อมาใช้ความสามารถในทางที่ถูกอย่างเต็มที่ และมีคุณค่าแท้จริง
ไม่ต้องมาสร้างผลงานให้บางคนฉกฉวยไปแอบอ้าง สร้างผลงาน ขอตำแหน่ง ขอปรับระดับ และกอบโกยมาใช้ส่วนตัวอย่างไม่เห็นแก่หน้าใคร เห็นแล้วให้นึกเสียดายเวลาอย่างยิ่ง
เรื่องที่ดิน เรื่องแรงงานนั้นคิดว่าไม่ยากเกินไขว่คว้า เริ่มจากเล็กๆ เหมาะกับตัวเองก่อน
ส่วนทุนซึ่งทรงคุณค่ามากที่มีอยู่ก็คือประสบการณ์และความรู้
นั่นเพราะเราถูกปลูกฝังให้กลัวโน่นกลัวนี่ ต้องพึ่งหน่วยงานมาตลอดมาตั้งแต่สมัยเปิดการค้าเสรี
แต่พอเปิดม่านเข้าไปดู ก็พบว่ามีหลายอย่างที่หมกเม็ด แฝงผลประโยชน์ ตกอยู่ใต้อาณัฐ น่าหวั่นเกรงไม่น้อย
คนที่มีจรรยาบรรณ มีจิตสำนึกไม่น้อยเริ่มถอดใจและถูกกลืนกิน
หวังอย่างยิ่งว่าพลังความกล้าจะผนึกขึ้นจากผู้ที่ทนทุกข์ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีเกษตรกรไทยได้
ขอบคุณบล็อคนี้ที่มีคนดีๆ มาสนทนากัน
กระต่ายดำ
7 กรกฎาคม, 2010 - 14:11
Permalink
สวัสดีครับ KUNTA
ยินดีต้อนรับครับ ดีจริงๆ ที่บ้านสวนของพวกเราจะมีนักวิชาการเกษตรมาเป็นสมาชิก จะได้มีคนมาช่วยให้ความรู้ ช่วยชี้แนะให้กับ เกษตรกรตัวจริง และ เกษตรไซเบอร์(อย่างผม) ถ้ามีเวลาก็เขียนบล็อกแนะนำพวกเราบ้างนะครับ คุณตา หรือ กันตา (อ่านว่าอย่างไรครับ) ขอบคุณล่วงหน้าครับ
อยู่บ้านนี้ แล้วอยู่นานๆ นะครับ มาช่วยกันให้เกษตรกรไทยไม่ต้องเป็นเบี้ยล่างของใคร รัฐส่งเสริมให้เมืองไทยเป็นครัวโลก แต่ไม่เคยดูแลคนที่ผลิตอาหารป้อนให้กับโลกเลย มุ่งเอาแต่หาเสียง ฉกฉวยผลประโยชน์ใส่ตน
จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ
vanatavi
19 สิงหาคม, 2010 - 13:40
Permalink
ยินดีด้วยที่คิดไม่ต่าง
ยินดีต้อนรับ อนาคตอันใกล้คงจะได้ปรึกษาผู้รู้ เราคนหนึ่งแหละที่ออกมาก่อนแล้ว
รุ่น 51 ราชการให้ทุกอย่างแก่เรา พร้อมแล้วออกมาเถอะอยู่กับต้นไม้ใบหญ้าสุดยอดของความสุข เราเคยไขว่คว้าหาความสุขในวิถีราชการมานานก็ได้แล้วนี่ แต่เราก็ได้
เพียงบางส่วน ขณะนี้เราจะหาเองในผืนดินที่เรามีไม่มีใครมาทำให้เราหมองใจ ยินดีด้วย ยินดีด้วยจริง ๆ
kanvara
21 สิงหาคม, 2010 - 15:13
Permalink
เจอ ป้า VANATAVI วนาเทวี แล้วค่ะ
คิดถึงจังเลย เอารูปสวนมาโชว์ด้วยซิป้า อยากเห็นจังเลย ตอนนี้คนเหนือ ในเวบนี้เยอะแล้วนะคะ อยากเห็นสวนป้า และ อยากเห็นป้าด้วยค่ะ รักกกกกกกกกกกกกกจังเลย
kanvara
narubet
19 กรกฎาคม, 2010 - 09:13
Permalink
แรงบันดาลใจ
เว็บบนี้เป็นแรงบันดาลใจอย่างดีครับ อีกสิบปีก็จะไปเป็นเกษตรกรที่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงเหมือนกันครับ เก็บตังค์ซื้อที่ก่อนตอนนี้ไม่มีที่
เสือน้อย
21 กรกฎาคม, 2010 - 13:20
Permalink
ตอนนี้ผมก็ได้เริ่มทำมั่งแล้วค
ตอนนี้ผมก็ได้เริ่มทำมั่งแล้วครับ ลงมือเองบาง จ้างญาติมาช่วยมั่ง นี่พ่อก็เพิ่งยกที่ให้มา 3 ไร่ ขุดสระน้ำขนาดประมาณเกือบ 3 งาน แต่รอบฝั่งยังไม่ได้ปลูกอะไรเลย ปลูกไว้แต่หญ้าแฝก เหตุที่ตัดสินใจจะทำการเกษตร เพราะสงสารแม่ครับ ตอนนี้ ทำงานขุดเจาะน้ำมันอยู่กลางอ่าวไทย ลงมาทำงานเมื่อไหร่พ่อกับแม่นอนไม่ค่อยจะหลับ เพราะพวกท่านเป็นห่วง เลยตัดสินใจบอกกับพ่อแม่ว่าขอเวลา 5 ปี จะกลับมาอยู่บ้านทำการเกษตร พ่อดีใจมากแบ่งที่ดินให้ลองทำช่วงวันหยุดเลย คือผมทำงาน 3 อาทิตย์พัก 3 อาทิตย์ครับ ตอนนี้ปรึกษากับเพื่อนคนไหนก็คัดค้าน เพราะเค้าเห็นว่าเงินเดือนเราก็กึ่งแสนแล้วไม่อยากให้ออก แต่ผมก็บอกกับเพื่อนไปว่าผมเลือกความสบายใจของพ่อแม่ดีกว่า แต่ปัญหาก็มีอยู่ว่าถึงผมจะเป็นลูกชาวไร่ชาวนาแต่ผมยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ทางนี้เท่าไหร่ เพราะตอนเด็กจะเรียนอย่างเดียวมีช่วยงานบางก็แต่ขนอะไรที่มันหนักๆจำพวกปุ๋ยยา หรือข้าวที่ใส่ถุงแล้ว ยังงัยว่างๆจะส่งรูปที่ดินที่ขุดสระน้ำมาขอคำปรึกษาด้วยนะครับ ผมบ้านอยู่โคราชครับ อีเมลล์ mashtang_t@hotmail.com
kanvara
7 สิงหาคม, 2010 - 13:35
Permalink
ตัวหนังสือเล็ก เกินไป ค่ะ
สงสารคนแก่ อ่านไม่ได้ค่า
kanvara
ธารน้ำใส
9 สิงหาคม, 2010 - 12:52
Permalink
เบื่อการเป็นลูกจ้าง
เป็นลูกจ้างในหน่วยงานของรัฐค่ะ มีความหวังจะได้บรรจุ แต่รู้สึกเบื่อกับระบบงาน ก่อนหน้านี้ก็ทำสวนควบคู่ไปกับงานประจำ เป็นสวนยางแปลงนึงและก็สวนปาล์มสองแปลง แต่ก็เป็นได้แค่เกษตรแบบชี้นิ้วอย่างที่คุณโสทรว่า ไม่มีกำลังพอที่จะจับจอบจับเสียมเอง แต่โชคดีที่บ้านเป็นเกษตรกรกันอยู่แล้วเลยมีพื้นฐานตรงนี้เยอะหน่อย ช่วงนี้วันเสาร์-อาทิตย์ต้องไปเรียนที่กรุงเทพฯตลอด เลยไม่มีเวลาไปชี้นิ้วเลย อยากจะลาออกมาชี้นิ้วอย่างเต็มตัว แต่ก็ยังรักและก็รู้สึกดีกับการให้บริการคนไข้อยู่ รออีกหน่อย เรียนจบป.โทเมื่อไรอาจจะได้มาเป็นเกษตรกรเต็มตัว แล้วจะมาขอคำแนะนำจากพี่ๆนะคะ
e-mail. puangpech_@hotmail.com
หน้า