ทำไมถึงจน
22 เมษายน 2550
วันนี้ขอเขียน blog แนวสังคมหน่อยนะครับ ไม่ใช่สังคมระดับใหญ่โตอะไรที่ไหน ในหมู่บ้านผมนี่เอง ทำไมถึงได้เขียนเรื่องนี้ เพราะกลับมาอยู่บ้านแล้วมันเห็น ผมจากบ้านไป 14 ปี กลับมาแล้วยังเห็น เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเลย ของคนกลุ่มหนึ่งที่เขาไม่มีที่ทำกิน พูดง่ายๆ ว่าไม่มีสวนยางนี่เอง แต่เขามีบ้านที่มีบริเวณบ้าน คนกลุ่มนี้ประกอบอาชีพ ก่อสร้าง รับจ้างกรีดยาง จริงๆ รายได้มันพอกิน แต่ทำไมเขายังอยู่เหมือนเดิม ทั้งที่ผ่านไปแล้ว 14 ปี ผมพอจะสรุปประเด็นได้ดังนี้
1. การพนัน
2. หวย หวยหุ้น
3. เหล้า
4. จับกลุ่มคุยเรื่องชาวบ้าน (นินทาหรือเปล่าไม่รู้)
5. ไม่ปลูกอะไรกินเอง ทั้งที่มีบริเวณบ้าน
6. บ้ารำวง
7. หน่วยงานราชการไม่มีการส่งเสริมอาชีพ / ไม่ให้การช่วยเหลือเรื่องเกษตร
การพนัน ไพ่ ไฮโล ยังมี ผู้ใหญ่บ้านโทรแจ้งจับ แล้วยังไม่เลิก เปลี่ยนที่เล่นไปเรื่อย หวยเดือนละสองครั้ง หวยหุ้นทุกวัน เจ้ามือส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ใคร อาจเป็นคนที่มีบารมีหน่อย แล้วเส้นถึง หรือเป็นตำรวจเสียเองอันนี้ก็รู้ๆ กันอยู่ เรื่องเหล้าก็มีบ้างแต่ไม่เห็นมากนัก แต่ก็ถือว่ายังมีอยู่ ประเด็นต่อมาคนที่รับจ้างกรีดยางเวลาช่วงบ่าย จะเป็นเวลาว่าง แทนที่จะเอาเวลาไปปลูกผักปลูกหญ้าไว้กินในครัวเรือน เพื่อลดรายจ่าย ไม่ครับเอาเวลานี้นั่งสุมหัวกันคุยเรื่องชาวบ้าน หรือไม่ก็ไปทำข้อ 1 เวลาว่างแบบนี้ถ้าหน่วยงานราชการมาส่งเสริมอาชีพก็น่าจะดี ประเด็นต่อมาบ้ารำวง รำวงที่ไหนล่ะ รำวงงานศพในวัดครับ เดี๋ยวนี้บ้านผมฮิตกันมากมีงานศพต้องมีรำวง ในวัดนะครับ ขอย้ำในวัด รำวงไม่ใช่รำวงเหมือนสมัยก่อนนะครับ ไฮไลท์อยู่ที่นางรำครับ สาวๆ ไม่ได้รำแบบ จีบ ตั้งวง หรอกนะครับ แบบดิ้น ดิ้นกันไหมลุง งานศพ ถ้าเอาหนังตลุงมาก็ไม่มีคนดู ถ้าเอารำวงมาก็จะเล่นกันดึก ผลที่ตามมาคือ กรีดยางไม่ไหว ครอบครัวขาดรายได้ ประเด็นสุดท้าย หน่วยงานราชการไม่มีการส่งเสริมอาชีพ ตั้งแต่ผมเด็กๆและอยู่บ้าน ผมไม่เคยเห็นเกษตรตำบล เกษตรอำเภอ เข้ามาในหมู่บ้านเลย ไปขอความช่วยเหลือที่เกษตอำเภอ เหมือนจะกลืนกินเราเข้าไป ต่างกันฟ้ากับเหวกับที่จังหวัดพัทลุง (คนพัทลุงมาได้แฟนแถวบ้านเล่าให้ฟัง)มีการตั้งกลุ่มโน่นกลุ่มนี่เกี่ยวกับการเกษตร (บ้านผมก็มีกลุ่มไฮโล) มีเกษตรอำเภอมาคอยให้คำแนะนำ ตรังกับพัทลุงติดกันแค่ข้ามภูเขา แต่เรื่องการเกษตรตรัง(หมู่บ้านผม)สู้พัทลุงไม่ได้เลย มันเป็นเพราะอะไรเป็นเรื่องที่ผมต้องหาคำตอบต่อไป
ผมกลับมาอยู่บ้านผมมีเพื่อนใหม่แล้ว คือพี่ที่มาจากพัทลุงนี่แหละ กำลังคิดกันที่จะทำเป็นตัวอย่างให้เขาเห็นในเรื่องการเกษตร เพราะคนกลุ่มนี้เราไปพูด ไปสอนอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว พี่ที่มาจากพัทลุงกับผมปลูกผักปลูกหญ้า ก็กลายเป็นคนบ้าในสายตาพวกเขา พวกเขาเล่นโฮโล เป็นคนปกติ เฮ้อ...
เมื่อกี้พูดถึงงานศพในวัดมีรำวง มีบ่อยนะครับ งานศพมีบ่อยเท่าที่ทราบคือเจ้าของงานจะมีรายได้จากรำวงด้วย ได้แบบไหนผมไม่ทราบ เจ้าอาวาสได้ด้วยหรือเปล่าผมไม่รู้ พูดถึงวัดถึงเจ้าอาวาสแล้วขอซักหน่อยจะเขียนเรื่องนี้มานานแล้วแต่หาโอกาสไม่ได้ จ.ตรัง จังหวัดเลยนะครับ
ไม่ใช่ในหมู่บ้านผมนิยมแข่งนกกรงหัวจุก หรือนกปรอทจุก แข่งเสียงร้องกันว่าใครเสียงดีกว่ากัน เกี่ยวอะไรกับวัดกับเจ้าอาวาส ก็ จ.ตรัง พระมาแข่งนกด้วย อันนี้พ่อยืนยันเพราะวันแข่ง พ่อผมเอานกไปแข่งด้วย เสียใจด้วยท่าน(พระที่เอานกมาแข่ง) นกพ่อผมได้ที่หนึ่ง(สนามเล็กๆ) เจ้าอาวาสเลี้ยงนกในวัด นกกรงหัวจุกอยู่ในกุฏิ เปิดราวนก(ที่แขวนนกคราวละหลายๆ ตัว) ให้ชาวบ้านมาลองเสียงนกกรงหัวจุกในวัด ผิดไม่ผิด เหมาะไม่เหมาะ ตัดสินเองนะครับ
นำเสนอเรื่องนี้ไปแล้วหวังว่าเวบนี้จะไม่โดนบล๊อคจาก ICT นะครับ ไม่ใช่เรื่องการเมืองซักหน่อย
วันนี้ขอเขียน blog แนวสังคมหน่อยนะครับ ไม่ใช่สังคมระดับใหญ่โตอะไรที่ไหน ในหมู่บ้านผมนี่เอง ทำไมถึงได้เขียนเรื่องนี้ เพราะกลับมาอยู่บ้านแล้วมันเห็น ผมจากบ้านไป 14 ปี กลับมาแล้วยังเห็น เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเลย ของคนกลุ่มหนึ่งที่เขาไม่มีที่ทำกิน พูดง่ายๆ ว่าไม่มีสวนยางนี่เอง แต่เขามีบ้านที่มีบริเวณบ้าน คนกลุ่มนี้ประกอบอาชีพ ก่อสร้าง รับจ้างกรีดยาง จริงๆ รายได้มันพอกิน แต่ทำไมเขายังอยู่เหมือนเดิม ทั้งที่ผ่านไปแล้ว 14 ปี ผมพอจะสรุปประเด็นได้ดังนี้
1. การพนัน
2. หวย หวยหุ้น
3. เหล้า
4. จับกลุ่มคุยเรื่องชาวบ้าน (นินทาหรือเปล่าไม่รู้)
5. ไม่ปลูกอะไรกินเอง ทั้งที่มีบริเวณบ้าน
6. บ้ารำวง
7. หน่วยงานราชการไม่มีการส่งเสริมอาชีพ / ไม่ให้การช่วยเหลือเรื่องเกษตร
การพนัน ไพ่ ไฮโล ยังมี ผู้ใหญ่บ้านโทรแจ้งจับ แล้วยังไม่เลิก เปลี่ยนที่เล่นไปเรื่อย หวยเดือนละสองครั้ง หวยหุ้นทุกวัน เจ้ามือส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ใคร อาจเป็นคนที่มีบารมีหน่อย แล้วเส้นถึง หรือเป็นตำรวจเสียเองอันนี้ก็รู้ๆ กันอยู่ เรื่องเหล้าก็มีบ้างแต่ไม่เห็นมากนัก แต่ก็ถือว่ายังมีอยู่ ประเด็นต่อมาคนที่รับจ้างกรีดยางเวลาช่วงบ่าย จะเป็นเวลาว่าง แทนที่จะเอาเวลาไปปลูกผักปลูกหญ้าไว้กินในครัวเรือน เพื่อลดรายจ่าย ไม่ครับเอาเวลานี้นั่งสุมหัวกันคุยเรื่องชาวบ้าน หรือไม่ก็ไปทำข้อ 1 เวลาว่างแบบนี้ถ้าหน่วยงานราชการมาส่งเสริมอาชีพก็น่าจะดี ประเด็นต่อมาบ้ารำวง รำวงที่ไหนล่ะ รำวงงานศพในวัดครับ เดี๋ยวนี้บ้านผมฮิตกันมากมีงานศพต้องมีรำวง ในวัดนะครับ ขอย้ำในวัด รำวงไม่ใช่รำวงเหมือนสมัยก่อนนะครับ ไฮไลท์อยู่ที่นางรำครับ สาวๆ ไม่ได้รำแบบ จีบ ตั้งวง หรอกนะครับ แบบดิ้น ดิ้นกันไหมลุง งานศพ ถ้าเอาหนังตลุงมาก็ไม่มีคนดู ถ้าเอารำวงมาก็จะเล่นกันดึก ผลที่ตามมาคือ กรีดยางไม่ไหว ครอบครัวขาดรายได้ ประเด็นสุดท้าย หน่วยงานราชการไม่มีการส่งเสริมอาชีพ ตั้งแต่ผมเด็กๆและอยู่บ้าน ผมไม่เคยเห็นเกษตรตำบล เกษตรอำเภอ เข้ามาในหมู่บ้านเลย ไปขอความช่วยเหลือที่เกษตอำเภอ เหมือนจะกลืนกินเราเข้าไป ต่างกันฟ้ากับเหวกับที่จังหวัดพัทลุง (คนพัทลุงมาได้แฟนแถวบ้านเล่าให้ฟัง)มีการตั้งกลุ่มโน่นกลุ่มนี่เกี่ยวกับการเกษตร (บ้านผมก็มีกลุ่มไฮโล) มีเกษตรอำเภอมาคอยให้คำแนะนำ ตรังกับพัทลุงติดกันแค่ข้ามภูเขา แต่เรื่องการเกษตรตรัง(หมู่บ้านผม)สู้พัทลุงไม่ได้เลย มันเป็นเพราะอะไรเป็นเรื่องที่ผมต้องหาคำตอบต่อไป
ผมกลับมาอยู่บ้านผมมีเพื่อนใหม่แล้ว คือพี่ที่มาจากพัทลุงนี่แหละ กำลังคิดกันที่จะทำเป็นตัวอย่างให้เขาเห็นในเรื่องการเกษตร เพราะคนกลุ่มนี้เราไปพูด ไปสอนอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว พี่ที่มาจากพัทลุงกับผมปลูกผักปลูกหญ้า ก็กลายเป็นคนบ้าในสายตาพวกเขา พวกเขาเล่นโฮโล เป็นคนปกติ เฮ้อ...
เมื่อกี้พูดถึงงานศพในวัดมีรำวง มีบ่อยนะครับ งานศพมีบ่อยเท่าที่ทราบคือเจ้าของงานจะมีรายได้จากรำวงด้วย ได้แบบไหนผมไม่ทราบ เจ้าอาวาสได้ด้วยหรือเปล่าผมไม่รู้ พูดถึงวัดถึงเจ้าอาวาสแล้วขอซักหน่อยจะเขียนเรื่องนี้มานานแล้วแต่หาโอกาสไม่ได้ จ.ตรัง จังหวัดเลยนะครับ
ไม่ใช่ในหมู่บ้านผมนิยมแข่งนกกรงหัวจุก หรือนกปรอทจุก แข่งเสียงร้องกันว่าใครเสียงดีกว่ากัน เกี่ยวอะไรกับวัดกับเจ้าอาวาส ก็ จ.ตรัง พระมาแข่งนกด้วย อันนี้พ่อยืนยันเพราะวันแข่ง พ่อผมเอานกไปแข่งด้วย เสียใจด้วยท่าน(พระที่เอานกมาแข่ง) นกพ่อผมได้ที่หนึ่ง(สนามเล็กๆ) เจ้าอาวาสเลี้ยงนกในวัด นกกรงหัวจุกอยู่ในกุฏิ เปิดราวนก(ที่แขวนนกคราวละหลายๆ ตัว) ให้ชาวบ้านมาลองเสียงนกกรงหัวจุกในวัด ผิดไม่ผิด เหมาะไม่เหมาะ ตัดสินเองนะครับ
- บล็อกของ sothorn
- อ่าน 11710 ครั้ง
ความเห็น
ทราย
19 ธันวาคม, 2009 - 19:36
Permalink
สังคมที่หลากหลาย
มองในเชิงบวกค่ะ สังคมหนึ่งต้องมีคนหลากหลายถ้ามีคนปลูกผักกินเองหมดทุกบ้านก็ไม่มีการซื้อ ขาย และผักที่เหลือกินก็ไม่มีที่ขายด้วย และคนกลุ่มนี้ที่คุณโสทรเขียนถึงเขาต้องเจอกับภาวะวิกฤติในครอบครัวเสียก่อนจึงจะคิดได้ว่าควรทำอะไรบ้างและไม่ควรทำอะไรบ้าง
ในเรื่องเกษตรตำบลหลายๆแห่งเป็นปัญหาของประชาชนผู้เสียภาษี วิเคราะห์ปัญหาแล้วน่าจะมาจากตัวเกษตรตำบลเองขาดการพัฒนา ไม่มีความรู้ที่จะให้คำแนะนำกับประชาชนได้ และอีกอย่างหนึ่งก็คือ ระดับขั้นเงินเดือนมันตัน ลงพื้นที่ไปก็ไม่มีประโยชน์ นั่งเขียนรายงานท่สำนักงานสบายกว่ากันเยอะ ใกล้ๆบ้านคุณก็เกษตรตรังที่อาจจะเป็นที่พิ่งได้ในเรื่องของวิชาการใหม่ๆ
kitipong
20 ธันวาคม, 2009 - 13:30
Permalink
เสวนา ด้วยคน
หน่วยงานราชการ คงพึ่งลำบากครับ ผมเคยส่งเมลล์ไปปรึกษาเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์นี่ละครับเวลาผ่านไปเกือบเดือนแล้วครับยังไม่เห็นมีใครตอบกลับมาเลย(คิดว่างานคงยุ่งมากนะครับ) เลยคิดว่าคงต้องพึ่งตนเองครับโยการศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ ,อินเทอร์เนต ,และก็มีเว็บไซต์ดีๆอย่างบ้านสวนพอเพียงนี่ละครับที่ให้ความรู้ที่สามารถศึกษาและเชื่อถือได้ครับ ผมอยากให้ในเว็บมีมุมของสมาชิก(จริงๆ)ที่แนะนำเพื่อนสมาชิกด้วยกันเกี่ยวกับเรื่องการหาแหล่งซื้อพันธ์พืช,พันธ์สัตว์-แหล่งจำหน่ายสินค้าการเกษตรแบบอินทรีย์แบบราคาถูกให้แก่กันเพื่อเป็นการช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกด้ายกันเพราะเห็นว่าสมาชิกส่วนมากในเว็บนี้ส่วนมากจะเป็นมือใหม่กันนะครับจะไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้มากนักนะครับ
สวัสดีครับ จำป้อจายคนนี้ได้ก่
suthus
20 ธันวาคม, 2009 - 17:41
Permalink
ในส่วนตัวผมก็อยากให้มีการซื้อ
ในส่วนตัวผมก็อยากให้มีการซื้อขายแบบพอเพียง แลกเปลี่ยนหรือเป็นของฝากให้กับสมาชิกที่ได้ไปเยี่ยมชม ให้ได้สิ่งเหล่านี้เป็นการช่วยเหลือพี่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เพราะพวกเราทำเพื่อความพอเพียงแก่การใช้การดำรงชีพ โดยมิได้หวังกำไรที่เป็นกอบเป็นกรรมในชาตินี้ เพราะสิ่งใดที่คุณทำกับคนอื่น คุณก็จะได้ผลการทำเช่นเดียวกันต่อคุณและครอบครัวอันเป็นสุดที่รักยิ่งของคุณ.....สาธุสาธุสาธุ
จันทร์เจ้า
10 มีนาคม, 2010 - 17:35
Permalink
มี 2 ข้อ
เมื่อก่อนนี้มี 2 ข้อค่ะ คุณโสทรคงรู้ว่าเรื่องอะไร แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วค่ะเป็นคนดีแล้ว(ข้อ 2 กับ ข้อ 5)
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
ยายอิ๊ด
11 มีนาคม, 2010 - 12:35
Permalink
ขอคิดด้วยคน
ปัญหาที่น้องโสทรสรุปออกมาเป็นประเด็น ล้วนถูกหมดทุกข้อ แต่สรุปออกมาแล้วหากจนความคิดแล้วก็จบค่ะ
แต่การแก้ไขแก้ยากมาก เพราะเป็นเรื่องของคน มีองค์ประกอบมากมายที่จะต้องนำมาแก้ไข แล้วอย่าว่าแต่คนเดียวเลย เป็นกลุ่มคนยังยากที่จะช่วยกัน เพราะมันระดับประเทศ ไม่รู้อี้ชาติไหนคะที่จะแก้ได้ เพราะฉะนั้นต้องจัดการกับตัวเราเอง โดยข้าราชการส่วนใหญ่นั้นหรือเป็นเรื่องจริง คนทำงานเพื่อเงินเดือน กับทำด้วยใจมันผิดกันค่ะ บางคนนั้นได้หัวโขนมาโดยทำงานด้วยปากก็เยอะคะ หากทำงานที่มีตำแหน่ง แย่งระดับกันแล้ว ต้องหัดทำตัวเป็น แลน เห่าดงก็ได้ตัวใหญ่ดีเปลี่ยนสีเห็นชัดเพราะ ตุ๊กแก จิ้งจกมันตัวเล็กไป (มากไปแล้วม้าย)
ยายอิ๊ดว่า ตอนนี้กลุ่มบ้านสวนอย่างน้อยก็รวยกันทุกคน รวยน้ำใจ(ไม่รู้คิดเองม้าย)เพราะคบใครแล้วผิดหวังบ่อยครั้ง จนเอือนแล้ว
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
sothorn
11 มีนาคม, 2010 - 15:18
Permalink
คนที่เคยเคารพ
คนที่ผมเคยเคารพ และคิดว่าเขาเป็นคนดี
แต่สุดท้ายมารู้ทีหลังเขาทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน แบบไม่รู้จักพอ มันก็รู้สึกว่าผิดหวังไปอีกหนึ่ง
ไม่นานมานี้ก็มีสมาชิกบ้านสวนทำตัวไม่ค่อยเป็นที่ประทับใจของสมาชิก พวกบอกว่าตัวเองดีแต่แอบแฝงธุรกิจ สมาชิกช่วยกันยิกไปแล้ว ก็รู้สึกผิดหวังไปอีกหนึ่ง ก่อนหน้าป้าอิ๊ดมาไม่นานเท่าไร
ก็เอาเป็นว่าเราอยู่แบบรวยน้ำใจกันแบบนี้ดีกว่านะครับ สบายใจกว่า
ยายอิ๊ด
11 มีนาคม, 2010 - 15:24
Permalink
ดีจ้านน้องบาวเหอ
ดีจัง ความจริงยายอิ๊ดเสียความรู้สึกกับคน จนไม่รู้อี้เสียพรือแล้ว แค่อยู่เลยทำไม่รู้ ปิดหูมั้ง ปิดตามั้ง แต่บางที่ก็ยังเป็นคน ยังมีความรู้สึก เลยพยายยามคิดว่าเขาคงมีความสุข เราก็ยินดีด้วย และเขาก็น่าสงสารนะ คิดแล้วบายใจ และอี้ช่วยพันพรือให้เขาหลุดพ้นจากการที่เขาน่าสงสารนั้น
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
ป้าเล็ก..อุบล
11 มีนาคม, 2010 - 15:25
Permalink
ยิก
นึกว่าใช้กับแลน หรือหมูหมากาไก่ ใช้กับคนกันนะ ป้าเล็กก็ได้ร่วมยิกกับเขากัน ตอนนั้น ยายอี๊ดเห้อ
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
ยายอิ๊ด
11 มีนาคม, 2010 - 15:27
Permalink
ป้าเล็กนุ่งผ้าขาวม้าม้าย
ที่เขาเล่าว่า ผ้าขาวม้าอุด รู แลน
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
ป้าเล็ก..อุบล
11 มีนาคม, 2010 - 15:47
Permalink
555อุดรูแลน
เคยฟังเรื่องนี้ค่ะ เรื่องหมอดูทักว่า คุณจะจนกว่านี้อีก
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
หน้า