เก็บผักในบ้านมาทำอาหารทานกัน และ ธัญพืชอัดแท่ง

เขียนโดย Tui เมื่อ 4 มีนาคม, 2011 - 15:30
หมวดหมู่ของบล็อก: 
อาหาร

Pick up your own veggies to be your own food and Muesli bars



I try not to eat much sweets, then my missus gave me this Muesli bars recipe to try out. I made them up, but I was not impressed by the results as they turn crumbly under the hot sun and have to be kept in the fridge. Anyway, they are healthier than the another bars recipe! Above picture is my hot stir fried eggplants with lamb: ผมพยายามที่จะไม่ทานของหวานมาก จากนั้น เจ้ ก็ให้สูตร ธัญพืช อัดแท่ง มาให้ลองทำ ผมทำแล้ว ก็ ไม่ประทับใจ เพราะ สูตร นี่ทำแล้ว ร่วน ไม่เกาะกัน เวลา อากาศ ร้อนๆ และต้อง เก็บ ในตู้ เย็น ยังไงก็ ตาม สูตรนี้ ก็ ดี ต่อ สุขภาพ มากกว่า สูตร อื่นๆ ด้านบนเป็น มะเขือม่วง ผัดเผ็ดใส่แกะครับ



ด้าน บนเป็น ดอกฝักทอง และ มะระ ยัดใส่ไก่ Above picture is stuffed pumpkins flowers and bitter melons with chicken mince.



Below are the method of Muesli bars making , the recipe is not ready to be given away yet . If someone interested in the recipe please let me know, once I've got a nicer recipe I will send it to you guys who ask for: ด้านล่าง เป็นขั้นตอนการทำ ธัญพืชอัดแท่งครับ สูตรนั้น ยั้งไม่ พร้อม แจก ถ้าใครสนใจ สอบถามได้ เมื่อ ผมได้ สูตร ที่ดี กว่านี้แล้ว จะส่งให้ ท่านที่ต้อง การครับ



ส่วนแ้ง ผสม คร่าวๆ ครับ มะพร้าวแห้ง งา เม็ดเชียร์ ข้าวตอก ลูกเกต จมูกข้าวสารี แผ่น เม็ดมะม่วงหิมพาน  Roughly, the ingredients for dry mixture : disiccated coconut, sesame seeds, chai seeds, puffed rice, raisins, wheat germ flakes and cashew nuts



Below is a melting hot mixture, consists with butter , brown sugar and chocolate ด้านล่าง เป็น ส่วนผสม ที่เคี่ยว ร้อนๆ ประกอบด้วย เนย น้ำตาลทายแดง และ ช็อคโกแลต



Combine the two mixtures all together, then you press them into a tray. ผสม ส่วนผสมทั้ง ร้อน และ แห้ง เข้าด้วยกัน จากนั้น ก็ กดใส่ถาด



Leave it to cool enough to be cut into bars , then you have to keep them in the fridge. If the temparature is too hot ,they will turn crumbly
!! จากนั้นก็ ปล่อยให้เย็นจนตัดได้ และ ต้อง เก็บ ในตู้เย็น ถ้า ทิิ้งในอากาศร้อน มันจะ ไม่รวมตัวเป็น ก้อน



This recipe requires less butter and sugar than the other recipes, I think that's why you have to chill them to keep their shapes. For me this recipe will work well in Winter but not in Summer: สูตรนี้ใช้เนยและน้ำตาลน้อย กว่า สูตรอื่นเยอะ ผมคิดว่านั้น เป็น เหตุ ให้ ต้องเก็บมันในที่เย็นๆ ให้ คงรูป แท่ง สำหรับผมนั้น สูตรนี้ไปได้ดีในหน้า หนาว แต่ ไม่ใช่ หน้าร้อน


Have a good weekend guys มีความสุข สุดสัปดาห์ ครับ


See you in the next blog เจอกันบล็อก ต่อไปครับ


Tui ตุ้ย

ความเห็น

Tui

4 มีนาคม, 2011 - 18:49

ขอบคุณ ครับพี่ สูตรเจ้ บอกมาครับ

ปุ๊ก

4 มีนาคม, 2011 - 16:39

ธัญพืชอัดแท่งของพี่ตุ้ยน่ากินจังเลยค่ะ

ถ้าอยากให้เหนียวอยู่ตัวเหมือนกระยาสารท

หรือถั่วตัด เค้าต้องใส่แบะแซ ด้วยนะคะ

แต่ปุ๊กก็ไม่เคยทำหรอกนะคะ

ทำแค่...พอดี  


ใช้อย่าง...พอเพียง  


เก็บออม...พอสมควร


3 พอ...เพื่อความสุขในชีวิต


msn  kra_pook@hotmail.com

Tui

4 มีนาคม, 2011 - 18:47

ขอบคุณ ครับปุ๊ก ผมมี อีก สูตร ครับ เกาะ ตัว ดี เลย แต่ต้อง อบครับ น้ำ ตาล ก็ เยอะ ครับ ไม่ ด เท่าไหร่ ยัง ไงหา แบะแซลองดู ครับ หลายท่านก็ แนะ นำ

ป้าต่าย

4 มีนาคม, 2011 - 17:39

ลองใส่ข้าวเหนียวสักนิดน่าจะเกาะเป็นก้อนดีในอากาศร้อนๆ นะ...คิดไปเรื่อยนะ อิอิอิ...น่ากินดีจังป้าชอบอาหารประเภทถั่วอยู่แล้ว...

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

Tui

4 มีนาคม, 2011 - 18:50

ขอบคุณ ครับ ป้า ต่าย ใส่ ข้าวเหนียว มัน ก็ ไม่ กรอบ นะครับ ยังไง ต้อง ลอง หลายๆ แบบครับ

Slowlife

4 มีนาคม, 2011 - 18:12

มีคราวหนึ่งเดินป่า เพื่อนบอกว่าจะเอา energy bar มาให้พกไปกินระหว่างทาง นัยว่าให้พลังงานสูงว่างั้นนะคะ...เราก็ ..อือๆ ได้ๆ...พอเห็นแล้วก็กรี๊ดค่ะ บอกเขาว่า...บ้านฉันเรียก "กระยาสารท" ฮ่าๆๆๆ ผิดแผกกันตรงวัตถุดิบที่ใช้ เพราะเมืองนอกก็จะเป็นพวก nut หรือ bean  แต่เป็นชนิดของเมืองนอก ของเราก็ใช้แบบที่เป็นของเรา ถั่วลิสง งา ข้าวพอง แพงหน่อยก็ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์เพิ่มมูลค่าให้แพงขึ้นไปอีก ล้วนเป็นธัญพืชคือๆ กัน แต่ก็ดีค่ะ ลาภปากเปลี่ยนจากกินถั่วลิสงไป กินแมคคาดิเมียมั่ง เผื่อได้กลิ่นอายเมืองฝรั่ง แถมคุยทับไปด้วยนะคะ ว่าเมืองไทยเนี่ย...ถ้าใช้ถั่วลิสงกับน้ำตาลอย่างเดียว เค้าเรียก "ถั่วตัด" แต่ถ้ามีถั่วแล้วอัดเป็นแท่งๆ เขาเรียก "ขนมตุบตั๊บ" เพราะคนจีนเวลาเค้าทำ เขาจะทุบๆ ดังตุ๊บตั๊บๆ   

เท่าที่ทราบมานะคะ ถ้าจะให้ติดกันไม่ร่วนซุย แต่ไม่หวานมาก ให้ใช้แบะแซเป็นตัวช่วยค่ะ ในเมืองไทยเรียกแบบนี้ เมืองนอกไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวนี้กระยาสารทเมืองไทย เค้าก็ไม่ทำแข็งโป๊กแล้วนะคะ บางเจ้าอร่อย หอมน้ำตาลอ้อย น้ำตาลมะพร้าว มีซอยมะพร้าวทึนทึก คือมะพร้าวที่ไม่อ่อนไม่แก่มาก ใส่ลงไปด้วย แหม...นึกถึงแล้วอยากกินเหมือนกัน

คนไทยนี่เห่อของฝรั่งนะคะ...หรือ Slowlife ขวางโลกก็ไม่รู้ เห็นกินกันจังเลย พวก corn flake หรือ whole grain ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ จริงๆ แล้วขนมไทย ที่มีส่วนผสมของธัญพืชมีมากมาย เช่น เต้าส่วน เต้าทึง โบ๊ะเกี้ย ฯลฯ มีทั้งถั่วแดง ลูกเดือย ถั่วเขียว แห้ว เก๋ากี ซึ่งมันก็เป็นการแพร่วัฒนธรรมการกินแหละนะคะ แต่บางทีก็อยากให้คนไทยเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีมาแต่โบราณ ซึ่งถ้าศึกษาให้ดีแล้วจะรู้ว่าคนโบราณสั่งสมความรู้เรื่องยาและอาหารให้ควบคู่กันมาแต่โบราณ เราต้องกินอาหารให้เป็นยา ไม่ใช่กินยาให้เป็นอาหาร

อ้าว...โม้มากอีกแล้ว....พอแค่นี้ดีกว่า เดี๋ยววันหน้าไม่มีอะไรโม้

บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน

Tui

4 มีนาคม, 2011 - 19:26

ขอบคุณ มากครัย สำหรับ ข้อ มูล สองท่านแนะนำ แบะ แซ แล้ว เดี๋ยว จะ ไป หามาลองครับ


เอนเนอจี้ บาร์ แพง มากครับ ทำเองก็ได้ เจ้ทำ บ่อย สมัยก่อน แต่ต้องอบอีก รอบครับ เราซื้อ ถั่วต่างๆ มาจาก ร้านอินทรีย์ ครับ แต่คิดๆ ดู แล้ว ทั้ง เนยทั้ง น้ำ ตาลสารอาหารที่ได้ ไม่คุ้ม คลอเลสเตอรอล ครับ เลยลอง เปลี่ยนไป เปลี่ยนมาจนเจอ สูตรนี้ ถ้าใช้ แบะแซแล้วทำได้ดีเลยครับ คุณ ขอบคุณ และ คุณ ปุ๊ก ที่แนะนำอีก ครั้งครับ


อาหารแบบ กระยาสาทรนี้ จำได้ดีเลยครับ ชอบทานด้วย สมัยก่อน ไม่เน้น คุณค่าเท่าไหร่ เดี๋ยวนี่ กระยาสาทร ดีๆ เยอะเลยครับ คุณค่าทางอาหาร ของสินค้าไทย หรือ ต่างประเทศบ้างอย่างก็ เท่ากันครับ คุณครับ จำน้ำมันรำข้าว สมัยก่อนได้ไหม ที่ถูกๆ มากๆ นะครับ ก่อนมี น้ำมัน ปลาม์ และ ถั่วเหลือง สมัยก่อนถูกมาก ตอนนี้น้ำมันรำข้าว แพงมากครับ กำลังเป็นที่นิยม แพงกว่า น้ำมัน มะกอก สกัดเย็นด้วยครับ มีขายที่ร้าน อินทรีย์ ทำในไทย ด้วยครัย พอเริ่มมีคนสนใจเรื่อง กรดไขมัน กันมากขึ้น ก็เริ่ม ขวยขวาย หาครับ พอมเจอ ประโยชน์ ในรำข้าว ก็ ชอบกันครับ หายาก ด้วย กลับไป เมืองไทยก็ มองหาในห้างนะครับหาไม่ค่อยมีเยอะ เหมือนสมัยก่อน ซื้อ กลับมาทุกครั้งครับ


ของสุขภาพที่นี่ก็ราคา แพงครับ แต่ค่าแรงก็ แพง ครับ ดั้ง นั้น แต่ว่า ค่าครองชืพ หัก ด้วย ค่าใช้จ่าย รวมแล้ว มี เงินเหลือ เก็บ มากกว่า ที่เมืองไทย แปลกไหม


ผูดกลับกันคือ ถ้าหาเงินขั้นตำได้ที่นี่ ของกิน ที่นี่ถูกมากครับ ของใช้ ด้วยสมัย เป็นนักเรียน ชอบใช้ เป้ครับ จำได้ เป้สมัยก่อน ราคา พันกว่าบาท ค่าแรงตอนนั้น ตำกว่า สองร้อยต่อปี ดั้งนั้น ถ้าจะซื้อ เป้ เก็บเงิน นานมาก เป้ที่เมืองไทยซื้อมาขาด ซื้อ เอาใหม่ที่นี่ ราคาเท่ากัน ครับ แต่ผม หา ค่าเป้ ร่วมค่าอาหารที่พักได้ ใน วัน เดียว ตั้ง แต่นั้น เลยมอง คำว่า เมืองไทย ของถูก ใหม่หมด


แต่คุณ ครับ ของแพงๆ เหล่านั้น ก็ มี คนนิยมซื้อ นะครับ แปลกใจมาก ผมกลับเมืองไทย ชอบไป เดิน งานแสดง สิ้นค้าครับ ถึง ให้ เศรฐกิจ แย่ แค่ไหน ซุ้มขายโทรศัพท์ ขายอุปกรณ์ ทันสมัย คนแน่เสมอ เคยคิด ว่า เขาเอาเงินที่ไหนมากันครับ รถในกรุงเทพ ใหม่ๆทั้ง นั้นเลยนะครับ คนขับรถสวย แต่อยู่ อพาตรเม้นก็ มี เยอะ นะครับ บ้านครั้งมี บ้าน ที่พอ อยู่ขับรถเก่าหน่อย ดีกว่า ยังไงใครใช้ ชืวิตแบบไหนไม่ว่า กัน ครับ ความสุขใครความสุข มัน ออกนอก เรื่อง กินไป เยอะ ครับ


สมัยดี ที่เมือง ไทยเริ่ม สรรหา สิ่งดีๆในบ้านเรามา แสดงให้ ผู้ บริโภคเห็น และ นิยมมากขึ้นและราคาถูก ดีด้วย สัก วันกระ แสของ นอก ก็ จะ หายไปครับ


ที่นี่ เขามีแกะ เยอะ เขาก็ ทำ ครีมรกแกะ ขน แกะ ขาย ตัวอย่างนะครับ บางอย่างในเมืองไทย อาจจะดี กว่า รกแกะขนแกะ ก็ ได้แต่ยังไม่มี การสงเสริมทางการตลาด ผูดเรื่อง ราคาขายครีม รกแกะ ขน แกะ ในเมืองไทย แล้วขัดใจ ครับ บ่นได้ อีกเยอะเลย ราคาไวน์ บ้านเราด้วย พี่ ชาย เคย สอน เรื่อง การตลาดให้ ผมฟัง บางครั้ง ราคาขาย ขึ้น อยู่ กับ ตลาดที่ขาย ของราคาแพง คนส่วนใหญ่จะ นึกว่าดี แต่จริงๆ แล้ว มี คนไทยแพ้ นะครับ ผมกลับ เมืองไทย ก็ ขนแต่ ครีมพวกนี้ไป แจก ยิ่งสมัย สิบกว่า ปี ก่อน ครีมเหล่านี้ ส่งกลับ แถบไม่ทันครับ ห้า ปี หลังนี้เห็น ขายกันเยอะ เลย


ผูดคุยไปมา นอกเรื่องบ้างเข้า เรื่อง บ้างแรกเปลี่ยนความคิดกันครับ คุณ

Slowlife

4 มีนาคม, 2011 - 19:57

 เมืองไทยมีของดีเยอะค่ะ แต่ขาดวิธีการจัดการที่ดีและไม่มีมาตรฐาน เราขาดตรงนี้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นของอุปโภคและบริโภค ของบางอย่างที่ขายแพงและนำเข้า ทำไมเราถึงให้ความไว้วางใจซื้อหา เราไม่ได้ไว้วางใจในตัวสินค้าแต่เราไว้ใจแบรนด์มากกว่า หนักไปกว่านั้น บางคนหาสินค้าที่เป็นสินค้าส่งออก โดยคิดว่าถ้าเมืองไทยผลิตส่งออกต้องมีมาตรฐานดีกว่าของที่ผลิตให้ประชาชนในประเทศใช้ น่าน้อยใจนะคะ ทำนองเหมือนว่าชาวสวน เก็บผลไม้สวยๆ ดีๆ ไว้ขาย ส่วนชาวสวนเองกินผลไม้ที่เกรดต่ำลงมา

คนไทยถูกกระตุ้นให้ซื้อค่ะ ให้บริโภค โดยสร้างค่านิยมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เสื้อผ้า รถยนต์ การตลาดไม่ได้ขายเฉพาะสินค้าค่ะ แต่การตลาดสามารถขายค่านิยมด้วย เช่นว่ากินไก่ทอดร้านนี้แล้วเป็นคนทันสมัย ใส่เสื้อแบรนด์นี้แล้วดูดีมีรสนิยม รถยี่ห้อนี้ขับแล้วตำรวจไม่กล้ามายุ่ง ตลกดีเหมือนกัน บางทีมองๆ แล้วก็ห่วงอนาคตประเทศไทยค่ะ

 

บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน

อัญชณา

4 มีนาคม, 2011 - 18:49

ได้เวลาอาหารเย็นพอดี...ชอบธัญพืชอบแห้งค่ะ...คุณตุ้ย ช่างคิดช่างทำจริงๆ ค่ะ

Tui

4 มีนาคม, 2011 - 19:27

ขอบคุณ ครับ คุณ อัญ ได้ สูตรดีๆ เมื่อ ไหร่ ไม่ลืมแบ่ง กัน ครับ

หน้า