สารชีวภาพต้านเชื้อราไคโตซานสำหรับพืชตรา"เกษตรทอง"

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ไคโตซาน(สกัดจากเปลือกกุ้ง,ปู) ซึ่งเป็นสารโพลีเมอร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญในรูปของ D-glucosamine  พบในธรรมชาติเป็นองค์ประกอบอยู่ในเปลือกนอกของสัตว์พวก กุ้ง ปู แมลง และเชื้อราเป็นสารธรรมชาติซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัว คือ เป็นวัสดุชีวภาพ (Biomaterrials) ย่อยสลายตามธรรมชาติมีความปลอดภัยในการนำมาใช้กับมนุษย์ไม่เกิดผลเสียและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เกิดการแพ้ ไม่ไวไฟ และไม่เป็นพิษ (non-phytotoxic) ต่อพืช เป็นธรรมชาติ100%

สารชีวภาพต้านเชื้อรา  สกัดจากธรรมชาติ ตรา เกษตรทองe0b881e0b8b0e0b8abe0b8a5e0b988e0b8b31

 เกษตรทอง (ไคโตซาน)  ใช้เพื่อประโยชน์ในด้านการเกษตรทั่วๆไป เพื่อเป็นแนวทางในการลดสารเคมี และ ยาฆ่าแมลง ที่เป็นอันตรายต่อเกษตรกรและผู้บริโภค อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงทุกชนิด

ในปัจจุบันเกษตรกรประสบปัญหาในด้านต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะด้านต้นทุนการผลิต ราคาของผลผลิต อัตราการใช้ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช และการบำรุงปรับปรุงคุณภาพดิน อันเนื่องมาจากการใช้สารเคมีและยาปราบศัตรูพืชในอดีตที่ผ่านมานั้น เกษตรกรต้องพึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ในการจัดการดูแลและบำรุงในด้านต่างๆจากสารเคมีทุกชนิด เพื่อผลิตผลทางด้านการเกษตรของเกษตรกร ที่มุ่งเน้นในการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่จะป้อนต่อความต้องการของตลาดโลกและผู้บริโภค แต่ปัจจุบันผลผลิตต่างๆ เริ่มเกิดมีผลกระทบจากการใช้สารเคมีที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่น ผลผลิตลดลง คุณภาพของผลผลิตต่ำลง เกิดสารพิษตกค้างในผลผลิต ซึ่งปัญหาเหล่านี้เราสามารถแก้ไขได้ หากเกษตรกรให้ความสำคัญและเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม ที่จะหันมาใช้สารชีวภาพ เพื่อทดแทนสารเคมีที่รุนแรงและมีพิษตกค้าง เพราะปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจในสุขภาพมากยิ่งขึ้น ในการรับประทานอาหาร ดังนั้นผลผลิตจึงต้องมีคุณภาพดีและปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง

ดังนั้นอดีตจนถึงปัจจุบัน นักวิชาการหลายๆท่าน จึงได้พยายามคิดค้นและวิจัยเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ เพื่อเป็นไปตามแนวพระราชดำริ ( การเกษตรปลอดสารพิษ ทุกชีวิตยั่งยืน ) และตามกระแสของตลาดโลก สิ่งเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะคิดค้นและพัฒนาในผลิตภัณฑ์ทางด้านเกษตรทุกชนิด ซึ่ง  เกษตรทอง (ไคโตซาน)  เป็นสารอีกตัวหนึ่งที่ได้คิดค้น วิจัยและพัฒนา เพื่อนำมาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการที่จะลดปริมาณการใช้สารเคมีให้ลดลง และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อพัฒนาคุณภาพของผลผลิต และต้นทุนของเกษตรกร   ดังนี้

1. นำมาใช้เป็นสารเร่งการเจริญเติบโตของพืช ทุกชนิด เช่น กระตุ้นการแตกราก ใบ ออกดอก ติดผล เป็นต้นฯลฯ

2. นำมาใช้ป้องกันและยับยั้งโรคพืช เช่น โรคเชื้อรา ไวรัส แบคทีเรีย และโรคแมลง เป็นต้น ฯลฯ

3. นำมาใช้เคลือบรักษาผลผลิตทางการเกษตร หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต

4. นำมาใช้เคลือบรักษาเมล็ดพันธุ์

5. นำมาใช้เป็นส่วนผสมและเคลือบเม็ดปุ๋ย ( ปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยอินทรีย์+เคมี )

6. นำมาใช้ปรับสภาพดิน เพิ่มความพรุนในดิน การดูดซับน้ำ การอุ้มน้ำ เป็นต้นฯลฯ

7. ช่วยกระตุ้นต้นพืชสร้างเอนไซม์ไคติเนส ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลง จะย่อยสลายไคตินที่เป็นองค์ประกอบของเปลือกหุ้มตัวของแมลงศัตรูพืชได้ดี

 

ส่วนประกอบของ สารชีวภาพต้านเชื้อรา  สกัดจากธรรมชาติ ตรา เกษตรทอง

 

ธาตุอาหารที่มีอยู่ใน เกษตรทอง มีครบทั้ง 16 ธาตุที่จำเป็นต่อพืชในปริมาณไม่สูงนัก(หลายองค์ประกอบเป็นความลับทางการค้า) โดยมีสารหลักคือ ไคติน,ไคโตซาน และ อนุพันธ์ ของไคโตซาน ที่ได้คัดช่วงน้ำหนักโมเลกุล (ขนาดของโพลิเมอร์) ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับใช้เป็นตัวกระตุ้นการเจริญเติบโต และ กระตุ้นภูมิต้านทานของต้นไม้ (แนะนำให้ใช้ร่วมกับ ปุ๋ยน้ำหมักที่มีปริมาณ ฮิวมิก สูงหรือปุ๋ยเกร็ดละลายน้ำในการใช้เพื่อเร่งการเจริญเติบโต)

 

ผลิตภัณฑ์  เกษตรทอง  ของเราแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ ไคโตซานทั่วไปที่มีวางจำหน่ายเพราะ เราใช้เทคโนโลยีในการคัดขนาด และ เอนไซม์ (จากผลการวิจัยทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศพบว่าช่วงโมเลกุลของความเป็นโพลีเมอร์ของไคโตซานที่เหมาะสม คือ 6-8 ในการเป็นตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตที่ดีและสามารถเป็นตัวกระตุ้นภูมิต้านทานโรคที่ดีด้วย โดย ใน สารชีวภาพ เกษตรทอง มีองค์ประกอบที่มีช่วงขนาดโมเลกุล 3 ช่วง คือ เล็ก กลาง ใหญ่  ให้เกิดการทำงานเป็นลำดับ คือทันทีที่ฉีดพ่น 3-5 วันหลังฉีดพ่น และ 10-30 วันหลังฉีดพ่น เนื่องจากไคโตซานสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้ สารชีวภาพ เกษตรทอง ให้ผลประโยชน์ต่อเนื่องสำหรับพืชหลังการฉีดพ่น)   ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นๆอย่างมากก็พยายามเติมแต่งธาตุลงไปซึ่งทำให้ความคงตัวของผลิตภัณฑ์สูญเสียไป

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

http://kasetthongkitosan.wordpress.com

มีข้อมูลทั้งวิธีการใช้งานและอื่นๆครับ