รางจืด..สมุนไพรที่อยากนำมาเล่า..

เมื่อวานลงบล้อกรางจืดที่เพาะไว้...มีสมาชิกสงสัยเรื่องเมล็ดพันธุ์...สาวนตัวเองก็สงสัยเรื่องชนิดพันธุ์แบบเถา...เลยต้องไปล่าต้นรางจืดมานำเสนอต่อ..ภาคที่เท่าไรจำไม่ได้แล้วค่ะ

มาสังเกตุด้วยกันนะคะ

รางจืดชนิดเถาม่วง ก้านใบจะออกสีเข้มๆออกน้ำตาลม่วง  ดอกก็จะสีม่วงเข้มกว่าอีกชนิด

นี่คือฝักรางจืดที่มีเมล็ดอยู่ข้างใน...ไม่นิยมเพาะเมล็ดเนื่องจากโตช้า

ฝักแก่ที่มีเมล็ดข้างใน...น่าเขกหัวตัวเอง..ถ่ายก่อนแกะเมล็ด...พอแกะเมล็ดลืมถ่ายรูป...

มาดูใบกันต่อนะคะ โคนใบของรางจืดที่เถาสีเข้มนี่จะเป็นรูปหัวใจ..ใบจะสากๆๆเหมือนมีขน..และมีรอยจักห่างตลอดใบ

ทีนี้...ดูโคนใบใกล้ๆนะคะ...ขอบรูปหัวใจชัดเจน...ก้านใบสีม่วงอมน้ำตาล

ส่วนอีกชนิด ดูลักษณะใบก่อนนะคะ..โคนใบจะมน..ยิ่งใบแก่..ก็จะเห็นขอบมนของใบชัดเจน

ดูโคนใบใกล้ๆ..ค่ะ..ขอบใบไม่โค้งมาก...ใบลื่น..ไม่มีขนสากๆ ก้านใบสีเขียว...ใบนี้คือชนิดที่น้อยชำและทำชาอยู่ประจำค่ะ

ส่วนต้นที่เถาออกม่วงน้อยเจอในป่าบ่อยๆ เลยเก็บทั้ง 2 ชนิดไปถาม หมอพื้นบ้าน ได้คำตอบว่า... ใช้ได้ทั้ง 2 ชนิด แต่หมอพื้นบ้านบางรายบอกว่าชนิดเถาออกม่วงจะมีสรรพคุณที่ดีกว่า...ซึ่งข้อมูลตรงนี้ยังหาข้อยืนยันไม่ได้ได้.ว่าชนิดใหนดีกว่า..

จะเก็บไว้เป็นการบ้านไปศึกษาให้ต่อนะคะ

   ทีนี้ก็มาถึงวิธีการใช้รางจืดล้างพิษ..จาการไปร่วมนำเสนอประสบการณ์การให้บริการแพทย์ทางเลือก  ของสำนักแพทย์ทางเลือก..ได้รับข้อมูลดีๆๆเกี่ยวกับรางจืดมาฝากเพิ่มเติ่มค่ะ

  การใช้รางจืดล้างพิษสำหรับคนทั่วไป ควรใช้ไม่เกิน 7 วัน...และวิธีที่ดีที่สุดคือใช้ใบรางจืดสด ตำคั้นเอานำผสมกับน้ำซาวข้าว ดื่มครั้งละ 1 แก้ว ตอนเช้า...หรือหากรับประทานเป็นแคปซูล ก็ควรรับประทาน ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง ไม่เกิน 7 วันเช่นกัน.. ส่วนในกลุ่มผู้ที่เป็นโรคมะเร็งการดื่มน้ำรางจืดก่อนทำคีโม..จะช่วยล้างพิษเนื้อร้ายได้ส่วนหนึ่งเช่นกัน..(ข้อมูลจากอาจารย์รามิล เจริญผล  )และกินต่อเนื่องได้ในรายผู้ป่วยโรคมะเร็ง...นี่เป็นข้อมูลจากประสบการณ์ของท่านค่ะ..หากสมาชิกท่านใดมีคำแนะนำเพิ่มเติมแลกเปลี่ยนกันนะคะ..

ตอนนี้น้อยกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ค่ะ..