เมื่อฉันหัดทำน้ำฟักข้าวครั้งแรก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วัสดีค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่่นุสิจะได้ลองฝีมือหัดทำน้ำฟักข้าวดูบ้าง หลังจากที่แอบลอกการบ้านเพื่อนมานาน แต่จะพิเศษแตกต่างจากเพื่อนบางท่านอยู่นิดนึง ตรงที่นุสิจะใส่เนื้อฟักข้าวปั่นลงไปด้วย เพื่อจะให้น้ำฟักข้าวมีความเนียนนุ่มลิ้น นุสิได้อ่านตัวอย่างการทำจากเวปนึง จำบ่ได้ ส่วนรสชาติจะแตกต่างจากบรรดาคุณครูอย่างไรนั้น เชิญตามมาชมกันเลยค่ะ Laughing


1. แคะเอาเมล็ดฟักข้าวออก เมื่อได้แล้วใส่น้ำอุ่นคั้นเอาน้ำแดงจากเนื้อเยื่อแยกเก็บไว้ นุสิได้มาทั้งหมด 3 ลูกค่ะ น้ำหนักรวมกัน 3 ลูกก็เกือบกิโลครึ่ง (ตอนขูดก็นิ่ม ขูดง่ายมากเลย เพิ่งจะรูนะเนี่ยว่าฟักข้าวเนื้อช่างเนียนขนาดนี้ ความเีนียนคล้ายฟักทองนึ่ง แต่เนียนนิ่มกว่า)

2. นำเนื้อฟักข้าวมาปั่น แคะแล้ว 3 ลูกก็เต็มเครื่องปั่นพอดีเลย

พอปั่นเสร็จก็จะได้หน้าตาอย่างนี้ค่ะ เนี๊ยนเนียนเหมือนผิวเด็กเลย เอ..หรือจะเหมือนซอสมะเขือเทศดี

เตรียมส่วนผสมหลักกันเลย ได้แก่ น้ำฟักข้าว เนื้อฟักข้าว น้ำตาลทรายแดง น้ำมะขาม เกลือ

3. เทน้ำฟักข้าวลงต้มค่ะ ต่อด้วยเนื้อฟักข้าว นุสิไม่ได้ดู น้ำฟักข้าวเดือดล้นหม้อเลย ฮี่ ฮี่

    จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำตาลทรายแดง น้ำมะขาม และเกลือ ลงไป ตอนชิมน้ำฟักข้าวรู้ทันทีเลยค่ะ ว่าทำไม เพื่อนๆ ถึงไม่นิยมเอาเนื้อฟักข้าวลงไปต้มพร้อมกับน้ำฟักข้าว เหตุผลเพราะเนื้อฟักข้าวมีรสขมนั่นเอง ทำยังงัยดีล่ะทีนี้...ล่อซะเต็มหม้อเลย

ไม่อยากทิ้งเสียดายทำมาแล้ว ยังงัยก็เป็นสมุนไพร ขมยังงัยก็มีประโยชน์ ก็คิดว่า ถ้าผสมให้เข้มข้นกว่านี้ คงจะกลบความขมได้บ้าง

เลยใส่น้ำมะขามที่เตรียมไว้หมดเลย ต่อด้วยน้ำตาลอีกเพียบ ตามด้วยเกลือ ค่อยๆ ชิมไปทีละนิดขอบอกเลยค่ะ เกลือช่วยให้น้ำผลไม้มีสชาติดีขึ้นมากจริงๆ

  รสชาติสุดท้ายที่ได้น่ะหรอคะ รสชาติออกไปทางน้ำมะขามเยอะไปนิด เค็มไปนิดนึง คราวหน้าจะขอแก้ตัวใหม่ แต่ยังงัยก็ยังยืนยันนะคะว่า พอน้ำพร้อมเนื้อฟักข้าว สัมผัสลิ้นเเล้ว มีความรู้สึกนุ่มลิ้น กลมกล่อมจริงๆ และความรู้สึกนุ่มลิ้นเนียน นี้ ไม่ได้มาจากรสชาติของน้ำนะคะ แต่มาจากเนื้อฟักข้าวต่างหากค่ะ ส่วนความขมไม่มีอีกเลย เพราะเจอเกลือกับมะขาม พร้อมน้ำตาล ใส่อย่างข้นเลยค่ะ Laughing

เคยดื่มน้ำฟักข้าวครั้งแรกก็ของพี่น้อยที่ได้นำมาให้เพื่อนๆ ได้ดื่มดับกระหายกันเมื่อครั้งไปสองสลึง คราวนั้นประทับใจไม่รู้ลืมเลย ก็คิดว่า ซักวันเราจะทำน้ำฟักข้าวดื่มเองบ้าง แต่พอวันนี้ทำแล้ว รสชาติสู้พี่น้อย ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่รู้พี่น้อยใส่ส่วนผสมอะไรลงไปบ้าง...

คุณประโยชน์ที่ได้จากฟักข้าว


 ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของฟักข้าวคือ ผลอ่อน ราก ใบ และเมล็ด ซึ่งแต่ละส่วนจะให้สรรพคุณแตกต่างกันดังต่อไปนี้ ค่ะ
    ใบ       ปรุงเป็นยาเขียว ใช้ถอนพิษ ดับพิษทุกชนิด ตำพอกแก้ปวดหลัง
    ยอดฟักข้าว มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในปริมาณที่สูง จึงสามารถใช้รักษามะเร็ง
    เมล็ด    ใช้บำรุงปอด แก้ท่อน้ำดีอุดตัน และแก้วัณโรค
    ราก     ใช้ต้มดื่ม หรือตากแห้ง บดเป็นผงแล้วปั้นขนาด 0.5 กรัม กินครั้งละ 3-5 เมล็ด ก่อนอาหาร    เช้า-เย็น ขับเสมหะ ดับพิษไข้ แก้เข้าข้อ ปวดตามข้อ ถอนพิษไข้ นอกจากนี้หากนำส่วนของรากแช่น้ำ แล้วใช้น้ำสระผม จะช่วยแก้ผมร่วง และฆ่าเหาได้

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://www.rakbankerd.com/agriculture/wb/show.php?Category=agriculture&No=13174

และขอขอบคุณเวปบ้านสวนและเพื่อนสมาชิกที่ได้ให้พื้นที่ในการแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ และติดตามชมบล็อกของนุสิตา มาโดยตลอดนะคะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ สำหรับคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ


ความเห็น

มาขอชิมก่อนใครเลย เป็นปลื้มละซีจ๊ะ ได้ลงมือทำคราวนี้ ประสบการณ์เพียบเลยนะจ๊ะ :cheer3: :love:

 

 

กลังจากทำเเล้ว ชิมแล้ว หลับตาดื่มนึกว่าน้ำมะขาม 555

แต่พอเเช่เย็นแล้วเอามาดื่ม โคตระอร่อยเลยป้าลัด แถมเนื้อฟักข้าวมีเส้นใยที่เมื่อทานไปแล้วรู้สึกอิ่มท้องไปเลยล่ะ :good-job:

สวัสดีจ้า น้องนุสิ - นั้นแน่ได้เจอกับประสบการณ์จริง สีสวยดีจัง เปรี้ยวไปนิดเหรอค่ะ พี่ชอบเลยล่ะขอชิมด้วยคนน๊า  :relax2:

ชีวิตที่เรียบง่ายกับความพอใจในสิ่งที่มี

ชอบเปรี้ยวหรอ ได้เลย ที่ทำนี้เปรี้ยวสุดๆ เปรี้ยวซะไม่ได้กลิ่นฟักข้าวเลย 55++

แต่แช่เย็นแล้วอร่อยดีนะพี่ทิพย์

ครั้งที่2  รับรอง  อร่อยแน่ๆค่ะ  เรื่องฟู  วันที่ต้มก็ฟูค่ะ  แต่ย่าวรรณใช้หม้อใหญ่  เลยไม่มีปัญหา

ก่อนที่จะต้มไม่กี่ชั่วโมง คิดว่าจะแบ่งเนื้อไว้ทำหมักเหล้าขาว น้ำผึ้ง ว่าจะโทรไปถามสูตรป้าเล็กอยู่ เพราะที่บ้านต่อเนตไม่ได้พักนึง แต่พอจะทำจริง หาอุปกรณ์ได้ไม่ครบ น้ำผึ้งกับเหล้าขาวหมด เลยทำฟักข้าวผสมเนื้อไปด้วยเลย ก็เลยได้หน้าตาออกมาเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ฮี่ ฮี่Sealed

ทำเอง อร่อยฉบับของตัวเอง :good-job:

ทำเองอย่างนี้ พี่ขอชิมสักแก้วซิจ๊ะ นุสิ...:embarrassed:

   พออยู่ พอกิน พอใช้ พอใจ = พอเพียง

นัดเจอคราวหน้าไปซื้อฟักข้าวกันเลยดีมั้ยพี่แหม่ม จะได้เรียนรู้สูตรไปพร้อมๆ กันเลย ใกล้บ้านพวกเราแค่นี้เอง

หน้า