เมื่อปั๊มดูดน้ำไม่ขึ้นแทงค์

เขียนโดย sothorn เมื่อ 27 มิถุนายน, 2012 - 16:25
หมวดหมู่ของบล็อก: 
อื่นๆ

     ช่วงเวลาของการปลูกผักน้ำจำเป็นต้องใช้รดผักทุกเช้า ผมใช้น้ำจากสระดูดน้ำขึ้นแทงค์ด้วยปั๊มน้ำขนาด 2 นิ้ว ปกติน้ำจะขึ้นแรง และไม่นานน้ำก็จะเต็มแทงค์ แต่หลายวันมาแล้วน้ำขึ้นน้อย รอตั้งนานแล้วน้ำก็ไม่เต็มแทงค์ คงถึงเวลาที่ต้องลงไปเล่นน้ำในสระมรกตแล้ว

   เดิมผมเอาหัวดูด ไปมัดไว้กับลำไผ่ที่เอาไปปักไว้ในสระ ซึ่งมัดเอาไว้ในระดับที่ลึกที่สุด คาดว่าเวลาผ่านไปนานลวดขาด ทำให้หัวดูดทองเหลืองอย่างดี ไปนอนอยู่บนดินทำให้ ดินมาอุดหัวดูด เลยทำให้น้ำขึ้นน้อย พอเอาดินออกน้ำก็ขึ้นปกติ ครั้นจะเอาหัวดูดไว้ลึกอย่างเดิมก็ใช่ที่ เพราะเคยเห็นแพปั๊มน้ำที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติสองสลึง ซึ่งหัวดูดไม่ได้อยู่ลึก ซึ่งถ้าหัวดูดอยู่ลึก นั่นหมายความว่าปั๊มต้องเสียแรงในการดูด ซึ่งปั๊มน้ำธรรมดาสามารถดูดน้ำได้ลึกแค่ 8 เมตร  จะให้ดำน้ำลงไปมัดหัวดูดคงไม่ไหวแล้วครับเพราะจุดที่หัวดูดอยู่น้ำลึกตอนนี้ประมาณ 5 เมตร เอาแบบนี้ดีกว่า กลับบ้านไปเอาแกลอนมา 2 ลูกมัดติดกัน แล้วเอาหัวดูดมาพาดบน แล้วมัดอีกที

สระมรกต แหล่งน้ำของผม

ให้หัวดูดจมลงไปในน้ำประมาณ 80 เซนติเมตร

   ทดลองแล้วก็ใช้งานได้ดี ก็คิดเอาเองว่าปั๊มน้ำคงเสียแรงในการดูดน้ำ น้อยกว่าหัวดูดอยู่ในที่ลึก ใครมีความรู้ทางนี้ช่วยบอกทีครับว่าเป็นจริงตามนั้นหรือเปล่า หรือสิ่งที่ผมคิดมันไม่ถูก

ความเห็น

น้อย สวนบุรีรมย์

27 มิถุนายน, 2012 - 20:13

ถูกต้องครับน้ำลึกแรงดันเยอะ ก็ต้องเปลืองแรงสูบเยอะ การทำทุ่นลอยแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะเก็บไว้ลอกบ้าง

ด้านล่างมีอ้างอิงตามประสานิดหน่อย ตามประสาเด็กที่ตกฟิสิกส์

จากสูตร
P  =  rgh
เมื่อ          P คือ ความดัน (N/m2)

               r คือ ความหนาแน่นของของเหลว (kg/m3) น้ำ=1x10^3 = 1000 กก.ต่อลบ.ม.

               h คือ ความสูง/ความลึกของของเหลว (m)
               g คือ แรงโน้มถ่วงของโลก (m/s2) = 10 เมตรต่อวินาที

สวนเกษตรบุรีรมย์การเกษตรแบบเสาร์เว้นเสาร์ เน้นที่เราปลูกเองกินเอง
บริการจัดทำและดูแลเว็บไซต์ ถูก ดี มีประสิทธิภาพ

teerapan

28 มิถุนายน, 2012 - 16:51

บังเอิญมีสิ่งที่เรียกว่าแรงกดอากาศครับ  พลังงานที่จะใช้ในการสูบจะเป็นการยกน้ำจากระดับเทียบเท่ากับที่ผิวน้ำโดยไม่ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของท่อดูด (intake) ดังนั้นสมการข้างต้นจึงไม่สามารถใช้อธิบายว่าทำไมจึงสามารถสูบน้ำได้ดีขึ้นครับ  และการวัด suction lift ที่จะใช้ก็จะวัดถึงระดับผิวน้ำเท่านั้นครับ :cheer3:

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

สนิทเมืองอุดร

27 มิถุนายน, 2012 - 20:52

ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆครับสู้ๆครับผู้ใหญ่

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว


บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

Teraphonk

27 มิถุนายน, 2012 - 23:20

น้ำเขียวสงสัยจะลึกมากทีเดียวครับ วิธีแ้ปัญหาน่าเอาไปเป็นตัวอย่าง  :uhuhuh:

j_pornrat

28 มิถุนายน, 2012 - 09:27

ผมใช้ปั้มน้ำอัตโนมัติขนาดเล็ก กับน้ำบ่อตอก (คล้ายน้ำบาดาลแต่ตื้นกว่ามากและใช้แรงคนกระทุ้ง) ฟุตวาล์วรั่วครั้งหนึ่ง ต้องตัดท่อและดึงท่อขึ้นมาประมาณ ๑๐ เมตร เปลี่ยนฟุตวาล์วใหม่ กว่าจะเสร็จหน้ามืดเลย

ฟีม

28 มิถุนายน, 2012 - 10:03

เห็นด้วยกับคุณ Teerapan และคุณ น้อยครับ แต่ถ้านำปั้มไปติดตั้งในสระเลยจะดีเพราะ suction head (ด้านดูด) จะต่ำ discharge head (ด้านส่ง) จะเพิ่มขึ้นครับ หมายความว่า ด้านดูดสั้น จะทำให้มอเตอร์ใช้กำลังดูดน้อยลง และสามารถส่งน้ำได้สูงขึ้น (suction head + discharge head = total head) และให้ติดตั้ง check valve/oneway valve เพิ่อป้องกันแรงดันย้อนกลับของน้ำด้านส่ง เมื่อเริ่มสตาร์ทปั้มใหม่อีกครั้ง ซึ่งถ้าไม่ติดตั้งอาจทำให้มอเตอร์ทำงานหนักเมื่อเริ่มสตาร์ทหรือมอเตอร์อาจจะไหม้ได้ครับ อีกอย่างคือหัวดูด (suction check valve) ควรติดตั้งให้ตั้งฉากกับตัวปั้มเพื่อป้องกันน้ำไหลออกจากที่ท่อเมื่อหยุดใช้งาน โดยที่เราไม่ต้องกรอกน้ำใหม่อีกครั้งครับ   

nusita_angel

28 มิถุนายน, 2012 - 11:07

อ่านแล้วมีเหตุผล ทฤษฎีนี้น่าจะได้ผลจริงๆ

teerapan

28 มิถุนายน, 2012 - 17:12

เสริมน้องฟีมครับ check valve ที่ขายมี 2 แบบครับ  มีทั้งแบบที่ต้องอยู่ในแนวดิ่ง  และต้องอยู่ในแนวนอน 

ส่วนใหญ่แล้วที่ชาวบ้านนิยมใช้สูบน้ำในสระกันจะเป็นแบบที่ check valve ต้องอยู่ในแนวนอน (แบบบานสวิง)   เนื่องจากเรามักจะไม่ตั้งปั๊มเหนือน้ำโดยตรงเพราะมีต้นทุนสูง  เพราะจะต้องทำโครงสร้างยื่นเข้าไปในสระน้ำเพื่อจะวางปั๊ม เราจึงเห็นว่าเขาจะพยายามทำท่อดูดให้ขนานกับผิวน้ำครับ 

ส่วนพวกสูบน้ำบาดาล หรือบ่อน้ำมักจะนิยมใช้ check valve แบบแนวดิ่ง (แบบสปริง) ครับ  เพราะเราสามารถติดตั้งปั๊มเหนือแหล่งน้ำได้ง่าย 

แต่เห็นด้วยว่า check valve แบบสปริงจะปิดได้สนิทกว่าแบบบานสวิง  แต่คงต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ในการเลือกใช้ด้วยครับ

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

cenan

28 มิถุนายน, 2012 - 10:28

เข้าท่าดี เข้าใจดัดแปลงได้ผลแน่นอน

   :cheer3: :cheer3: :cheer3:

ริมสวนยาง

28 มิถุนายน, 2012 - 10:40

สมช.ผู้ชาย--มีความรู้ความสามารถ ดีมาก ค่ะ ขอคารวะ3จอก-(ความรู้ที่มีอยู่กับตัว ทำให้เราดำเนินชีวิตได้ง่ายขึ้นค่ะ) ---น้องผู้ใหญ่โสทร น้ำในสระทำไมเป็นสีมรกต ล่ะคะ (เหมือนถ้ำมรกตที่จ.ตรังเลยค่ะ)-- แต่ขอบสระยังว่างอยู่ ลองปลูกต้นรัก สัก 1-2 ต้น สิคะ --พี่บัวริม ว่าดีน๊า--ครับ---*ขอบคุณมากค่ะ ที่ให้ชมการแก้ปัญหา และสระน้ำสีสวย

หน้า