เรื่องของคนมีลำไส้แต่ไม่ใช่กระสือ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เหตุใดลำไส้จึงรั่ว : จะมีอะไรมาทำให้ลำไส้รั่วนอกจากอาหาร และยา ที่เรากินเข้าไป และรวมไปถึงความเครียด อาหารที่ส่งผลโดยตรง ได้แก่ พวกแป้ง น้ำตาล และข้าวขัดขาวทั้งหลาย การทานอาหารซ้ำซาก ไม่ว่าจะไปใหนก็กินแต่เมนูเดิมๆ ทั้งอาทิตย์ ไม่กินผักไม่กินผลไม้เลย แบบนี้รับรอง ไส้ทะลุแน่ๆ เพราะร่างกายได้รับสารอาหารเดิมๆ สารเคมีก็มีโอกาสเข้าไปสะสมในลำไส้


แหล่งอาหารรักษ์ลำไส้: อาหารที่เป็นมิตรกับลำไส้ได้แก่ อาหารที่มีไวตามินเอ ไวตามินอี และสังกะสี ผักที่สุดยอดมิตรแท้ของลำไส้ก็คือ "มะเขือเทศ"



(ภาพมะเขือเทศจากตลาดนัด) ที่นอกจากจะมีไวตามินหลายชนิดแล้ว ยังมีสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระทรงพลังอย่าง" ไลโคปีน" ที่ต้านการติดเชื้ออย่างได้ผล และมีน้ำตาลโมเลกุลขนาดกลาง(FOS) ทำหน้าที่เป็นสารอาหาร "พรีไบโอติกส์" ช่วยทำลายแบคทีเรียตัวร้าย และเกื้อกูลแบคทีเรียตัวดีในลำไส้อีกด้วย



(ภาพมะเขือเทศจากตลาดนัด) มะเขือเทศจะให้ประโยชน์สูงสุดเมื่อผ่านความร้อน แม้ว่าไวตามินจะเสียไปบ้าง แต่ "ไลโคปีน" กลับเพิ่มมากขึ้น หากใครที่ชอบทานมะเขือเทศแช่เย็น ก็ควรนำออกมาวางไว้ให้หายเย็นก่อนทาน เพราะความเย็นจะทำให้ไลโคปีนลดลง



(ภาพนี้ถ่ายมาจากตลาดนัดเช่นกัน) นอกจากนี้อาหารชนิดอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ โยเกิร์ต น้ำผึ้ง แก้วมังกร กล้วยหอม (อั๋ยย๋ากล้วยหอมหรอ oddzyกินไม่ได้ค่ะ ขืนกินเข้าไปตายแง๋แก๋) หน่อไม้ฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม และข้าวสาลี


ทำอย่างไรเมื่อลำไส้รั่ว: ปรับตัวเรื่องอาหารการกิน งดกินแป้งและน้ำตาลขัดขาว และหันมากินข้าวไม่ขัดสี หรือน้ำตาลทรายแดง กินอาหารให้หลากหลายขึ้น กินผักและผลไม้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยการทำงานของร่างกายทั้งระบบ งดเครื่องดื่มกาเฟอีนและแอลกอร์ฮอที่จะไปกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานผิดปกติ ทานอาหารให้ตรงเวลา ออกกำลังกายเบาๆ ให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสู้กับโรค ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่


ปรับสภาพจิตใจ อย่างไรก็ดีควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด อาจจะเลือกไปปฏิบัติธรรม  ท่องเทียว พักผ่อน และที่สำคัญพักผ่อนให้เพียงพอ


อาการลำไส้รั่วอาจจะฟังดูน่ากลัว เพราะอาจะนำไปสู่โรคอื่นๆมากมายที่จะตามมา แต่เราก็รักษาและป้องกันได้ด้วยตัวเราเอง ทั้งเรื่องการกิน และการพักผ่อน


 ขอขอบคุณข้อมูลจาก นพ. กฤษดา ศิรามพุธ แพทย์ด้านเวชศาสตร์อายุรวัฒน์และผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ จากนิตยสาร Health&Cuisine ฉบับที่ 120 หน้า 32-33


และขอขอบคุณบ้านสวนพอเพียงแห่งนี้สำหรับพื้นที่น้อยๆ


"ยังไม่ถึงคราวตายก็ไม่วายชีวาวาส ใครอาฆาตเข่นฆ่าไม่อาสัญ


ยังไม่ถึงคราวตายก็ไม่วายชีวาวัน แม้แต่ไม้จิ้มฟันแทงเหงือกยังเสือกตาย"


(กลอนของใครไม่รู้ แต่ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย)




ความเห็น

กินดีมีสุขค่ะ กินผักเยอะๆ ดีต่อสุขภาพแน่ๆ เห็นด้วยๆ

 

กินผักเยอะๆ  กิอาหารให้ครบทุกมื้อ   ไม่เครียด  ก็คงจะ  ไม่เกิดเหตุแบบนี้ ใช่มั้ย   ป้องกันดีกว่าแก้

ก็ไม่อยากลำไส้ทะลุนี่นะ  โรคที่น่ากลัว เพื่อนสนิทพี่คนนึงกล่าวไว้น่าฟังว่า  จุ๋มเธอกินทุกอย่างแหละ  แต่หลากหลาย  ไม่ควรกินอะไรซ้ำๆเป็นเวลายาวนาน  มันมีผลเสียต่อร่างกายทั้งนั้น  อย่างที่น้องอ๊อดว่าก็น่าจะเป็นจริงตามนั้น  ลำไส้ที่ไม่ค่อยถ่ายก็เกิดการหมักหมม ไม่ดีเช่นกัน

oddzy..

มาให้เมจุ๊บหนึ่งที ..ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้ดีๆเน้ออ :cheer2:

 

รู้แล้วทีนี้...จะได้กินมะเขือเทศเยอะๆ..ตำแจ่วส้มใส่บักเขือเทศหลายๆ  ต้มไก่ก็ใส่มะเขือเทศสักครึ่งกิโล  ตำบักหุงแล้วก็ใส่บักเขือเทศหลายๆ  แต่อย่างเดียวที่กินไม่ได้มะเขือเทศดิบๆมันรสชาติแปลกๆ  ขอบคุณเด้อข้อมูลดีๆ  บัดนี้จิ้มแข่วต้องระวัง...


เดี๋ยวไม้จิ้มฟันทิ่มเหงือกแล้วเสือกตาย...555...แม่นบ่  เพื่อนอ๊อด..อิอิอิ

 

ของชอบเลยมะเขือเทศ  ต้องกินเยอะๆ

  เรียกง่ายๆว่า ขวัญก็ได้นะครับ my nickname

:cheer3:


:admire2:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

   Laughingมึนเลย นานๆมาอ่านวิชาการสักที แต่ก็ขอบใจนะได้เพิ่มความรู้๕๕๕


โชคดีที่เป็นคนชอบกินผัก แสดงว่าเดินถูกทางแล้ว :uhuhuh:

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ขอบคุณครับ สาระวิชาการล้วนๆ  ว่าแต่ทำไมคุณODDถึงทานกล้วยหอมไม่ได้ครับ

"จะปลูกทุกอย่างที่กิน จะกินทุกอย่างที่ปลูก"

กินกล้วยหอมไม่ได้เลยค่ะ อาการคือ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก จุก เสียด ลมตีขึ้นไปจุกลิ้มปี่เลย


คงจะมีสารอะไรสักอย่างที่ร่างกายไม่รับมั้ง เกือบตายเพราะกล้วยหอมนี่ถึงสามครั้งค่ะ เข็ดเลยไม่เอาอีกแล้ว

หน้า