กู่ไม่กลับ
"โสทรช่วงนี้ทำอะไรอยู่?"
"กรีดยางครับ" ผมตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ
"กลับมาทำงานมั๊ย ทางนี้ยินดีต้อนรับ"
"ไม่ล่ะครับ"
"อะไรที่ทำให้กู่ไม่กลับ?"
ทั้งหมดนี้เป็นการสนทนาระหว่างผมกับผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ซึ่งสมัยผมทำงานคนที่ผมสนทนาด้วยยังไม่ได้เป็นผู้บริหาร ทำไมผมถึงปฏิเสธ และทำให้คนที่ผมสนทนาด้วยถึงกับถามว่าอะไรที่ทำให้ผมกู่ไม่กลับ ผมไม่ได้ตอบท่านไปได้แต่ยิ้มๆ ตั้งใจว่าจะมาตอบในบล็อกดีกว่า
ต้นปี 50 ผมออกจากงานประจำที่ภูเก็ต ต้นปี 51 ถึงปลายปี 51 ผมเข้าไปทำงานในหน่วยงานที่กล่าวถึงข้างต้น ไม่ได้เข้าไปทำด้วยเหตุจำเป็น แต่จากการขอร้องของคนที่รู้จักกัน และเห็นว่าเป็นการพัฒนาบ้านเกิด แต่เมื่อเข้าไปในระบบพัฒนาอะไรไม่ได้เลย ติดขัดไปหมด ก็อยู่ได้ไม่ถึงปีก็ยื่นใบลาออก
ตั้งแต่นั้นมาชีวิตก็มีความสุข กรีดยาง ทำสวน รับงานจากเพื่อนๆ บ้าง จนถึงวันนี้ ก็กรีดยาง และทำสวนผสมสองไร่ครึ่งเป็นงานหลัก สิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ผมได้คำตอบให้กับตัวเองแล้วว่า มีความสุขมากกว่าอยู่ในระบบราชการ ถึงแม้รายได้ จะน้อยกว่า หรือมากกว่าอยู่ในระบบราชการ ที่สำคัญที่สุดผมมีเวลาเหลือเฟือ ทุกวันนี้กรีดยาง เก็บน้ำยางวันละ 3 ชั่วโมง มีเวลาทำอย่างอื่นเยอะแยะ ดีกว่าไปนั่งอยู่ในระบบวันละ 8 ชั่วโมง ได้ของแถมมา นั่นคือความเครียดการทำงาน เพื่อนร่วมงาน อื่นๆ สารพัด
ผมลองเปรียบเทียบเล่นๆ
ราชการ/บริษัท |
ส่วนตัว |
เข้างาน 8.30 น. เลิก 16.30 น. รวม 8 ชั่วโมง |
กรีดยางตีสอง เสร็จ ตีสามกว่าๆ กลับมานอน หกโมงเช้าเก็บน้ำยาง รวม 3 ชั่วโมง |
แต่งตัวดี ผ้าต้องรีด ขี้เกียจที่สุด | ไม่ต้องรีดผ้า ไม่เปลืองไฟ สบายใจที่สุด |
เสียค่าน้ำมันรถ ไปทำงาน |
เดินไปกรีดยาง |
เสียค่าอาหารมื้อเที่ยง ขนม บางวันมากกว่า 100 บาท ได้กินผักไม่ปลอดสารพิษ | กินข้าวบ้าน ผักปลอดสารพิษ |
หยุดก็ต้องลา | ไปไหนวันไหนก็ได้ ตามใจ |
ราชการอะไรก็ต้องทำบันทึกข้อความ ไม่ชอบที่สุด |
ไม่ต้องทำบันทึกข้อความส่งถึงใคร ไม่เปลืองกระดาษ |
ภาษีสังคมสูง | ภาษีสังคม มีบ้าง ไม่สูงนัก |
ประกันสังคม | ประกันตนเอง |
รายได้แน่นอน รอเงินเดือนขึ้น |
รายได้ไม่แน่นอน อยากขึ้นเงินเดือนก็ทำเอาเอง |
ตอนผมออกจากงานที่ภูเก็ต มีคนบอกว่ากรีดยางเหนื่อยทำไม่ไหวหรอก ผมพิสูจน์แล้วว่าผมทำได้ แถมถูกว่าตามหลังมาอีกว่าเอาความรู้มาฝังดิน เอ.. เมล็ดพันธุ์ มันก็ต้องฝังดินถึงจะงอก ความรู้ของคนมันอยู่กับตัว การนำความรู้ไปใช้ จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องไปเป็นลูกจ้างเขา ผมอยู่ของผมแบบนี้ความรู้ก็ได้ใช้ แถมไม่เครียดอีก สุดท้ายคนที่ว่าผมเขาก็รักที่จะเป็นลูกจ้างอยู่
ผมเองสัมผัสมาทั้งสองอย่าง ผมจึงบอกได้ว่าอันไหนคือสิ่งที่ผมจะเลือกความสุขให้กับตัวเอง ตามความเหมาะสมในลักษณะนิสัยของตัวเอง และสภาพแวดล้อมของครอบครัวตัวเอง
ย้ำเสมอว่า ผมไม่ได้ชวนใครออกจากงาน มีงานที่ทำแล้วมีความสุขดี หรือไม่สุขก็ทำไปครับ ถ้ายังไม่พร้อม หรือมีภาระหนี้สิน สิ่งที่ผมเล่ามาเป็นความสุขของผม ไม่อาจนำไปใช้กับคนอื่นได้เพราะสิ่งแวดล้อมไม่เหมือนกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครที่ยังอยู่ในราชการหรือบริษัท ก็สามารถทำเกษตรร่วมกันได้ (แต่ผมทำร่วมกันไม่ได้) หรือแค่ปลูกผักไว้กินเองก็พอแล้ว ประเทศต้องมีระบบราชการ หรือมีบริษัท หากลาออกมาทำเกษตรเสียหมด แล้วผมจะไปติดต่อราชการกับใครล่ะ
ปล. ผมลืมบอกท่านไปว่า ถึงแม้ผมไม่ไปทำงานเป็นพนักงานประจำ แต่ก็ยินดีเป็นที่ปรึกษา และช่วยเหลืองานได้เสมอ หรือจะเป็นกรรมการไอทีก็ยังได้ถ้าไม่ขัดกับระเบียบราชการ
- บล็อกของ sothorn
- อ่าน 8199 ครั้ง
ความเห็น
Chalermpol K.
20 มิถุนายน, 2011 - 10:10
Permalink
" กู่ ไม่กลับ "
" กู่ ไม่กลับ "
ขอบคุณมากครับพี่โส ผมขอเวลาอีกแป้บนึง กู่ไม่กลับเหมือนกันครับ
บุญพา
20 มิถุนายน, 2011 - 10:30
Permalink
น้องโสทร
ยินดีด้วยค่ะ ที่น้องได้พบกับเส้นทางที่ใช่ หากเราได้เดินไปในทางที่เราเลือกแล้วมีความสุขกับมัน ไม่จำเป็นต้องมีข้อจำกัดว่ามันคืออะไร ไม่เกี่ยวกับ ยศ ตำแหน่ง หรือรายได้เลย พี่ขอส่งกำลังใจให้นะค่ะ สู้ๆต่อไปค่ะ
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาชีวิตน้อยลงทุกวัน
lekonshore
20 มิถุนายน, 2011 - 10:40
Permalink
กู่ไม่กลับ
ยินดีด้วยน้องโส สำหรับการเลือกทางเดินที่เหมาะสมกับชีวิตของเราเอง(ของเราเอง)เพราะแต่ละคนก็มีพื้นฐาน ความเป็นอยู่ที่ไม่เหมือนกัน ความสุขของแต่ละคนก็ย่อมจะแตกต่างกันไป คงจะอยากสำหรับคนที่ทิ้งวงการงานประจำไปแล้ว ที่จะกลับไปทำงานประจำอีก(นอกจากคนที่ออกเพราะยังไม่อยากออกเท่านั้น) สนับสนุนเลยครับ.........:cheer3:
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
BeeFuu
20 มิถุนายน, 2011 - 10:42
Permalink
ผู้ใหญ่โส
อ่านแล้วรู้สึกอิจฉาผู้ใหญ่ขึ้นมาตะหงิด ๆ เพราะจริง ๆ เป็นคนชอบทำสวน แต่จับพลัดจับผลูมารับราชการ (ชั้นผู้น้อย) ซึ่งเป็นความต้องการของพ่อแม่อยู่แล้ว ครั้นจะลาออกก็คงโดนแน่ ๆ ก็ได้แต่พยายามที่จะทำงานประจำไปควบคู่กับการทำเกษตรไปด้วย (เลยหาแฟนเป็นเกษตรกร 555) อย่างน้อยก็มีความสุขเล็ก ๆ ที่เวลากลับบ้านทีเราได้ไปปลูกผัก กินผักที่(แฟน)ปลูก แบบไร้สารพิษ :embarrassed:
"ความสุขของชีวิตในวันนี้ คือทำตามวิถีพอเพียงของพ่อ"
ยายอิ๊ด
20 มิถุนายน, 2011 - 10:50
Permalink
น้องโส มีอีก
ไม่ขายความเป็นตัวตน
ไม่มีการคลอบงำทางความคิด
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
ธารน้ำใส
20 มิถุนายน, 2011 - 10:59
Permalink
อยากกู่ไม่กลับเหมือนกัน
อยากกู่ไม่กลับเหมือนกัน อยู่ในระบบมาแล้วทั้งเอกชนทั้งราชการ ตอนเรียนจบใหม่ๆก็ทำงานอยู่กรุงเทพเป็นสปาแถวๆอโศก ได้ปีนึงก็เริ่มเข้าสู่ระบบราชการด้วยตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพ รายได้ต่างกันเยอะมากแต่ด้วยเหตุผลที่ว่าใกล้บ้าน วันหยุดก็กลับบ้านได้ พ่อไม่มีแล้ว แม่ต้องอยู่บ้านคนเดียว พี่ๆมีครอบครัวหมดแล้ว น้องสาวกำลังเรียน อยู่กระบี่3ปีก็ลาออก กลับมาสมัครที่สุราษฎร์ด้วยเหตุผลที่ว่าได้กลับมาอยู่บ้าน บ่นกับแม่อยู่ตลอดว่าอยากลาออกเบื่องานตรงนี้ กรรมกรห้องแอร์ ชีวิตการทำงานในกรอบของอะไรต่ออะไรเยอะแยะ ตอนนี้ก็ได้ปูทางไว้บ้างแล้ว แม่ได้สร้างสวนยางไว้ให้แปลงนึงไม่กี่ไร่ แม่เป็นคนดูแลให้ทั้งหมด(รวมถึงเงินที่ได้จากยางที่กรีดด้วย555) แล้วก็ปลูกปาล์มไว้แปลงนึง 187ต้น ไม่มากแต่ก็เป็นสิ่งที่ภูมิใจแล้วก็สำรองไว้เผื่อเวลาฝนตกยางกรีดไม่ได้หรือเป็นช่วงที่ยางผลัดใบก็จะได้มีรายได้จากตรงนี้ สวนแปลงนี้ด้วยความภูมิใจ เพราะได้มีส่วนในการสร้างตั้งแต่เอาต้นปาล์มใส่หลุม ถางหญ้ารอบต้น ใส่ปุ๋ย สิ่งไหนที่ทำเองได้ก็ทำ พี่ๆกับแม่ลงมาช่วยบ้าง บางทีก็เวียนกันไปช่วย วันนี้ใส่ปุ๋ยสวนพี่ อีกวันก็ไปสวนน้องสาว อีกวันก็สวนของเรา อันไหนที่ทำไม่ไหวก็จ้างไปบ้าง ตอนนี้ก็เริ่มได้รับผลแล้ว มีความสุขที่ได้เห็นผลงานจากหยาดเหงื่อของตัวเอง สักวันนึงก็จะก้าวไปยืนในจุดที่ตัวเองต้องการเหมือนกันค่ะ
e-mail. puangpech_@hotmail.com
แดง อุบล
20 มิถุนายน, 2011 - 11:33
Permalink
น้องโส
พี่ก็ใกล้เวลาเข้ามาเต็มทีแล้วล่ะค่ะ อย่างช้าน่าจะไม่เกินสองปี อย่างเร็วก็หนึ่งปีค่ะ :admire:
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
สาวภูธร
21 มิถุนายน, 2011 - 11:32
Permalink
พี่โส
นับถือจริง ๆ เลย :good-job: :good-job: ตอนนี้ก็รับราชการอยู่คะ ตอนเช้าตื่น 5.30 6 โมงก็ถากหน้าบ้างขนดินบ้าง เช้ามีเวลา 1 ชม. ปลูกผักสวนครัว ตอนเย็นกลับถึงบ้าน ประมาณ 5 โมง มีเวลาอีก 2 ชม.กว่าจะค่ำ ฉวยโอกาสเวลาที่มีอยู่ทำในสิ่งที่อยากทำ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว :bye: :bye:
ตอนนี้เพื่อนร่วมงานชอบเรียกว่าเกษตรกรตัวยง เพราะชอบปลูกต้นไม้ ชอบปลูกผัก ทำแล้วมีความสุขก็ทำเถอะคะ ดีกว่ามีเวลาว่างแล้วนั่งนินทาชาวบ้าน :uhuhuh: :uhuhuh:
สวนฟักแฟงแตงไทย
22 มิถุนายน, 2011 - 17:02
Permalink
ดีใจด้วย
โครงการนี้ดีนะคะ
สมช.เข้าร่วมโครงการได้ตามชอบใจ
ตอนนี้เริ่มอยากกู่ไม่กลับ....ด้วยคนคค่ะ กำลังเตรียมตัวให้พร้อมเสมอสำหรับโครงการนี้
เมื่อไหร่..ก็เมื่อนั้น...อิอิ....
จำปีสีนวล
26 มิถุนายน, 2011 - 17:03
Permalink
เปรียบเทียบได้ดีจัง...
คุณโสทรเปรียบเทียบได้ดีจัง คนทำงานประจำก็ดีตรงที่มีรายได้แน่นอนทุกเดือน แต่ก็มีของแถมหลายๆอย่างตามมานั่นแหละค่ะ ...คนไม่มีพื้นฐานทางการเกษตรก็ลำบากหน่อยที่จะไปเริ่มต้น ตอนนี้เอาแค่มีความสุขกับการปลูกต้นไม้ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง รอเวลาที่จะอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งอาจจะเร็วขึ้นได้อยู่ที่ตัวเรา คงไม่ต้องทำงานจนเกษียน อยู่ที่เมืองหลวงที่มีแต่มลพิษหรอกนะ...
หน้า