รวมมิตรเห็ดน้ำย่านาง
วันนี้มีเมนูอาหารเพื่อสุขภาพมาให้ชมให้ชิมกัน สืบเนื่องมากจากเมื่อวันก่อนได้ซื้อหนังสือชีวจิตมา แล้วอ่านไปเจอเมนูอาหารที่น่าสนใจอยู่หนึ่งเมนูชื่อว่า "รวมมิตรเห็ดน้ำใบย่านาง" เห็นว่าเป็นเมนูที่ทำง่าย ๆ เครื่องปรุงก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ก็เลยอยากลองทำดู ตื่นเช้าก็รีบบึ่งรถไปตลาดเลย ไปถึงก็ต้องวิ่งซื้อของตามรายการที่จดไว้ (ถ้ามัวเดินกลัวจะไปทำการไม่ทัน)ไปดูเครื่องปรุงกันว่ามีอะไรบ้าง
1.เห็ดกี่อย่างก็ได้แล้วแต่ชอบ แต่วันนี้เลือกมา 3 อย่าง
2.พริกขี้หนู 8 เม็ด
3.ผักหวาน (ถ้าตามสูตรเขาใส่ดอกบานดึกหรือชมจันทร์ แต่วันนี้หาไม่ได้ก็เลยใส่ผักหวานแทน)
4.น้ำใบย่านาง
วิธีทำ ขั้นแรกก็คั้นใบย่านางก่อน ได้แล้วก็ตั้งไฟให้เดือด เมื่อน้ำเดือดก็ใส่เห็ด ใส่ผักหวาน ปรุงรสตามชอบ และสุดท้ายใส่พริกขี้หนูบุบลงไป ตั้งให้เดือดอีกรอบแล้วก็ปิดไฟยกลงได้เลย
ไปดูหน้าตาของรวมมิตรเห็ดน้ำย่านางกันว่าหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร
หน้าตาเป็นอย่างนี้ค่ะท่านผู้ชม คล้าย ๆ กับแกงเห็ดของคนอีสาน แต่อันนี้ไม่ใส่ปลาร้าค่ะ รสชาติก็ไม่เลวทีเดียว ใครรักสุขภาพก็ลองทำกินกันดูนะคะ
- บล็อกของ pemi.evil
- อ่าน 12357 ครั้ง
ความเห็น
oddzy
22 มีนาคม, 2011 - 10:39
Permalink
เห็ดน้ำย่านาง
แก้อะไรบ้างค่ะ? ทานเป็นยาบำรุงอะไรบ้างค่ะ เขาได้บอกใหมเอ่ย? อยากทราบสรรพคุณน่ะค่ะ
pemi.evil
22 มีนาคม, 2011 - 10:54
Permalink
พี่อ๊อด
ย่านางมีรสจืด และเป็นยาเย็น มีสรรพคุณในการดับพิษร้อน กลุ่มนักธรรมชาติบำบัดจึงได้นำเอาความรู้ตรงนี้มาใช้ประโยชน์แนะดื่มน้ำคั้นจากใบย่านาง เป็นน้ำคลอโรฟิลล์เพิ่มความสดชื่น และยังใช้ในการปรับสมดุลร้อนเย็นในร่างกาย เชื่อว่าสาเหตุของโรคต่างๆ ในร่างกายมาจากความร้อนที่ไม่สมดุลกับความเย็น หรือความเจ็บป่วยนั้นมักมีความร้อนเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไข้ ปวดแขนขา แสบร้อนเบ้าตา เป็นผดผื่นคัน แพ้อากาศ การใช้ยาเย็นจึงจะช่วยขับความร้อนในระบบต่างๆ เหล่านั้น และช่วยให้ร่างกายดีขึ้น รวมถึงเป็นการล้างสารพิษที่สะสมในระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งมาจากอาหารและสิ่งแวดล้อม
ย่านางนั้นมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย อุดมด้วยเส้นในอาหาร แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส ในรูปแบบอาหารและเครื่องดื่มจึงเป็นการประโยชน์ที่เหมาะสมสำหรับการดูแลสุขภาพอย่างยิ่ง..ย่านางเมื่อโดนความร้อนอาจจะสูญเสียคุณค่าทางอาหารไปบ้าง ถ้าให้ดีต้องคั้นแล้วดื่มสดๆ ค่ะพี่อ๊อด โดยปกติทุกเช้าก็จะคั้นน้ำย่านางเพื่อเอาไปดื่มที่ทำงานทุกวันอยู่แล้วค่ะ ดื่มแทนน้ำเปล่าเลยค่ะ เพราะตัวเองชอบเป็นร้อนใน ต้องกินอาหารที่มีฤทธิ์เย็นถึงจะช่วยได้ค่ะ
ประโยชน์ของเห็ด 3 อย่างคือ
- ช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ ทั้งจากอาหารและสารเคมี เช่น พิษจากสุรา สารตกค้างในเนื้อสัตว์ สารเคมีจากเครื่องสำอาง (ลิปสติกสีสด ยาย้อมผม)
- ช่วยล้างพิษพวกอนุมูลอิสระ
- ช่วยล้างไขมันในตับ
- ตับแข็งแรงขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้อารมณ์ดี การสร้างเม็ดเลือดแดงดี
น้องคนเล็ก
22 มีนาคม, 2011 - 10:46
Permalink
เห็นแล้วน้ำลายไหมค่ะ
วิธีทำไม่ยากเลยต้องกลับไปลองทำบ้างค่ะ
pemi.evil
22 มีนาคม, 2011 - 10:57
Permalink
น้องคนเล็ก
ใช่ค่ะวิธีทำและเครื่องปรุงไม่ยุ่งยาก เป็นผักที่หาได้ง่าย ๆ ยิ่งถ้าเป็นผักพื้นบ้านปลอดสารพิษก็ยิ่งดีค่ะ
เสิน
22 มีนาคม, 2011 - 10:51
Permalink
คล้าย...เลียง
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
pemi.evil
22 มีนาคม, 2011 - 10:56
Permalink
พี่เสิน
ใช่ค่ะ คล้าย ๆ แกงเลียงแต่นี้ไม่ใส่กะปิค่ะ ส่วนผักเราจะใส่ฟักทองหรือผักอื่น ๆ ลงไปอีกก็ได้ค่ะ
วิศิษฐ์
22 มีนาคม, 2011 - 11:06
Permalink
น่าทานครับ
หน้าตาคล้ายๆแกงเห็ดของอีสาน แต่ไม่ได้ใส่ปลาร้า..เห็นแล้วได้สักชามก็ดี กับข้าวตอนเที่ยงแกงเห็ดร้อนๆ +ส้มตำเผ็ดๆ ข้าวเหนียวสักกระติบ ...แซบอย่าบอกไผเลยละคุณ...เห็นแล้วน้ำลายไหล...


pemi.evil
22 มีนาคม, 2011 - 11:57
Permalink
คุณวิศิษฐ์
ใช่ค่ะเหมือนแกงเห็ด ถ้าใส่ปลาร้า ใส่ชะอมลงไปเหมือนเลยค่ะ แซ่บบบบบบ
ป้าเล็ก..อุบล
22 มีนาคม, 2011 - 11:44
Permalink
เหมือนแกงเปรอะ
แบบนี้เหมือนแกงเปรอะ เหมือนแกงหน่อไม้ น่ากินจัง
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
pemi.evil
22 มีนาคม, 2011 - 11:59
Permalink
ป้าเล็ก
ถ้าเป็นคนใต้ ถ้าแกงที่ใส่น้ำย่านางก็คงจะเป็นแกงเลียงขี้เหล็กค่ะ ส่วนทางอีสานก็มีแกงเห็ด แกงเปรอะเหมือนที่ป้าเล็กบอก...แต่แกงนี้ไม่ใส่ปลาร้า ไม่ใส่กะปิค่ะ
หน้า