น้ำมันราคาแพง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้มารายงานต่อจากบล๊อกนี้ครับ http://www.bansuanporpeang.com/node/25060ริ่มกันเลยนะครับ  

 

บทที่ 1 น้ำมันมีเต็มแผ่นดินไทย แต่ราคาแพงที่สุดในโล


-พ.ศ. 2461

ชาวบ้านฝาง จ.เชียงใหม่่  พบน้ำมันผุดขึ้นมาบนผิวดิน  เจ้าเมืองเชียงใหม่ทราบข่าว  จึงสั่งขุดบ่อเพื่อเก็บน้ำมันไว้  ซึ่งเรียกว่า "บ่อเจ้าหลวง"

 

-พ.ศ. 2501

เจาะน้ำมันที่ลานกระบือ  จ.สุโขทัีย

 

-พ.ศ. 2516 - 2517 

เกิดวิกฤตการณ์น้ำมันขาดแคลน  รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายสัญญา  ธรรมศักดิ์  นายกรัฐมนตรี จึงได้เริ่มสำรวจน้ำมันภายในประเทศทั้งบนบกและในทะเล

 

-พ.ศ. 2520 

เมื่อพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยจึงได้จัดตั้ง  องค์การก๊าซธรรมชาติแห่งประเทศไทย (อกธ) เพื่อพัฒนาก๊าซธรรมชาติในอ่า่วไทย

 

-29 ธันวาคม 2520

รัฐบาลได้ตรา  พ.ร.บ. การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เพื่อนำก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากอ่าวไทยมาใช้

 

-พ.ศ. 2521-2525

ปตท. ได้ทำท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย  "แหล่งเอราวัณ" มาจังหวัดระยอง ใช้ก๊าซธรรมชติผลิตไฟฟ้าที่บางปะกง

 

-พ.ศ. 2526-2530

สร้างโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 1 ที่จังหวัดระยอง  และสร้างคลังก๊าซ  LPG อีก 6 แห่ง  สำหรับโรงกลั่นน้ำมันมี 3 แห่ง

 

-พ.ศ. 2531 -2535

ผลิตน้ำมันไร้สารตะกั่ว  มีโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง  เป็น  5 แห่ง  โรงงานแยกก๊าซเพิ่ม เป็น 6 แห่ง

 

                  น้ำมันบนบกและในทะเลจำนวนมาก  จนสามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 มีผู้คนสนใจที่จะค้าน้ำมันกับ  ปตท. มากขึ้น  เพราะ  ปตท.  สามารถผูกขาดการค้าน้ำมันไว้ในมือแต่เพียงผู้เดียว

 

                  เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2544 พันตำรวจโททักษิณ  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี  ได้ออกกฏหมายแปรรูปวิสาหกิจ  ปตท.  ถูกแปรรูปโดยให้รัฐบาลถือหุ้น  51%  เอกชนถือหุ้น  49%  หุ้นเอกชนมีจำนวน  800 ล้านหุ้น  ขายหมดภายใน  1  นาที 30 วินาที  (มีพิรุธไม่โปร่งใส)

 

                 
                  ปตท.  เริ่มแสดงอาการเป็น 18 มงกุฏฝังเพชร  ฉ้อโกง และปล้นประชาชน

 

การสำรวจน้ำมันโดยดาวเทียม

 

                  1.สำรวจโดยดาวเทียมรอบแรก  เมื่อปี 2518 พบลักษณะคล้ายจะมีน้ำมันมากในประเทศไทย

 

                  2.สำรวจดาวเทียม  ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2540 พบว่า  ประเทไทยมีน้ำมันทั้งบนบกและในทะเล 50,000 แหล่ง  เจาะดูดขึ้นมาใช้แล้ว  470 หลุม บนบกพบแหล่งน้ำมันจำนวนมาก

 

                  3.แหล่งน้ำมันมี  50,000 แหล่ง  กระจายอยู่เต็มแผ่นดินไทย  แต่มีมากที่สุดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  น้ำ้มันอยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณ  1.5 - 4.5 กม. เช่นที่วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ อยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณ  800  หลา ไม่ถึง 1 กม.  ดังนี้เป็นต้น

 

                    การเจาะสำรวจน้ำมันว่ามีน้ำมันหรือไม่  มีความเสี่ยงว่าจะไม่พบน้ำมัน 30 %

                    ก.  เมื่อ พ.ศ. 2553 เจาะสำรวจบนบก  30  หลุม  พบปิโตรเลียม 21 หลุม  คิดเป็น 70 %

                    ข.  ขุดเจาะในทะเล  35  หลุม  พบปิโตรเลียม 25 หลุม  คิดเป็น  71 %

                    ค.  ถ้า  50,000 หลุม  พบน้ำมัน  71 % จะมีน้ำมัน  35,000 หลุม  เป็นอย่างน้อย

 

                   4.ในทะเล รัฐบาลได้แบ่งแหล่งเพื่อการสำรวจน้ำมันไว้แล้ว  35  แหล่ง  เพื่อสะดวกต่อการเรียกชื่อแหล่ง  เช่น  แหล่งเอราวัณ, บรรพต, มรกต, บัวหวง, สงขลา เป็นต้น การแบ่งแหล่งในทะเล 35 แหล่งนี้กำกำหนดหลุมไว้เจะสำรวจ ไทยพบหลุมน้ำมัน 4,400 หลุม เจาะสำรวจแล้ว 1,900 หลุม

 

                             ในทะเลกำหนดหลุมไว้เจาะสำรวจกว่า  3,660  หลุม  แต่ะละแหล่งมีจำนวนหลุมไม่เท่ากัน  สาเหตุเพราะการสำรวจทางดาวเทียมว่ามีน้ำมันอยู่จุดใดบ้าง  บางแหล่งมีหลุมเจาะมากถึง  481  หลุม  258  หลุม  263  หลุม  เป็นต้น

                    หลุมที่กำหนดไว้แล้ว    3,660  หลุมนั้นได้เปิดผลิตแล้ว  1,483  หลุม

 

                   5.บนบก รัฐบาลได้แบ่งแหล่งบนบกเพื่อการสำรวจ  21  แหล่ง ในจำนวนนี้มีหลุมเจะสำรวจ  275  หลุม  และเปิดผลิตน้ำมันแล้ว  544  หลุม

 

                    รวมทั้งประเทศแบ่งแหล่งไว้เพื่อการสำรวจ  56  แปลง  จำนวนหลุมที่เจาะสำรวจ  4,374  หลุม  ได้เปิดผลิน้ำมันแล้ว  1,997  หลุม

 

                     6.การสูบน้ำมันเพื่อใช้ในประัเทศ

                            ปริมาณน้ำ้มันและก๊าซที่ผลิตได้

                            1.  น้ำมันดิบ                              141,579         บาร์เรล/วัน

                       2.  ก๊าซธรรมชาติ                             3,114.86    ล้าน  ลบ.ฟุต/วัน

                           เทียบปริมาณเท่าน้ำมันดิบ             543,233         าร์เรล/วัน

                       3.  ก๊าซธรรมชาติเหลว                     80,687          บาร์เรล/วัน

                           เทียบปริมาณเท่าน้ำมันดิบ               73,393         บาร์เรล/วัน

                           รวมปริมาณการผลิต                   758,205          บาร์เรล/วัน 

 

                           7.ปริมาณน้ำมันและก๊าซที่ใช้ในประเทศรวม 100 ล้านลิตรต่อวัน

                         - น้ำมันดีเซล             ใช้  50  ล้านลิตรต่อวัน

                         - น้ำมันเบนซิน            ใช้  20  ล้านลิตรต่อวัน

                         - น้ำมันเครื่องบิน          ใช้  5   ล้านลิตรต่อวัน

                         - น้ำมันเตา                ใช้  10  ล้านลิตรต่อวัน

                         - ก๊าซ  NGV              ใช้  7   ล้านกิโลกรัมต่อวัน

                         - ก๊าซ  LPG               ใช้  8   ล้านกิโ่ลกรัมต่อวัน

 

                       8.การส่งออก

                               8.1  น้ำมันดิบ ชนิดเบา  (คอนเดนเสท)  24 ล้านลิตรต่อวัน

                          8.2  น้ำมันสำเร็จรูป  (ดีเซล-เบนซิน)  จากโรงกลั่นของไทยวันละ  70  ล้านลิตร

                          8.3  ก๊าซ    LPG   ไปขายเขมรและเวียตนาม  วันละ  200,000  กิโลกรัม


                      9.ราคาต้นทุนการผลิตน้ำมันจากแผ่นดินไทย

                         9.1 สูบน้ำมันดิบจากหลุม  ราคาลิตรละ  60  สตางค์

                         9.2 ค่าภาคหลวง  ราคาลิตรละ  1.40  บาท

                         9.3 ค่าขนส่งจากปากหลุม  ส่งถึงโรงกลั่นไทย  ราคาลิตรละ  1  บาท

                         9.4 ค่าการกล่น ราคาผลิตน้ำมัน  ลิตรละ  1.60  บาท

                         สรุป  ต้นทุนเบื้องต้นการผลิตน้ำ้มัน  ลิตรละ  4.60  บาท

 

                     10.ขายให้คนไทยแพงกว่าขายไปต่างประเทศ  คือ


                            10.1 ขายให้คนไทย  เอาราคา  สิงคโปร์  ตั้ง

                             คือ   เอากำไร  ลิตรละ            18.40        บาท

                             บวต้นทุนจริง  ลิตรละ            4.60        บาท

                                       ราคารวม               23.00      บาท  (ราคาสิงคโปร์)

                       10.2  รวมภาษีแล้วราคาหน้าปั๊ม  ดีเซล  30  บาท   เบนซิน   43   บาท

                            10.ขายไปต่างประเทศ

                                      -น้ำมันดิบ  ลิตรละ  14  บาท  ปริมาณ  24  ล้านลิตต่อวัน

                                      -น้ำมันสำเร็จรูป  (ดีเซล-เบนซิล)  ลิตรละ  17  บาท  ปริมาณ  70  ล้านลิตรต่อวัน

                       11. ค่าภาคหลวงที่ปากหลุม  คิดราคา  5-15%  แต่เก็บจริงโดยเฉลี่ย  8%  แต่ต่างประเทศทั่่วโลกเก็บค่าภาคหลวง  70-90%  และค่าอาชญาบัตร  (ค่าสำรวจ)  ฟรี  แต่เมื่อสูบน้ำมันขึ้นมาแล้วให้รัฐแค่ 8 %  เป็นค่าภาคหลวง

 

                   12.ผู้เป็นเจ้าของบ่อน้ำมันร่ำรวย  แต่ชาวบ้านอยู่ข้างๆ บ่อน้ำมันยังยากจน

 

                      13.เศรษฐีน้ำมันมีไม่ถึง  10  ตระกูล  ที่ร่ำรวยมหาศาล  แต่คนไทย  65  ล้านคนมีหนี้ท่วมหัวทุกครัวเรือน

 

                      14.ราคาน้ำมันเบนซิน  ของไทย  แพงที่สุดในโลก

                                   ไทย              45       บาท

                                   มาเลเซีย        19       บาท

                                   พม่า              26       าท

                                   บรูไน               6       บาท

                                  อเมริกา           29       บาท

 

            ประเทศไทยได้ชื่อว่า  ซาอุดิอาระเบียแห่งตะวันออกไกล  หมายความว่า  มีน้ำมันเต็มแผ่นดิน

 

มีคำถามว่า  เมือมีน้ำมันมากเช่นนี้ ทำไมน้ำมันจึงแพงกว่าประเทอื่นๆ  หลายเท่า  คำตอบก็คือ  เพราะ  ปตท.  ผูกขาด  และฉ้อฉล  ปั่นราคาน้ำมันขึ้นด้วยกลวิธีกลโกงต่างๆ 

 

ขอชิญติดตามตอนต่อไป

ความเห็น

ได้ยินอยู่บ่อยๆว่าประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แต่ไม่เคยนึกว่าเราจะมีมากขนาดนี้ ขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลทั้งหมดค่ะ

   เราประชาชนต้องเป็นผู้ใฝ่รู้ และเรียนรู้  เพื่อที่จะรู้เท่าทันกลโกง ไม่ฉะนั้นประเทศชาติก็จะเหลือแค่กระดูก


   ขอบคุณ พุทธบุตร ครับ ข้อมูลดีมากต้องแชร์ให้ทั่วครับผม

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

สวัสดีค่ะ คุณพุทธบุตร - ทิพย์เพิ่งทราบข่าวเมื่อไม่นานมานี้เองว่า อ่าวไทยเรามีน้ำมันเยอะมากๆๆกว่า ประเทศซาอุเป็นไหนๆ ทำไงได้ล่ะค่ะ ผลประโยนช์ตัวเดียว คนไทยเลยต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงๆ ในขณะที่เราสามารถผลิตน้ำมันเองได้  :sweating: ขอบคุณมากค่ะ ที่นำเนื้อเรื่องนี้มาเล่าสู้กันฟัง

ชีวิตที่เรียบง่ายกับความพอใจในสิ่งที่มี

แพงเพราะเราไม่มีโรงงานกลั่นน้ำมันใช้เองอ่ะค่ะ เราต้องดูดน้ำมันขึ้นมาแล้วก็ส่งไปขายในราคาเท่ากับท้องตลาดที่เขารับซื้อ แล้วเราก็ต้องซื้อน้ำมันที่เขากลั่นแล้วกลับมาใช้ แล้วก็ต้องเป็นไปตามกฏ เขาขายให้ประเทศอื่นเท่าไหร่ เขาก็ขายให้ประเทศไทยเท่านั้น ตามราคาที่กำหนดไว้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำไงได้ละค่ะ ถึงแม้ว่าสมัยนี้เราจะผลิตรถยนต์แบบชาร์จแบตออกมาใช้ได้แล้วกตาม แต่น้ำมันก็ยังมีความสำคัญอยู่ดี นึกแล้วท้อใจ....

มือใครยาวสาวได้สาวเอา ปชช เดือดร้อน ปท ชาติฉิบหายไม่เกี่ยว ขอให้กลุ่มก รวยก็พอ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

หน้า