หมักแล้วเอาไปทำอะไรดีล่ะ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

หมัก ๆ ๆ เป็นลัทธิื เหมือน แฟนด้องแด้งว่า... แจ้วก็เป็นเหมือนอย่างหลาย ๆ คน ตอนแรกที่อยา่กหมักก็เพราะมีแรงจูงใจจากบ้านสวนนี่แหละ... หมักแล้วเกิดปัญหาเยอะแยะ เช่น มีักลิ่นเหม็น จนต้องไปดูถังแก๊สว่ารั่วรึเปล่า มันเหม็นอะไรหว่า ลูกค้าเข้าร้านก็ว่าแก๊สรั่วรึเปล่า....มีอะไรตายอยู่ในบ้านรึเปล่า.....สุดท้ายก็ไม่้กล้าบอกใคร นอกจากสามีว่า ช่วยขนไปไว้ที่สวนยางหน่อย.....ที่เกิดกลิ่นขึ้นมาเพราะว่า ใส่กากน้ำตาลน้อยไป.... ตั้งถังไว้โดนแดด...พอช่วงหลังเริ่มเข้าใจมากขึ้น

พักหลัง มีกากน้ำตาลเป็นแกลลอน 20 ลิตร เลยไม่ต้องขี้เหนียว ใส่ตามสูตร 3:1:10 หมักพืชผักที่เหลือจากครัวเรือน... ส่วนพวกผลไม้ตามฤดูกาล ก็มีพวกมังคุดที่ลองหมักทิ้งไว้ แต่ใช้น้ำตาลทรายแดง

 

น้ำหมักมังคุด                           น้ำหมักสับปะรด

วันก่อนได้นั่งคุยกับแม่ แม่บอกว่า น้องชายไปซื้อกากน้ำตาลมา 5 ลิตร....เอามาทำน้ำหมัก ก็ยังสงสัยว่าเค้าอยากหมักด้วยเหรอ หมักอะไร เอาทำอะไร ถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น แม่ว่าเอาน้ำหมักมาหยอดในถ้วยน้ำยาง เพื่อให้เป็นก้อน แข็งตัวเร็ว เพราะ ทางพัทลุง เจอฝนตกบ่อย ก็ต้องจู่โจมกรีดยาง เพราะไม่งั้นไม่มีรายได้....

พ่อกับแม่ก็เริ่มหมักแล้ว ทั้งจำปาดะ มังคุด เงาะ กล้วย ลงถังหมักหมด.....ส่วนน้ำหมักของแจ้วก็เพิ่งได้ใช้ประโยชน์ก็คราวนี้แหละ แบ่งให้แม่ และน้องชายไปใช้ เพราะน้ำหมักของเค้าเพิ่งเริ่มทำ เราทำมานานแล้ว เอาไปใส่ขวดพลาสติก เจาะรูที่ฝาขวด แล้วเดินหยอดในถ้วยน้ำยาง คน ๆ เล็กน้อย ไม่เกิน 5 นาที น้ำยางเป็นก้อน ...ดีกว่าไปซื้อน้ำกรดมาใส่เป็นไหน ๆ....เสียเงินน้อยกว่าด้วย ปลอดภัยกับตัวเองด้วย

(น้ำหมักที่ได้ที่แล้วแยกน้ำมาใส่ขวดใหญ่ ส่วนกากที่เหลือ รวมกับพืชผักใหม่ หมักต่อไปในถังเดิม)

เฮ้อ น้ำหมักเราได้ใช้ประโยชน์แล้ว...ไชโย......วันนี้ข้างบ้านกรีัดยางแต่ฝนตกเล็กน้อย ร้านรับซื้อน้ำยางเลยปิดรับซื้อ แจ้วเลยขอน้ำยางมาลองมั่ง....เพราะยังไม่เห็นกับตาว่ามันใช้ได้ยอดเยี่ยมขนาดไหน 

ลองกับน้ำหมัก 2 ชนิด 

ทางซ้าย ใช้น้ำหมักน้ำซาวข้าว+กากน้ำตาล หมักไว้เกิน 1 ปี ไม่เคยเปิดดู สีสวย ส่วนทางขวา น้ำหมักจากพืชผักผลไม้รวมกัน  ทั้ง 2 ขวด ไม่มีกลิ่นเหม็น...

ทดลองแบ่งน้ำยางออกมา 2 แก้ว แล้วใส่น้ำหมัก ดังกล่าว ผลปรากฎว่า น้ำหมักจากพืชผัก ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที น้ำยางจับตัวแข็งเป็นเนื้อเดียวกันหมด

แข็งแล้ว 

ส่วนน้ำหมักจากน้ำซาวข้าว ใช้เวลาเท่ากัน แค่เริ่มจับตัวเป็นก้อน ยังมีน้ำยางที่ไม่จับตัวอีกครึ่ง แสดงว่าประสิทธิภาพ ด้อยกว่าเยอะเลย

จนผ่านไป ครึ่งชั่วโมงก็ยังเหมือนเดิม


ช่วงนี้เลยมีกำลังใจในการหมัก และสอนพ่อ สอนแม่หมักด้วย ภูมิใจสุด ๆ วันก่อนแม่บอกว่าไปซื้อสับปะรดมา 50 บาท ไม่ยอมกินสักชิ้น เอาไปหมักทั้งหมดเพื่อเป็นหัวเชื้อ....ฮ่า ๆๆๆ แม่เราลงทุนมากมาย...ก็ต้องบอกแม่ว่า แค่เปลือกก็เป็นหัวเชื้อ เป็นตัวเร่งได้แล้ว ....หลังจากนั้นมีมังคุด มีจำปาดะ กล้วยที่เหลือจากลิงก็เอามาใส่ได้ทุกวัน...แม่ก็เริ่มเข้าใจ

ส่วนน้องชายบอกว่า ซื้อน้ำกรด ขวดประมาณ 1 ลิตร 45 บาทเพื่อหยอดในถ้วยยาง แต่ใช้น้ำหมักของพี่ไม่ต้องออกตังก์ คุ้มกว่าเยอะ

ก็เลยเกิดโครงการ บังคับให้น้องเก็บขยะรอบบ้าน โดยเฉพาะขวดพลาสติกสำหรับมาใส่น้ำหมักไปใช้  ส่วนขวดพลาสติกเล็ก ๆ ก็เก็บมาให้หมด เพื่อเอามาแลกน้ำหมักไปใช้ได้เลย

เจ๋งมั๊ยโครงการนี้...เริ่มแค่คนใกล้ชิดก่อนค่ะ


ความเห็น

มาหาความรู้เพิ่มเติมครับ

ชีวิตเป็นเรื่องง่ายๆ จะทำให้ยากทำไม


 

ลองทำดู คุณทำได้ค่ะ

:sweating:


พี่แจ๋วน้ำหมักจะเป็นกรดส้มใช้แทนได้และประหยัดครับแถมไม่เป็นอันตรายกับร่างกายด้วยผมให้ที่กาญจนบุรีใช้มา2ปีแล้ว

ใช่ค่ะประหยัดตังก์ได้เยอะเลย

คุณแจ้ว หมักได้เยอะเลย คุณพ่อคุณแม่ท่านได้เพลิดเพลินกับอีกกิจกรรมในบ้านเลยนะคะ

ได้ใช้ประโยชน์ก็คราวนี้แหละค่ะ.....รอมานาน คิดมานาน....จนได้ใช้ผลิตแทบไม่ทันค่ะ

พี่แจ้ว ถ้าพันนั้นกะตัดยางดูฝนได้แหละ  ดีจัง

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

เดือนหกนี้ท่าจะได้ตัดยางค่ะ....

:admire:  ต้องลองใช้แล้ว..


:admire2:

....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....

ลองตะ ตัดยางทำขี้นะ


หน้า