ควร ... ต้อง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เย็นวาน (17 ต.ต. 2554) 

    ... ขณะที่ ข้าวในจานเหลืออีกเพียง 2 - 3 คำ กับ กระดูกกับข้าวในมือ ที่ถูกแทะเนื้อกลืนลงกระเพาะจนหมด กำลังถูกวางลงข้างขอบจาน อันเป็นสัญญาณว่า กิจกรรมเติมความอิ่มให้กระเพาะ ใกล้สมบูรณ์ และจุดเริ่มต้นแห่งความหิว จะมาเยือนอีกคำรบ

   เสียงเลื่อนประตูรั้ว ก็มากระทบโสต ข้าพเจ้าชะเง้อดู ... ยังไม่ทันเห็นคน ...

       “กลับมาแหล่วเฮอ” เสียงปุจฉา ด้วยภาษาปักษ์ใต้ลอยมาก่อนเห็นรูป

   ข้าพเจ้า รู้ได้ด้วยอดีตสัญญา ว่าเป็นเสียงของเพื่อนบ้านซอยหลังบ้าน และทราบว่าเขาถามโดยไม่ต้องการคำตอบ จึงเฉยอยู่ และจัดการอาหารที่คาอยู่ในจานต่อไป

   “เห็นฝนหยุด เลยเดินดูว่าน้ำท่วมทีซอยไหนมั่ง” เขาบอกโดยข้าพเจ้ายังไม่ทันถาม แล้วเดินมาหย่อนตัวลงบน Terrace หน้าบ้าน

   ข้าพเจ้าจัดการกับอาหารคำสุดท้ายหมดพอดี ... ยันตัวลุกขึ้น พร้อมปากบอก “นั่งพลาง เก็บจานก่อน” แล้วเดินเข้าครัว

   จัดการเปิดน้ำอาบจาน ที่ถือเข้ามา และ ให้น้ำไหลลงอาบจานที่นอนรออยู่ก่อนในอ่างล้าง เสียงจากป้าอี๊ดก็ตามมา

      “พ่อวางไว้เถอะ ... เดี๋ยวล้างเอง ก็รอให้พ่อกินเสร็จ จะได้ล้างที่เดียว”

   ไม่มีเสียงตอบจากข้าพเจ้า ... จัดการบีบน้ำยาใส่ฟองน้ำ ... ล้างจาน ขณะอยู่ในกระบวนการทำความสะอาดจาน เสียงของเพื่อนบ้านก็ลอยมา

         “พรือ ... ต้อง ล้างจานกันเหอ”

   เงียบ! ... ไม่มีคลื่นเสียงคำตอบจากปากข้าพเจ้า และมือยังคงดำเนินกิจกรรมล้างจานต่อ ... แต่ มีคำถามในใจ ถามเอากับตัวเองว่า

    .... ‘ล้างจาน 3 - 4 ใบ เป็นงานหนักไหม?. หากเทียบกับสมัยเป็นเด็กวัด ที่ถูกรุ่นพี่ ๆ ขู่เข็ญให้ล้างมื้อละ 3 - 4 กะละมัง’

    .... ‘ล้างจาน เป็น Routine รึเปล่า?’

      .... ‘ในสถานที่และเวลา เดียวกัน เมื่อข้าพเจ้า ต้องล้างไขมันที่ติดมือ อยู่แล้ว ครั้นมีจานวางอยู่เบื้องหน้า ควร เมิน หรือล้างซะด้วยเลย’

   ล้างจาน ล้างมือ เสร็จ ออกมานั่งคุยกับเพื่อนบ้านด้วยเรื่องสรรพเพเหระ จนเขากลับ

เช้านี้ .... 18 ต.ค. 2554 ....

   ... ข้าพเจ้าเดินเข้าครัว จะหากาแฟดื่ม .. เห็น .... ป้า กำลังล้างจาน เลยหันหลังกลับมาเขียนบันทึกนี้ เพื่อหาคำตอบให้ตัวเอง ผิด - ถูก ประการใด โปรดช่วยชี้แนะ จะขอบคุณยิ่ง

   หลายท่าน อาจตั้งคำถามว่า ทำไม .. เอาเรื่อง จิ๊บ ๆ .. แค่ล้างจานมาเขียนให้เปลืองหน้าบล๊อก

       แต่โดยส่วนตัวข้าพเจ้าแล้ว เห็นว่า ....

   การล้างจาน ดูเป็นงานเล็ก ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ “ต้อง

       .... แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นเรื่องที่ “ควร

   ต้อง =  Routine ที่ มิอาจละเว้นก็จริง ... แต่

      ควร =  สัมมากัมมันโต อันเป็นผลของ สัมมาสังกัปโป

ความเห็น

ควร กับ ต้อง สิ่งนี้ จึงใช้ลูกบ่อยเหมือนกันค่ะ:uhuhuh:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

ป้าตอบถูกหรือผิดเจ้าคะ ไม่เห็นเฉลยป้าเลย รอฟังอยู่ค้า

************************************************************

ป้าโน จัดให้ตามความประสงค์เจ้าค่ะ

1. ใจเห็นว่า..ควร กายก็ต้อง...ทำ  กายทำแล้ว ใจก็เบิกบาน

2. ใจเห็นว่า..ต้อง กายก็ต้อง...ทำ กายทำแล้ว ใจไม่ค่อยเบิกบาน นะป้าว่า

 

คุณpaloo ทำแบบ 1 หรือ แบบ 2

ถ้าเป็นแบบ 1 ถูก ตามความเห็นป้า

ถ้าเป็นแบบ 2 ผิด ตามความเห็นป้า

ถ้าจะให้เดา ต้องเป็นแบบ 1 แน่ๆ ป้าว่า

ดังนั้น..คุณpaloo ถูกเจ้าค่ะ

ป้าโน


Laughingป้าอ้อย

ทั้งควร ทั้งต้องค่ะ

สำหรับตัวผม อะไร ควร ทำ ก็ทำไป เป็นเรื่องปกติที่ควรทำ

เพราะถ้าไม่ทำก็ ต้อง โดนสั่งให้ทำอยู่ดี

ไอ้เราในฐานะพ่อบ้านที่ดี ก็เลย ต้อง ทำต่อไป ห้ามบ่นเพื่อความสงบสุขของครอบครัว

จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ


สมควรอย่างยิ่งค่ะ

จะปลุกทุกอย่างที่กิน แม้จะไม่ได้กินทุกอย่างที่ปลูก

ฝากคิดถึงป้าอี๊ดด้วยคะ ว่าจะโทรหาสักหน่อย ระดับน้ำรอบ ๆ บ้านเป็นงัยบ้างคะ

...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...

   ของฝาก มอบป้า(ให้มาอ่านเอง) แล้วครับ

     สถานการณ์น้ำ รอบตัวบ้านรับได้ การคมนาคมสู่โลกภายนอก ต้องใช้ความพยายามนิดหน่อย ตัดปัญหาด้วยการนั่งหน้า คอมพ์

หลังจากอบรมลุงพาโลก็เปลี่ยนไป :uhuhuh:

หรือเป็นมาก่อนก็ไม่รู้

   ผลพวง จากการนำครอบครัวไปด้วย ...

      มิทราบ คิดผิด รึเปล่า? ....

สำหรับผม จังหวะและโอกาส เป็นตัวกำหนดว่าเมื่อใด "ควร" และ "ต้อง"

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

หน้า