มันน่า........น่าอะไรดี

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้ครูได้ตรวจค้นนักเรียนห้องหนึ่งในแถว สิ่งที่เจอคือ

โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จึงได้ขอถ่ายรูปเอาไว้

อันนี้ของนักเรียนครับ

 

ส่วน 2 เครื่องข้างล่างนี้ ของครูเองครับ ราคารวม 2 เครื่องไม่ถึง 3,000 ใช้งานมาประมาณ 5 ปี เปลี่ยนหน้ากากจนเบื่อเลยครับ 555555

ท่านเห็นแล้วรู้สึกอย่างไรครับ


น่าสงสารครู

น่าสงสารพ่อแม่

น่าสงสารเด็ก

น่าเป็นห่วงอนาคต

ความเห็น

เครื่องของครู  2 เครื่องราคารวมกันอย่าว่าแต่ 3000 เลย ถ้าเอาไปขาย 2 เครื่องนี้ 500 บาท จะขายได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ :uhuhuh: เราทำงานมีเงินเดือน ใช้โทรศัพท์รุ่นที่ใช้อยู่ก็พอแล้ว เพราะหน้าที่หลักของโทรศัพท์คือ รับสายกับโทรออก นี่คือหน้าที่หลัก ๆ ของโทรศัพท์...ยุคนี้มันเป็นยุควัตถุนิยม เราอยู่ให้เหมาะสมกับเงินเดือนและฐานะของเราจะได้ไม่เดือดร้อน


 


***พอใจเท่าที่มี ยินดีเท่าที่ได้**

ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนมากกว่า บางคน การซื้อของ ฟุ่มเฟือย เหล่านี้ให้ลูก อาจจะเป็นแค่เศษเงิน แต่สำหรับบางคน อาจหมายถึงค่าใช้จ่ายทั้งเดือนเลยก็ได้ ก็แล้วแต่มุมมอง แต่สำหรับผมในตอนนี้ โทรศัพท์ มันก็แค่ใช้เพื่อให้การติดต่อสื่อสาร สะดวกขึ้น ได้ยินเสียงชัดเจน เท่านี้ก็พอแล้ว ....แต่ต่อไปข้างหน้า ก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ามันมีความจำเป็นต้องใช้งานอย่างอื่นร่วมกับ โทรศัพท์ด้วย และ คุ้ม .... ก็คงจะซื้อ .... แต่ถ้ามีความจำเป็นใช้แค่ ฟังเสียง เป็นหลักเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว....ที่สำคัญอยู่ที่เราจะสอนและปลูกฝังค่านิยม ให้กับลูกได้อย่างไร อย่างน้องผม(ลูกของอา) อาจะสอนลูกดีมาก ตอนน้องยังเด็ก ๆ  มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนของน้องมาเล่นที่บ้านแล้วเอาขนม ห่อละ 5 บาท 10 บาท มากินด้วย .... น้องถามอาว่า ให้น้องกินขนมพวกนี้ได้มั้ย อา บอกว่า ได้ แล้วก็สอนต่อ ว่าขนมเหล่านี้ กินไปเยอะก็ไม่ดี ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย "กินให้รู้รสชาด" ว่าเป็นยังงัยก็พอ......  

เมื่อรู้สึกว่ากำลังแย่ จงให้กำลังใจตัวเอง ด้วยการคิดว่า "ยังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก"

เห็นมีเพื่อนหลายคน เลยให้ดูโทรศัพท์ตัวเองบ้าง ซื้อตั้งแต่ปี 2547  นับเวลากันเองนะคะ  เปลี่ยนหน้ากากเป็นสิบครั้งแล้วมั๊ง ตกน้ำ 3 ครั้ง เปลี่ยนแบตกี่ครั้งจำไม่ได้ อายนะเนี่ยออกสื่อเนี่ย แต่ภูมิใจ และรักเจ้าเครื่องนี้มากเลย เวลาเจอเพื่อนหรือหัวหน้าที่ทำงานเดิม จะถามว่านี่ยังใช้โทรศํพท์เครื่องเหลืองอยู่หรือเปล่าเนี่ย เปลี่ยนได้แล้ว แต่ไม่อยากเปลี่ยนค่ะ เสียดาย ปุ่มปิดเปิดเพิ่งเสื่อมสภาพไปเมื่อเดือนก่อน ไปถามร้านเขาว่ายังมาเปลี่ยนใหม โชคดีที่ยังมีอยู่ 5555  ตอนนี้หน้ากากแตกอีกเพราะลูกสาวแย่งไปขว้างลงพื้น กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนหน้ากากใหม่ ถ่ายเมื่อกี้เองค่ะ  :uhuhuh: สองเครื่องบนน่ะสวยนะ อิอิ แต่ใช้ไม่เป็น 5555


แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

เหมือนกันเลย

น้องต้นโชคดีมากที่มีลูกที่ดีไม่ยึดติดกับวัตถุนิยม

ลูกสาวคนโตมีโทรศัพท์ใช้ตอนม.1ราคาแค่1900

เอาไว้โทรให้แม่มารับกลับบ้าน

ตอนนี้เค้าอยู่ม.3จะจบแล้ว

ลูกสาวคนเล็กอยู่ป.4ยังไม่มีโทรศัพท์ยังไม่ให้ใช้คะ

ต้นจะบอกเค้าว่าถ้าอยากได้ให้เก็บตังค์ซื้อเอง

เพราะแม่มีตังค์น้อยเอาไว้จ่ายค่าเทอมและค่าชุดนักเรียนค่าอุปกรณ์การเรียน

ในปีการศึกษาหน้าเดือน พ.ค นี้

แต่ตอนนี้เสียค่าเรียนซัมเมอร์ให้ลูกสาวคนโตไปแล้ว 9300 บาท

เค้าไปซัมเมอร์ที่พิษณุโลก 1 เดือน

เรื่องเรียนยอมจ่ายแต่เรื่องวัตถุนิยมต้องพิจารณาคะ :bye:

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็ยึดของเด็ก ป. 3  ที่โรงเรียนไว้เครื่องหนึ่งขนาดโรงเรียนประถม


บ้านนอกๆ พ่อแม่ยังตามใจให้เอามาโรงเรียน ฐานะทางบ้านก็ใช่ว่าจะร่ำรวยทำงาน


รับจ้างก่อสร้างให้อยู่กับปู่ ย่า มันเป็นค่านิยมที่ผิดๆ ก็เลยอบรมไปก่อนคืนให้ตอนโรงเรียนเลิกแล้วห้ามไม่ให้เอามาอีก


                                           :objection: 

ผมห่วงพ่อแม่ เขาละ ต่อไปลูกอยากได้รถตามเพื่่อนก็ต้องซื้อให้ อยากได้คอมก็ต้องซื้อให้ ถ้าไม่ซื้อกลัวลูกโกรธ....พอลูกโกรธ..ลูกก็บอกไม่เรียนแล้ว..พ่อแม่ก็ต้องยอมตามใจ..เพราะกลัวลูกจะไม่ยอมเรียน........ตอนนี้ค่านิยมเปลี่ยนไปแล้ว  หัวหน้าครอบครัวคือลูก..พ่อแม่ฝ่ายตาม... :uhuhuh:

โทรศัพท์ของน้องก็รุ่นไม่เก่ามากแค่เขย่าหน้าจอก็เปลี่ยนภาพพื้นหลังไ้ด้เอง รุ่น TWZ  D55 รูปร่างบางไฉไล ตกไม่เจ๊งซักที ซื้อมา 1,800 ใช้จนจะเลิกใช้แล้ว เพราะไม่ค่อยมีธุระได้ใช้ แบบว่า เพื่อนน้อย แฮะ แฮะ :shy:

   ความรักของพ่อแม่มีมากล้นสำหรับลูก ๆ ทุกคน จะเอาอะไรอยากได้อะไรหากไม่เหลือบ่ากว่าแรง คนเป็นพ่อเป็นแม่ยอมที่จะเหน็ดเหนื่อยเพื่อลูก นี่คือหัวใจของพ่อแม่  แต่ผมก็เห็นด้วยกับครูตี่ มันจำเป็นหรือเปล่ากับเด็กวัยแค่เนี๊ยะ ขอให้กำลังใจแด่คุณครูทุกท่านครับ ครูคือพ่อแม่คนที่สองของลูก(ศิษย์)

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

น่า...ขอ :uhuhuh: แลกกัน

หน้า