บทเรียนการเลี้ยงเชื้อราด้วยข้าวสุก
ต่อเนื่องจากความพยายามกำจัดปลวกด้วยเชื้อ Metarhizium วันนี้มาติดตามผลการเลี้ยงเชื้อรารอบที่ 2 จากผลการทดลองพบว่าการเลี้ยงเชื้อรารอบนี้จะแฉะน้อยกว่าการเลี้ยงครั้งแรก และมีสปอร์สีขาว/เขียว ออกมามากกว่าครั้งแรก (ดูรูปข้างบน) โดยเฉพาะถุงที่อยู่มุมขวาบนที่อยู่ริมๆ ของแผ่นบังแดด เมื่อทดลองสลับตำแหน่งของทั้ง 4 ถุงเมื่อวานนี้ก็พบว่าถุงที่ย้ายมาอยู่มุมบนขวาก็จะมีสปอร์สีขาวมากขึ้นเช่นกัน เมื่อสังเกตุจากสิ่งต่างๆ ที่แตกต่างระหว่างการเลี้ยงเชื้อ 2 ครั้ง น่าจะสรุปเทคนิคได้ดังนี้ :
1. ควรใช้น้ำในการหุงน้อยกว่าปกติข้าวจะได้ไม่แฉะจนเกินไป เพราะถ้าแฉะมากจะเป็นสภาพที่ไม่เหมาะสมสำหรับการสร้างสปอร์ของเชื้อรา และแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าเชื้อรา
2. ไม่ควรหุงจนสุก ควรปิดไฟก่อนให้ข้าวเป็นลักษณะกึ่งสุกกึ่งดิบจะเป็นสภาพที่เชื้อราเจริญดีกว่าข้าวสุกเต็มที่ซึ่งจะนิ่มกว่า
3. ถุงที่อยู่ตรงริมๆ ที่โดนแสงจะถูกกระตุ้นให้สร้างสปอร์ของเชื้อราได้ดีกว่า ตำแหน่งที่ไม่ค่อยโดนแสง แต่ต้องระวังเรื่องความร้อน เพราะถ้าโดนแสงอาทิตย์ตรงๆ จนอุณหภูมิสูงเกินไปเชื้อราก็จะตายได้
4. ท่าทางใช้ข้าวกล้องจะดีกว่าข้าวขาว แต่อันไม่ได้ทดลองเพราะไม่มีข้าวขาวที่บ้าน
เพื่อนๆ บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงอยากให้เชื้อราสร้างสปอร์ ตามวิชาวิทยาศาสตร์ที่เราเรียนมาตอนเด็กๆ เชื้อราจะมีการสืบพันธุ์ทั้งแบบไม่อาศัยเพศและแบบอาศัยเพศ มีทั้งการขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ การแตกหักของเส้นใย และการสร้างสปอร์ แต่การสร้างสปอร์จะเป็นวิธีที่ขยายจำนวนได้มากกว่าวิธีอื่นๆ ดังนั้นถ้าเราต้องการเชื้อราเพิ่มมากๆ เราจึงอยากจะให้มันสร้างสปอร์เยอะๆ
บางท่านอาจจะสงสัยว่าเชื้อรา Metarhizium ได้อย่างไร เมื่อสปอร์ของเชื้อราตกหรือติดกับผิวของแมลงที่มีโครงสร้างเป็นข้อปล้อง เช่น ปลวก มด เพลี้ย และด้วงบางชนิด เมื่อประกอบกับสภาพแวดล้อมมีความชื้นที่เหมาะสม สปอร์จะงอกเส้นใยแทงทะลุผ่านผนังลำตัวเข้าไปในลำตัวแมลง จากนั้นเข้าไปในทางเดินโลหิตขยายจำนวนในเลือด สร้างเส้นใยเข้าทำลายอวัยวะต่าง ๆ ทำให้แมลงตาย แล้วเชื้อราจะสร้างกลไกการแพร่เชื้อสู่ภายนอก ทำให้เกิดการระบาดติดต่อไปสู่แมลงตัวอื่น ๆ ต่อไป ลักษณะแมลงที่ถูกเชื้อราเข้าทำลาย
- แมลงจะเคลื่อนไหวช้า
- เบื่ออาหาร
- ซากแมลงถูกปกคลุมด้วยเชื้อรา
- ซากแมลงแข็งเหมือนมัมมี่ (Mumified)
ส่วนวิธีการใช้งานเชื้อราที่ขยายจำนวนแล้วนั้น ผมทดลองด้วยการใช้ผสมน้ำ 20 ลิตรต่อข้าวที่เลี้ยงไว้ 1 ถุง ฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณที่มีปลวก/จอมปลวก หรือฉีดพ่นหรือราดลงดินในแปลงปลูกพืชผักและไม้ดอกไม้ประดับ หรือใช้ราดรดหรือฉีดพ่นบริเวณโคนต้นในสวนผลไม้ อาทิตย์ที่แล้วเป็นการฉีดเชื้อราครั้งแรกโดยฉีดไปทั้งรังมด และจอมปลวก และจะติดตามผล พร้อมทั้งฉีดซ้ำในวันหยุดที่จะถึงนี้อีกครั้ง แล้วจะมารายงานนะครับว่าได้ผลบ้างหรือเปล่า
หมายเหตุ ความที่ขยายเชื้อเอง สปอร์เชื้อราที่ซื้อมาเป็นหัวเชื้อในการขยายยังใช้ไม่ถึง 1 ใน 5 ของถุงด้วยซ้ำไป สงสัยว่าจะขยายเชื้อราจนฉีดทั้งสวนได้แน่ๆ
- บล็อกของ teerapan
- อ่าน 14151 ครั้ง
ความเห็น
kheatti74
17 สิงหาคม, 2011 - 21:03
Permalink
คุณteerapan
เพาะเชื้อบนคอนโด แล้วเอาไปฉีดที่สวน มันใกล้กันหรือครับ ทำไมไม่ถ่ายตอนฉีดให้ดูด้วยหละครับ อยากเห็น
ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง![](/files/images/user6932/bones.gif)
teerapan
17 สิงหาคม, 2011 - 21:24
Permalink
Re: บทเรียนการเลี้ยงเชื้อราด้วยข้าวสุก
ไปสวนอาทิตย์ละครั้งเดียว พอดีเวลาขยายเชื้อ 1 รุ่นจะใช้เวลา 7 วันพอดี ก็เริ่มเลี้ยงคืนวันพฤหัสที่คอนโด แล้วเอาไปใช้วันเสาร์ถัดไปที่สวน เพราะถ้าทิ้งไว้ที่สวนก็จะเสร็จน้องหมาสวนข้างๆ พอดี ตอนนี้โรงงานผลิตเชื้อราที่ห้องทำได้ประมาณสัปดาห์ละ 4 ถุงครับ :sweating: เพราะไม่มีที่วาง ไว้วันเสาร์นี้จะถ่ายรูปตอนฉีดให้ดูครับ แต่ตอนฉีดก็คล้ายๆ กับที่คุณอาชัยพรทำใน TV ล่ะครับ ผมเอาน้ำใส่ถุง เขย่าๆ แล้วกรองเอาแต่น้ำสีขาวขุ่น ทำหลายๆ รอบจนน้ำที่ผสมกับข้าวใสก็พอครับ ที่ลองทำครั้งแรกก็จะได้ประมาณ 1/2 ถัง ถังฉีดที่ผมไปถอยมามันมีขนาด 30 ลิตร ผมก็เติมน้ำเพิ่มอีกนิดหน่อยแล้วไปฉีดเหมือนฉีดปุ๋ยล่ะครับ
ส่วนข้าวที่เหลือในถุงผมก็ขุดดินที่จอมปลวกแล้วฝังไว้ล่อปลวก / มด ต่อไป (เผื่อมีเชื้อราเหลือบ้าง) :cheer3:
“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison
ลุงพูน
17 สิงหาคม, 2011 - 21:49
Permalink
Re: บทเรียนการเลี้ยงเชื้อราด้วยข้าวสุก
ผมเคยซื่อ เชื้อเมธาไรเซี่ยม มาจัดการกับปลวก ที่เริ่มมาก่อสร้างจอมในบริเวณบ้านผม ผมไปแคะทางเดินแล้วเอาผงเชื้อโรย หลังจากนั้นไม่กี่วัน ขุดจอมดู ก็ไม่พบตัว การใช้วิธีนี้ ดีกว่าการใช้สารเคมีมากครับ
jo korakod
17 สิงหาคม, 2011 - 22:03
Permalink
Re: บทเรียนการเลี้ยงเชื้อราด้วยข้าวสุก
ชื่นชมค่ะ ใส่ใจในรายละเอียดดีมากค่ะ
:cheer3:
Pay Attention to Details
facebook https://www.facebook.com/ninkmax
เกิดกับหมอตำแย
18 สิงหาคม, 2011 - 02:46
Permalink
Re: บทเรียนการเลี้ยงเชื้อราด้วยข้าวสุก
เจอกับปลวกก่อนที่จะสร้างบ้าน โชดดีที่เจอกันก่อนเลยมีวิธีจำกัดปลวก
ซื้อบ้าน(มือสอง)ได้ไม่ถึงปีแต่มาเจอปลวก..เริ่มท้อค่ะ
ก่อนที่จะซื้อเช่าอยู่ก่อนหนึ่งปี ดันไม่เจอ :sweating:
sudjai_waitong@hotmail.com
0805401058
ดาวเรือง
18 สิงหาคม, 2011 - 03:25
Permalink
ความรู้ที่เขียนมาขอชมว่าละเอียดมากค่ะ
น่าสนใจทำเป็นที่สุด ซื้อเชื้อราชนิดนี้ที่ไหนได้คะ? ที่บ้านมีปลวกแยะค่ะ ซื้อสารเคมีมาฆ่าก็ยังไม่กล้าทำเลยค่ะ ขวดยังเต็มๆอยู่เลยค่ะ กลัวอตร.กับมนุษย์และพืชผักน่ะค่ะ
teerapan
18 สิงหาคม, 2011 - 08:28
Permalink
Re: ที่ซื้อเชื้อรา Metarhizium
หาซื้อได้ทั่วไปบนเวปล่ะครับ เช่น
http://www.applyorganic.com/product-เมธาไรเซียมอะนิโซเพล-12410-126778-1.html
http://www.weloveshopping.com/template/a13/showproduct1.php?pid=10918799&shopid=127087
http://www.amnuaykaset.com/PD158192-สินค้า-เมไรน่า.html
“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison
RUT2518
18 สิงหาคม, 2011 - 05:05
Permalink
Re: บทเรียนการเลี้ยงเชื้อราด้วยข้าวสุก
ขอบคุณมากครับแบบนี้ไม่ต้องใช้เคมีแล้วปลอดภัยจริงๆ
Thanawit
18 สิงหาคม, 2011 - 07:13
Permalink
Re: บทเรียนการเลี้ยงเชื้อราด้วยข้าวสุก
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดี ๆ
เมื่อรู้สึกว่ากำลังแย่ จงให้กำลังใจตัวเอง ด้วยการคิดว่า "ยังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก"
อ้วน
18 สิงหาคม, 2011 - 09:20
Permalink
เมธาไรเซี่ยม กำจัดมดได้ด้วยหรอครับ
นึกว่ากำจัดได้เฉพาะปลวก
ชีวิตที่เพียงพอ ย่อมมาจากชีวิตที่พอเพียง
หน้า