บันทึกพอเพียง ตอนที่ 1 .......วัยเด็ก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

โหยหาชนบท   ลูกชาวนา จาก จ.ปราจีนบุรี  ลืมตาดูโลกขึ้นมา  ซึ่งในตอนนั้นกระแสเศรษฐกิจพอเพียงยังไม่เป็นที่รู้จักกัน

 

ในวงกว้างนัก แต่สำหรับผมรู้สึกเหมือนมันหยั่งรากฝังลึกและถูกปลูกฝังให้รู้จักความพอเพียงมาพร้อมๆ กับเกษตรกรรมมาตั้งแต่เด็ก 

 

  ในอดีตพ่อแม่ผมเป็นเพียงชาวนาธรรมดาๆ อีกครอบครัวหนึ่ง  เช้าตื่นมาออกไปทำนา พ่อหาบข้าวของพะรุงพะรังขึ้นบ่า  ส่วนเเม่เอาผมขึ้นเอว

 

เดินไปตามคันนาที่เดินผ่านไปมาทุกวันบนเส้นทางเดิม  พอถึงนา  แม่ปูผ้า ให้ผมนอนใต้ต้นตาลเล็กๆ ที่พอหลบน้ำค้างยามรุ่งสาง   ส่วนพ่อกับแม่ก็ไถคราดนา

 

ด้วยไอ้ทุยี่ขาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผมเองอยากเป็นแบบมันซะเหลือเกิน(เคยฝันอยากเป็นควาย) โดยเอาเชือกมาผูกคอและคลานสี่ขาเล่นในนาข้าว 

 

วันไหนมีรถนวดข้าวมาก็จะสนุกเพิ่มขึ้นอีก เพราะจะได้เล่นกองฟางข้าวเท่าภูเขา วิถีชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนั้นจนผมโต  ผมเข้าโรงเรียนแม่จึงค่อย

 

หมดภาระจากผม  หลังหุงหาอาหารและส่งผมไปโรงเรียนวัดประจำหมู่บ้าน  แม่จึงค่อยนำข้าวมื้อเช้าไปส่งพ่อ  ที่ออกไปทำนาแต่รุ่งสางก่อนไก่ขัน 

 

พอถึงวันเสาร์ อาทิตย์ แม่จะปล่อยผมอยู่บ้านกับพี่ชายทำงานบ้านและช่วยกันเหลา เกลาตา แขนงไม้ไผ่ที่จะใช้ใช้ทำด้ามไม้กวาด กวาดหยากไย่

 

ซึ่งแม่จะถักไม้กวาดในตอนกลางคืนเพื่อส่งขายเป็นรายได้อีกทาง  ชีวิตเราวนเวียนกันอยู่แบบนี้  ตามประสาครอบครัวชาวนา จะว่ารวยก็คงไม่ใช่แน่ๆ

 

จะว่าจนก็ไม่เชิงเพราะบ้านเรารู้จักใช้ กินอยู่ง่าย  ปลุกผักกินเอง ผักปลาหาได้ตามหนองบึง  ไม่อยากได้อยากมีในสิ่งที่เกินตัว  พ่อแม่จะหัดให้เรา

 

ทำงานบ้านทุกอย่างแต่เล็กๆ ให้หัดช่วยตัวเองได้  กวาดบ้าน ถูบ้าน  ซักผ้าของตัวเอง (จนป่านนี้บ้านเราก็ยังไม่ซื้อเครื่องซักผ้า)   พวกเราถูกปลูกฝัง

 

ให้รู้จักพอเพียงมาตั้งแต่เล็กโดยที่ผมเองก็ไม่รู้ตัว  แต่มันก็ได้ติดตัวเรามาใช้จนถึงทุกวันนี้  ซึ่งผมเข้าใจแล้วว่ามันมีประโยชน์ผมมากๆ ในแง่ของการดำเนินชีวิต

 

ที่สอดคล้องกับหลักความเป็นมนุษย์ที่สุดในความหมายของผม  นั่นคือการรู้จักใช้ชีวิตแต่พอประมาณ ไม่สุดโต่งจนเกินตัว  ขอบคุณเรื่องราวในวันนั้นที่ทำให้ผมมีวันนี้

 

ขอบคุณครับ

 

เดี๋ยวจะมาต่อตอนที่ 2  .....วัยประถม      นะครับ

 

โหยหาชนบท

 

 

 

ความเห็น

ขอบคุณครับ สำหรับคำชม  ถ้าบล็อคของผมสามารถสร้างรอยยิ้มและความสุขให้ผู้อ่านได้ 

รู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้รับใช้ต่อไปครับ

...วิถีชีวิตแห่งเกษตรกรรมที่สมบูรณ์ จะหล่อเลี้ยงบุคคลทั้งร่างกายและวิญญาณ เป็นหนทางไปสู่ความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์...

หน้า