บล็อกน้ำแห้งภาค 2
แหม บายใจจัง น้าแผนยอมแพ้ คำทาย เอาเป็นว่าเราเสมอกัน ตากระดานหน้า น้าแผนหาคำทายมาแก้มือก็แล้วกัน
เอ้า ... ขอเฉลยปัญหาสมาชิกก็แล้วกัน คำตอบอยู่ในคำถามนะขอรับ
น้ำลดตอผุด
พริกหลุดจากขั้ว
ลงน้ำดำหัว
เรือรั่วอุดชัน
อะไรเอ่ย ตอบว่า น้ำพริกลงเรือ
อันว่าน้ำพริกลงเรือนี้ ในปัจจุบันหากินยาก ด้วยว่าเป็นสูตรตำหรับชาววัง แม่ครัวท่านแรก
ที่คิดสูตรน้ำพริกลงเรือนี่เห็นจะเป็นเจ้าจอมองค์หนึ่งในสมัยพระพุทธเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ เมื่อครั้งประพาสต้น ครั้งนั้นมีการคิดประดิษฐ์ประดอย
สูตรน้ำพริกนี้ขึ้น ผมจำความได้จากหนังสือเล่มใดก็เลือนๆเต็มที หากผู้รู้ท่านใดผ่านมาอ่านได้โปรดแนะนำเพิ่มเติม เอาเป็นว่า
เป็นสูตรน้ำพริกโบราณก็แล้วกัน ไว้ถ้าป้าเล็ก พี่แจ้ว มีสูตรก็ฝากสูตรน้ำพริกนี้ไว้ในบ้านสวนบ้าง
กลับมาที่ต้นตาลกันต่อ .... ตาลนี้ เป็นต้นไม้มีคุณมีประโยชน์ มีคุณแทบทุกองค์ประกอบ วานนี้พูดถึงน้ำหวาก น้ำหวากเป็นเมรัย(เมรัยคือของหมัก
ไม่เหมือนกับสุรา ที่หมักแล้วมากลั่น ) กระบวนการเป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาลโตนดนั่นแล น้ำตาลสดบนต้นตาล - บากเกล็ดไม้เคี่ยมใส่ลง
ไปรสฝาดเผื่อน - หมักคาต้นไว้ - ไม่กี่ชั่วโมงก็เป็นเมรัย เป็นน้ำตาลหมัก คล้ายๆน้ำแป้งข้าวหมาก มีแอลกอฮอล์เกิดขึ้นจากการย่อยสลายน้ำตาล
ของยีสต์ ดื่มแล้วพอเมาได้ ไม่เสียหายต่อสุขภาพ คนบ้านนอก คนพื้นเพแต่เดิมก่อน ใช้น้ำหวากเป็นน้ำประสานมิตร เป็นน้ำประสานแรง ลงแขกลงงาน
ไม่ว่าจะเกี่ยวข้าวหรือปลูกบ้าน ประสานสามัคคี แม้ยามเย็นก็แลกเปลี่ยนเรื่องราวข่าวสารกันใต้โคนโหนด ยุคนี้โลกเปลี่ยนวิวัฒน์ไป อันที่จริงจะเรียกวิวัฒน์พัฒนา
ก็ไม่ค่อยจะถูก เพราะวิวัฒน์ต้องเจริญขึ้น และ โลกปัจจุบันนับวันจะเสื่อมถอย ....
ขอบคุณบ้านสวน ที่เป็นโลกยุคใหม่ และ สร้างสรรสร้างเสริมให้โลกยุคก่อนยังคงอยู่ ขอบคุณน้องโสทร ผู้สร้างสรร เวบไซต์
- บล็อกของ นายวิษณุ พรมอินทร์
- อ่าน 6836 ครั้ง
ความเห็น
เซพ
25 พฤษภาคม, 2010 - 01:18
Permalink
ได้ความรู้
ได้ความรู้เยอะเลยครับน้ำหวากก้คือน้ำตาลเมานี้เอง
ใช่ครับพี่บ้านหลังนี้มีอดีตมากมายเล่าสู่กันฟังแบ่งปันน้ำใจ![Smile Smile](http://www.bansuanporpeang.com/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-smile.gif)
แผน รณรงค์
25 พฤษภาคม, 2010 - 08:47
Permalink
ผาน หมูบ้านนี้ ผาน ๆ
ผาน หมูบ้านนี้ ผาน ๆ กระต่ายดำเหอ ผญ. ไฟเขียวส่ง ซิกว่า อย่าดังๆ (อย่าเอ็ดไป) เดี่ยวนาย(ตำรวจ)มา ....
ความจริงแล้วทุกสิ่งอันทีเป็น ภูมิปัญญาที่ดีๆของทอ้งถิ่นนั้น สังคมควรที่จะอนุรักษ์ เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้จักสืบทอด ถึงประเพณี วัฒนธรรม ที่เก่าแก่และดั้งเดิม เอาไว้ชั่วลูกชั่วหลาน ภูมิปํญาแต่ละอย่างล้วนมีอัตลักษณ์ ของตัวเอง แต่ก็ช่วยต่อยอด ให้เกิดภูมิปํญญาด้านอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก เหมือน ระบบนิเวศน์แห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่เดีย่วนี้ เจ้าของหรือต้นตำรับแห่งภูมิรู้เหล่านั้นเริ่มล้มหายตายจากหรือไม่ก็ขาดผู้รับช่วงต่อ ...หมายถึง ระบบนิเวศน์ทางภูมิปัญญา กำลังจะล่มสลายลงไป แล้วสังคม จะอยู่รอดได้อย่างไร ถึงอยู่รอดก็ขาด องค์ประกอบหลักคือ ...ความสุขของชุมชน..นั่นเอง
ตามรอยพ่อคิด ด้วยวิถีชีวิต ที่เพียงพอ
หน้า