คนพอเพียงต้องไม่อิจฉาริษยา
ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์มีความอิจฉาริษยาทุกคน ปริมาณมากน้อยต่างกัน
ถ้าใครมีมากจะแสดงออกจนเห็นได้ชัด เมื่อแสดงออกบ่อย ๆ ก็เข้าข่ายเป็นนิสัย เป็นสันดานอิจฉาริษยา
ถ้ามาอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ก็จะเข้าข่ายอันธพาล พร้อมจะแสดงความก้าวร้าว ทำลาย ทำร้ายคนอื่นที่เขาอิจฉาริษยาได้ง่าย
ความอิจฉา: เป็นความรู้สึกที่ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี กลัวว่าเขาจะดีเด่นเกินหน้าหรือเท่ากับตนจึงทนไม่ได้
ความริษยา: เป็นนิสัยที่เวลาเห็นคนอื่นได้ดีแล้วทนไม่ได้ มักจะเกิดลักษณะริษยา อาฆาต คือ การคิดแค้น เพราะไม่อยากให้ใครได้ดี
เรามักจะใช้คำสองคำนี้รวมๆ กัน คืออิจฉาริษยา
ตัวอย่างเหตุการณ์และลักษณะของความอิจฉาริษยาในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น
เพื่อนอิจฉาเพื่อน: ถ้าได้ข่าวว่าเพื่อนปลูกบ้านใหม่ เมื่อไปเห็นแล้วว่าบ้านเพื่อนสวยงาม จะเกิดความอิจฉาริษยาว่าทำไมเขามีบ้านสวยงามกว่าบ้านตน ทนไม่ได้ จะไม่ยอมไปบ้านเพื่อนอีกเลย และหาทางว่าเขาไม่ดีอย่างโน้ยอย่างนี้
พี่น้องอิจฉากัน: ซึ่ง มักมีอยู่แล้ว เรียกว่า siblihg rivaliy และอิจฉากันมากขึ้นถ้าพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ดีมีอคติ ลำเอียงให้เห็นชัก หรือไปใส่ไฟของคนคนอิจฉามากขึ้น จะทำให้ลูกกลายเป็นคนมีลักษณะขี้อิจฉา
ผู้หญิงอิจฉาผู้ชาย: ใน ทางจิตวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้หญิงมีปมในใจที่อยากมีองคชาตแบบผู้ชาย และไม่สามารถมีได้ จึงอิจฉาผู้ชายที่มีองคชาย ( ehvy) จะเห็นได้ชัดในผู้หญิงเก่งๆ ที่แข่งขันกับผู้ชายทุกรูปแบบ ทั้งแอบแฝงและเปิดเผย
ผู้ชายอิจฉาผู้หญิง: ถ้าอิจฉามากและแข่งขันกันมาก ในทางจิตวิเคราะห์เชื่อว่าเขามีปมลึก ๆในใจคิดว่าผู้ชายที่ประสบความสำเร็จมากกว่าที่จะมีองคชาตใหญ่กว่าเขา จึงอิจฉาเขาที่องคชาติชายใหญ่กว่า(ehvy for bigger pehis)
ผู้หญิงอิจฉาผู้หญิง: พบได้มาก แสดงออกเปิดเผยชัดเจน มักอิจฉาคนที่ดีกว่า เก่งกว่า สวย รวยกว่าเป็นเพราะมีปมในใจลึกๆที่คิดว่าคนที่ดีกว่านั้นเขามีเต้านม (breast) ใหญ่กว่า และตนเองมีเต้านมเล็กกว่า จึงอิจฉาเขา (ehvy for bigger breast)
คนที่มีนิสัยขี้อิจฉาริษยามีมากขึ้นในสังคมทุกวัน
ใครที่ทำความดีและถูกชมเชยมากๆก็ถูกอิจฉาและหมั่นไส้ได้ง่าย
บางคนเห็นเพื่อนได้ดี ถูกชมเชยมากๆ เลยเลิกคบเพื่อนไปเลยก็มี
ความอิจฉาริษยาเป็นเรื่องของความก้าวร้าว สันดานดิบ ที่ทำให้มนุษย์อยู่รวมกันได้ยาก ซึ่งตรงข้ามกับคุณธรรม ที่ทําให้มนุษย์อยู่รวมกันได้ดี คือความรัก ความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ซึ่งนับวันจะไม่มีคนสั่งสอน และคนมักจะไม่สนใจทำตาม
ทำให้ทุกวันนี้เราต้องอยู่ในสังคมของคนที่มีนิสัยอิจฉาริษยามากขึ้น ทั้งมนุษย์ปุถุชนทั่วไปหรือแม้นักบวชก็เห็นได้มากขึ้น
ที่มา : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1152950
- บล็อกของ sothorn
- อ่าน 5704 ครั้ง
ความเห็น
ตี๋ ครม.
26 กันยายน, 2011 - 23:35
Permalink
Re: คนพอเพียงต้องไม่อิจฉาริษยา
ความอิจฉาคือ หนึ่งในสามของ ธิดาของพญามาร
ธิดาพญามารมี 3 คนด้วยกันคือ นางตัณหา นางราคา นางอรดี (ความหมายของคำว่า ตัณหา คือ ความอยาก
ราคา คือ ความกำหนัดยินดี
อรดี หรือ อรตี คือ ความริษยา ความขึงเคียด)
พระพุทธองค์ชนะมารคือชนะความอยาก ชนะความกำหนัด และชนะความริษยาในใจได้
ร่วมกันชนะมารให้ได้นะครับ
ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง
สนิทเมืองอุดร
27 กันยายน, 2011 - 05:04
Permalink
Re: คนพอเพียงต้องไม่อิจฉาริษยา
ถ้าใจมันไม่หิวแล้วก็สบายครับ รู้จักเท่าทันโลกธรรม 8 ของพวกนี้มีมาก่อนเราเกิดขึ้นอยู่กับว่าใครจะตามควบคุมสิ่งที่มากระทบทั้งภายในและภายนอก
ปล่อยว่าง วางเบา เอาหนัก (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
บุคคลใดทำใจให้ถึงความเป็นกลางได้ บุคคลนั้นจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวง (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) ขอบคุณผู้ใหญ่และเว็ปบ้านสวนครับ
ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
ประไพ ทองเชิญ
27 กันยายน, 2011 - 04:48
Permalink
Re: ความกรุณาเป็นขุมทรัพย์
จงอภัยและให้ความรักต่อเพื่อนมนุษย์ที่ยังติดในจริตอิจฉาริษยา (เขาแลหนังช่อง7มากไปมั้ง555)
"ความกรุณาเป็นขุมทรัพย์
แห่งการเติบโตภายใน
และการกระทำที่สร้างสรรค์
ดุจดวงตะวันที่แผ่รัศมีภาพ
อันประมาณมิได้"
โอ๋เอง
27 กันยายน, 2011 - 05:56
Permalink
Re: คนพอเพียงต้องไม่อิจฉาริษยา
มีบ้างตามอารมณ์ของคนธรรมดาค่ะ
แต่น่าจะน้อยหน่อย เพราะคิดเสมอว่า อิจฉาไป อยากได้ไป
สุดท้ายก็ไม่มีใครได้ครอบครอบชั่วนิรันดร์จริงๆสักคน
RUT2518
27 กันยายน, 2011 - 06:04
Permalink
Re: คนพอเพียงต้องไม่อิจฉาริษยา
โดนใจมากจริงๆเหมือนกันครับ ใครที่คิดอย่างนี้เปลี่ยนความคิดใหม่เถิดครับ พอใจในสิ่งที่เรามีครับ โหวตครับ
noBody
27 กันยายน, 2011 - 07:51
Permalink
Re: คนพอเพียงต้องไม่อิจฉาริษยา
ก็รู้นะว่ามันไม่ดี ต้องลดต้องละ แต่มันยากนะ เพราะมีอาหารคอยป้อนให้มันเติบโตได้เร็วมาก
ยิ่งเข้ามาในบ้านสวนนี้ ความอิจฉาป้ายิ่งอิ่มหมีพีมัน
อิจฉา......ผู้ใหญ่โส...ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและทำได้จริง
อิจฉา......คุณแดงอุบล...ที่มีโรงสีส่วนตัว
อิจฉา......ภรรยาน้องวิศิษฐ์....ที่มีสามีเก่งและเป็นพ่อที่ดีของลูก
อิจฉา......น้องไอรินลดา.....ที่สวยเกิน
อิจฉา......น้องมะโหน่ง คุณเล็กออนชอร์ และบรรดาแม่ครัวตัวฉกาจทั้งหลายที่ขยันมาแบ่งปันสารพัดตำราและสูตร
อิจฉา.....น้องโจ ป้าเล็ก ที่แบ่งเวลางานทำโน่นทำนี่ในชีวิตได้ดี
จะว่าไป.... ก็อิจฉา.....สมาชิกทุกคนที่นี่แหละ...จนต้องมาเป็นสมาชิกบ้าง
นึกว่าจะหายอิจฉา....แต่กลับเพิ่มมากขึ้น.....
ทำงายดีล่ะผู้ใหญ่โส
สายพิน
27 กันยายน, 2011 - 09:50
Permalink
Re: คนพอเพียงต้องไม่อิจฉาริษยา
ผู้ใหญ่ฯ คะ ข้อมูลนี้น่าจะเหมาะมากเลยค่ะ กับเดือนถือศีลกินเจ ได้บุญกันอีกเยอะเลย
ชีวิตจำเป็นต้องได้อาหาร ... ข้อมูลอย่างนี้ส่วนตัวเองถือว่าเป็นอาหารทางจิตใจ-จิตวิญญาณ ... บ้านสวนพอเพียงมาร่วมกันอนุโมทนาสิ่งดี ๆ อย่างนี้ เท่ากับได้ส่งเสริมให้จิตใจ-จิตวิญญาณแข็งแรงผ่านวันผ่านคืนนะคะ
ชุมชนบ้านสวนพอเพียงก็เหมือนเป็นหนึ่งชีวิต สมช.เหมือนเซลล์หรืออณูย่อย ๆ ของร่างกาย หากว่ามีความแข็งแรงในอณูย่อย ๆ นี้ก็ทำให้ชุมชนแข็งแรงยิ่งขึ้น
ขออนุโมทนากับสิ่งดี ๆ นี้ค่ะ ผู้ใหญ่ฯ...
lekonshore
27 กันยายน, 2011 - 10:34
Permalink
Re: อิจฉาตัวเอง ทำไงดีไม่เหมือนคนอื่นแล้วเรา
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
ปนัดดา
27 กันยายน, 2011 - 10:42
Permalink
Re: คนพอเพียงต้องไม่อิจฉาริษยา
ความอยาก ไม่มีที่สิ้นสุด...........อยากได้โน้น อยากได้นี้ อยากกกกกกกกกกก
ความสุขอยู่รอบๆตัว พอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ ไม่ทำตนให้เดือนร้อนคนอื่นๆ ไม่เอาเปรียบสังคมและส่วนรวม ดีที่สุดค่ะ
ดีใจที่ได้เรียนรู้ ...วิถีชีวิต....เพื่อนำไปทำให้เกิดผลจริง
sothorn
27 กันยายน, 2011 - 10:43
Permalink
Re: คนพอเพียงต้องไม่อิจฉาริษยา
ส่วนตัวคิดว่า อิจฉาได้ ครับ แต่อิจฉาเพื่อพัฒนาตัวเอง
แต่ริษยานี่อย่าเลย
หน้า