ติดค้างไว้หลายปีแล้ว ... ?

หมวดหมู่ของบล็อก: 

        โปรดทราบ ! ... โปรดทราบ ! ….

     สมช. บ้านสวน ฯ บางท่าน .... ยังจำได้ใหม ? ... ว่า เมื่อหย่อน 6 วัน จะสิ้นปี 2553 ท่านเคยอ่านบล็อก ๆ หนึ่ง ของ Paloo แล้ว มีบางท่าน ในบางท่านที่อ่านบล็อกนั้น ... ได้ Re. ขออะไรไว้ ... ?

        หากท่านลืมไปแล้ว และต้องการ Review โปรด เข้าไป (อ่านซ้ำตรงนี้) นะครับ ...

     ที่ต้องปล่อยให้เนิ่นช้า ด้วยว่า ... ข้าพเจ้ามัวเตร็จเตร่ เร่ร่อน ไร้จุดพำนักแน่นอน ประการหนึ่งละ กอปรกับ Pc. ที่เคยใช้มาหลายปี มีอันดับไป เยียวยาอย่างไรก็ไม่ฟื้น ... จะหาใหม่รึ ... ตริแล้ว เห็นว่าช่วงนั้นจะใช้ประโยชน์ไม่คุ้มนัก ... ทั้ง ๆ ที่ใคร่พบปะ สมช. แต่ก็อดใจพักไว้ก่อน ... ในช่วงดังกล่าว จึงไม่ปรากฎ บล็อกของ Paloo

     ณ บัดนี้ ... ได้ Pc. ตัวใหม่มาแทนตัวเก่าแล้ว ... แม้จะมีเวลาพำนักที่ ‘คอนฐม’ ไม่นานนัก… แต่ ได้เก็บและเตรียม ภาพไว้ใน Gallery พร้อมมานานพอควร ... จึงตัดสินใจนำเสนอให้เสร็จ ก่อนที่จะ เร่ร่อนลงใต้ ในเร็ว ๆ นี้

     ที่เพ้อเจ้อมาซะยาว ท่านจะตัดสินว่าเป็นข้อแก้ตัว ... แต่ ข้าพเจ้า แม้ไม่โต้แย้ง ด้วยว่าจะมากความ แต่ก็ขอ “ภาคเสธ” ไว้ก่อนล่ะ

     สาระ ... เอ่ ... มีสาระรึเปล่าก็ไม่ทราบซี ... ? เอาเป็นว่า เรื่องที่จะนำเสนอต่อไปนี้ อาจยาวพอควร แต่ครั้นจะแยกเขียนเป็น 2 บันทึก ... อาจทำให้เนื้อหาไม่ต่อเนื่อง แล้วจะก่อความ อิหลักอิเหลื่อ ให้แก่ท่านที่ต้องการนำไปใช้ฝึกปฏิบัติจริง จึงขออนุญาตนำเสนอ ชนิดม้วนเดียวจบ ไม่ต้องมี series ให้ต้องเฝ้าติดตาม ...

    เอ้า ... เริ่มละนะ ...!

     จากบล็อกที่อ้างถึงข้างต้น ... พอเห็นภาพนี้ ... ท่านคงเดาได้ว่า ข้าพเจ้าต้องการนำเสนอ ต้นไม้ต้นใด  ...

    ถูกต้อง ครับ ... มะพร้าวนั่นแหละ ... ส่วน กล้วย ... เงาะ และหมาก เอามาเป็นตัวแสดงประกอบ ให้พระเอกโดดเด่น แค่นั้นเอง

     ท่านคงคิดว่า … ‘อีตาลุงนี่ เอาภาพมะพร้าวต้นนั้น มาให้ดูเฉย ๆ ... แต่คงไม่ปีนขึ้นไปหรอก ...’ ครับ ... ถูกเผง ... ก็ข้าพเจ้า ไม่ใช่ลิง ... แถมแก่ จะหงำเหงือก อยู่รอมร่อ จะปีนได้ไงไหว

 

 

 

 

 

    แต่ข้าพเจ้า เก็บเอาส่วนที่เขาโยน ... อ้อ ... ไม่โยน แต่ ปลดทิ้งอย่างไม่สนใจใยดี ที่เห็นนี่แหละ ... มาใช้ ไม่ต้องปีน

 

 

 

 

 

 

   บุกหญ้าเข้าไปตัดเอา เฉพาะก้าน ... อ้อ ... ขออภัย ที่ตอนนี้ ใบ เขาติดก้านมาด้วย ... ช่างมันเหอะ ไม่มีเวลาขอร้องให้ใบ สละก้าน ... ก็ยุงมันชุม ... ตอนเข้าไปตัด เสื้อก็ไม่ได้สวมซะด้วยซี

 

 

 

 

 

     ข้าพเจ้า หอบใบและก้านที่ตัดได้ ออกมาพ้นพื้นที่ยึดครองของ ยุง และมดคัน ... ส่วนท่าน จะหอบ จะหนีบ หรือทำอย่างไรก็ตามถนัดละกัน ...

     แล้ว เลือกก้านที่สมบูรณ์ เลาะใบบางส่วนออกจากก้าน ... ด้วยกระบวนท่าใดก็ได้ตามถนัด จะเหลือใบที่รักก้านไม่ยอมออกอยู่บ้าง ก็ช่างเขา

 

 

 

 

     เลือก และ เลาะแล้ว ... นะเนี๊ยะ

 

 

 

 

 

     จัดหา วัสดุที่จะต้องใช้ มาเตรียมไว้ให้พร้อม จะได้ไม่ต้องวุ่นภายหลัง ได้แก่ ... ใครอยากได้อ่อน ก็ไม่ผิดกติกา นะครับ

 

 

 

    - เชือก ... ซึ่งเชือกอะไรก็ได้ ตามที่หาได้ แต่ ‘ไม่ควรใช้’ ประเภทแพ้ไฟ ... สำหรับข้าพเจ้า ... ล่า ‘ย่านขี้เดือน’ ซึ่งเป็นเถาวัลย์วัชพืชในสวน มาใช้ ...

   อุปกรณ์ ... มี มีด หรือ พร้า คม ๆ ... หากท่านมี กรรไกรตัดแต่งกิ่ง จะเอามาใช้ สักอันก็ได้ ไม่ว่ากัน

 

 

 

 

วัสดุ อุปกรณ์ พร้อม ...

ลงมือปฏิบัติ ... พราก ใบ ไปจาก ก้าน

 

 

 

 

     จดทะเบียนหย่า ... สร้างความเป็นโสดให้ก้านใบ เรียบร้อย ...

        อุตส่าห์ใจดี ... เอามาวางให้ลากันครั้งสุดท้าย ... แต่เขาไม่ ร่ำ นะ

 

 

 

 

 

     ก่อนเข้ากระบวนการสาน ขออนุญาต บอกกล่าวกันสักหน่อย ว่า ...

        ‘เสวียน’ ... ประกอบด้วยโครงสร้าง 3 ส่วน คือ ... ตัวเสวียน ... ก้นเสวียน และ ฐานเสวียน

     ดังนั้น หลักการสาน ‘เสวียน’ ... ต้องเริ่มต้นจากการสาน ‘ก้น’ เป็นลาย “ตาชะลอม” ซึ่งมี 6 ด้านก่อน ... แล้วค่อย ตามด้วย ‘ตัว’ และ ‘ฐาน’ ตามลำดับ

     ซึ่งเมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว เราจะเริ่มเตรียมคัด แยก ก้านมะพร้าวที่เหลาไว้ ออกเป็นชุด ๆ จำนวน 6 ชุด ... โดยกำหนดว่า จะใช้จำนวนก้านมะพร้าว กี่ก้านเป็น 1 ตอก ... และกี่ตอก เป็น 1 ชุด

     ซึ่งทุกชุด จำนวนตอก “ต้องเท่ากัน” และ แต่ละตอก จำนวนก้าน ... ย้ำ ‘จำนวน’ นะครับ ไม่ใช่ ‘ขนาด’ ต้องเท่ากัน  ...

       สรุปว่า เสวียน 1 ใบ จะมี 6 ด้าน (ชุด) ... แต่ละชุด ต้องมี จำนวนตอก เท่ากัน ... และ แต่ละตอก ต้องมีจำนวนก้าน เท่ากัน

     ตามตัวอย่างที่สานมาให้ดูนี้ ... ข้าพเจ้า ใช้ก้านมะพร้าว 4 ก้าน ต่อ 1 ตอก ... สี่ตอก ต่อ 1 ชุด ... จึงต้องใช้ก้านมะพร้าว 16 ก้าน ต่อ ชุด

                 หายงงแล้ว เริ่ม คัดเลือกก้านมะพร้าว เป็นชุด ๆ นะครับ ... เอ้า เริ่ม ...

 

     จากภาพ ด้านล่างนี้ ... จะสังเกตได้ว่า การคัดเลือก เราไม่สนใจความอวบ สวย แต่เรามุ่งไปที่ความสูง ... เอ้ย ... ยาวของก้านมะพร้าว เป็นสำคัญ ซึ่งท่านจะใช้ ... มหาลัย ... เทคนิค ... อาชีวะ ใด ๆ ที่ถนัดได้ตามชอบ แต่ ข้าพเจ้าตั้งกลุ่มก้านมะพร้าวทั้งหมดขึ้น ... กระแทกส่วนโคนให้เสมอกัน ... รวบส่วนปลายของก้านที่สูง ออกมาจำนวนหนึ่ง ได้เท่าใด ไม่ serious ... ได้แล้ว นำไปเรียงเป็นกอง ๆ 6 กอง ... หมดแล้ว ทำวิธีเดิมอีก จนแต่ละกอง มีก้านมะพร้าว ครบ 16 ก้าน

      แต่ที่ท่านเห็นจากภาพด้านบนนั้น มี 7 กอง ... โปรดอย่าได้สงสัย ... กองไกลสุดเป็นส่วนเกิน หลังเรียงก้านไป 3 รอบแรก ... เรียงแล้วเหลือจำนวนไม่ถึง 6 ก้าน ... จึงวางแยกไว้ รอรวมกับก้านที่จะคัดความยาวครั้งใหม่ จะได้ความยาวของก้าน แต่ละชุด ใกล้เคียงกัน

 

 

 

 

      คัดได้ก้านมะพร้าว ครบจำนวน ที่ต้องการ แล้ว ... ขั้นต่อไป

        นำ แต่ละกลุ่ม มาสานขัดกันเป็นลาย ‘ตาชะลอม’ ดังภาพที่เห็นนี่แหละครับ

 

 

 

 

     เมื่อสานครบ 6 ชุดตอก และแผ่ให้ก้านมะพร้าวเรียงก้านออก เราจะได้ ลายตาชะลอม 6 เหลี่ยม แต่ทั้งหมด ยังเรียงติดกันเป็นพืด

 

 

 

 

   เราจึง ต้องแยกก้านออกเป็น ‘กลุ่มตอก’

     จากภาพ จะเห็นว่า 1 กลุ่มตอก ประกอบด้วยก้าน 4 ก้าน ... แล้ว สานขัดตอกไว้ ดังรูป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     ภาพนี้ จะเห็นว่า จัดแบ่งกลุ่ม และขัดตอก เสร็จไปแล้ว 4 กลุ่ม ... ซึ่งที่เหลืออีก 2 กลุ่ม ก็ต้องทำลักษณะเดียวกัน

 

 

 

 

 

     หลัง แบ่งกลุ่ม ขัดตอก ครบทุกด้านแล้ว ... ก็จัดตอกเพื่อกำหนดขนาดของเสวียน และ ความสวยงาม

จะเห็นว่า รูก้น ... แฮะ ๆ ๆ ... ก้นเสวียนนาคราบ ... มีขนาดเล็กลง และเริ่มสวย

จัดจนได้ ขนาด และความงาม ตามรัดดวง (ตามต้องการ)

 

แล้วให้พลิก ด้านล่าง (ด้านโคนก้าน) ขึ้นมา เอาเชือกที่เตรียมไว้  สอดระหว่าง ส่วนโคน กับ ปลายก้าน ... โดยสอด วน จนรอบ ดังรูปล่างนี้

 

 

 

 

     รอบแล้ว รัด ดึง ให้ตึง ... สอดปลาย ตีเกลียว พันไปรอบ ๆ ... ชอบกี่รอบก็ตีเกลียวเอา ... แต่หากมากรอบ จะเทอะทะ นะ ขอบอก

 

 

 

 

 

     เสร็จจากงาน ผูก รัด ตีเกลียว ... ก็

     เข้าสู่ขั้นตอน ฉุด กระชาก ลาก ดึง ... แฮะ ๆ ๆ ๆ ... เอาแค่ ดึง ก็พอ ... ส่วน ฉุด กระชาก ลาก ไว้ค่อยใช้งานอื่นก็ละกัน ...

     คือ จับส่วนปลายตอก ดึงให้ ส่วนโคนตอก มาอยู่ในตำแหน่งใกล้ วงขอบเชือกที่ตีเกลียวไว้ ให้มากที่สุด ... โดยควรดึงจัดทีละตอก ... แต่ใครจะดึงทีละชุด ก็ไม่ผิดกติกา ... ว่าตะทำได้ บ่ล่ะ ...

 

 

 

 

    นี่เอามาให้ดูที่ดึงไปแล้ว ครึ่งหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     นี่ ! ... ดึงแล้วนะเนี๊ยะ .... ก็ความสามารถข้าพเจ้า มีแค่นี้นี่นา ... และปกติด้วยความขี้เกียจ ข้าพเจ้าจะเริ่มสานตัวเสวียนล่ะ ...

          แต่ในที่นี้ ... เดี๋ยวจะมีคนเอาไปอ้าง ... จึงยังไม่สาน แต่ ...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   ตัด แต่งโคน ส่วนที่ยื่นออกมา จนเกื่อบชิด ขอบวงเชือก ...

 

 

 

 

 

     แล้วพลิกกลับเอาด้านก้านยาว ... ไม่ใช่ทุเรียนนะ ... ก้านมะพร้าวที่กำลังสานนี่แหละ ขึ้นมาข้างบนอีกหน

     จากนั้น ก็ลงมือสานส่วนที่เป็นตัวเสวียน ... ในที่นี้ ข้าพเจ้าสานด้วยลาย “ขัดสาม” ซึ่งมีหลักว่า ‘ยกสาม ... ข่มสาม’ ...

     หมายถึงว่า ในการสาน เมื่อจับตอกหนึ่ง ตอกใดแล้ว ให้เอาตอกนั้นเป็น “ตอกสาน” ... โน้มไปกด ทับ ... หรือ ลอด ตอกที่ชี้ยื่น ตอกถัดไป ... ซึ่งเราเรียกตอกที่ชี้ ยื่นนี้ว่า “ตอกยืน” ...  3 ตอก

     หลังจาก กด ทับ ไปข้างบน หรือ ลอดไปด้านล่าง สามตอกแล้ว ... ก็ให้ กด หรือ ลอด สามตอก ถัดไป ... สลับกับที่ทำมาก่อน ... สานสลับกันไป ครั้งละสามตอก อย่างนี้แหละที่ เรียกว่า “ยกสาม ... ข่มสาม”

     ในการสานจริง ๆ เราจะ ยกก่อน หรือ ข่มก่อน ก็ได้ ... สำคัญคือ ต้องยก ... ข่ม ... ยก ... ข่ม ... ฯลฯ สลับกันไป เรื่อย ๆ จนหมดตอกที่จะสาน

     งง รึเปล่า ก็ไม่รุ ... ที่แน่ ๆ คนเขียนเริ่ม งง แล้วนะเนี๊ยะ !

     การสานเสวียน ให้สานวนไปทางเดียวกันกับที่ ปลายตอกชี้วน ซึ่งขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้สาน แต่ละคน แต่ไม่เกินสองทางหรอกนา คือ ... ไม่ตามเข็ม – ก็ทวนเข็ม นาฬิกานะแหละ ฮึ ๆ ๆ ๆ ...

     ขอย้ำว่า ... ในการสาน เริ่มต้นจากตอกหนึ่ง ตอกใด  ก็ได้ (แต่อย่าลืมว่าในที่นี้ ตอกหนึ่ง ๆ เกิดจากการรวมก้าน 4 ก้านเป็น 1 ตอก)

     วิธีสาน ก็เหมือนกับการสาน กระเช้าใบมะพร้าวที่เคยนำเสนอไปแล้วนั้นแหละ (ดูเพื่อทบทวนได้จากตรงนี้ครับ)  ... เอ๊ะ ... ! ไม่เหมือนซีนะ ... ก็สานกระเช้า เป็นลายขัดแตะ ยกหนึ่ง ... ข่มหนึ่ง แต่นี่ ... ยกสาม ข่มสาม

     เอาเป็นว่า สานวิธีคล้ายกัน ... ต่างกันที่จำนวน “ตอกยืน” ที่เราจะยก ... จะข่ม คือ :- จาก ยกหนึ่ง ข่มหนึ่ง มาเป็น ยกสาม ข่มสาม ก็แค่นั้นเอง ... และอีกประการ คือ ‘กระเช้า’ เราสานย้อนทิศทางการชี้ของใบ ... ส่วน ‘เสวียน’ นี่ เราสานตามทิศทางที่ก้านชี้ไป ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น ... เอ้า เริ่มต้นสานละนะ

 

     สานตอกแรก

     - เลือกตอกหนึ่งตอกใดก็ได้ เป็น ตอกสาน ตอกแรก 1 ตอก แล้วโน้มไปข่มทับ ลงบนตอกที่อยู่ในตำแหน่งติดกัน และยังชี้โด่เด่อยู่ ... ในที่นี้เรามาตกลงเรียกเพื่อเข้าใจตรงกันว่า ตอกยืน ตอกที่ 1 และตอกลำดับถัดไปว่า ตอกยืนตอกที่สอง ... ที่สาม ... ตามลำดับ ... รวมสามตอก

     - หลังกดทับลงบนตอกยืน ทั้งสามตอกแล้ว ให้เริ่มมุดตอกสานลง ระหว่าง ตอกยืนตอกที่ 3 กับตอกที่ 4

     - เมื่อมุดตอกสานลงในตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ให้ ‘สอดลอด’ ตอกที่ 4 ... 5 และ 6 (รวม 3 ตอก)

     - หลังจากมุดจนเบื่อ ... โอ๊ะ ! ... จนครบ 3 ตอกแล้ว ... ก็ดึงมัน ... อ้อ ... ไม่ใช่มันซีนะ ... ดึงตอกเส้นเดิมนั้นแหละ ขึ้นมาในช่อง ระหว่าง ตอกที่ 6 กับ ตอกที่ 7

     - เอาขึ้นมาแล้ว ดึงไปพาดกด ทับ ไปบนตอกยืนลำดับถัด ๆ ไป อีก 3 ตอก คือ ตอกที่ 7 ... 8 และ 9 แล้วมุดลงอีกครั้ง ระหว่าง ตอกที่ 9 กับ ตอกที่ 10 ... จับปลายรวบดึงเข้าไว้ด้านล่างก้นเสวียน ... แล้วสานตอกที่สอง

 

     เริ่มสานตอกที่สอง ละนะตอกสาน ตอกที่สอง คือ ตอกยืนตอกแรกที่ถูกเราสาน กดข่ม ในขั้นตอนเริ่มต้นสานตอกแรก นั่นแหละ ... ไง ... งง ป่ะ ? ... ซึ่งต่อไปนี้ จะถูกเปลี่ยนหน้าที่ จากตอกยืน เป็นตอกสาน ... ดัดสันดาน ให้รู้จักอ่อนน้อม ประนีประนอม เข้ากับคนอื่น ๆ เขาได้ .... เอ๊ะ ! พูดไรไปเนี๊ยะ ... คือตั้งใจจะบอกว่า ให้อยู่บนตอกอื่นก็เข้ากันได้ ... จะให้อยู่ล่าง ก็เข้ากันสนิทดี ... 

     วิธีสานเหรอครับ ? ... ก็วิธีเดียวกับตอกแรกนั่นแหละ ... เพียงไล่ลำดับ นับตอกนี้ เป็นตอกสาน ... ตอกที่เคยเป็นตอกยืน ตอกที่ 2 ตอนเราสานตอกแรก ก็จะได้รับการเลื่อนชั้น มาเป็นตอกยืน ตอกที่ 1 ... แทนตอกยืนตอกที่ 1 ที่เรากำลังจะใช้เป็นตอกสานตอกที่ 2 ไงล่ะครับ

     และตอกยืนตอกอื่น ๆ ... ก็เลื่อนขึ้นมา 1 อันดับ ไล่ ๆ กันไป ... เอ .... ? เลื่อนขึ้น รึลงกันแน่นะเนี๊ยะ ... งง แล้วซี ...

     ช่างเหอะ ... เอาเป็นว่า เอาตอกที่จะสานใหม่นี้ ... สานพาดทับไปข้างบนตอกยืนลำดับถัดไป สามตอก ... แล้ว ‘ลอดลง’ ระหว่างตอกยืน ช่องถัดจากที่เคยสานไว้แล้วก่อนหน้านี้ ... มุดไปข้างล่าง สามตอก อย่างตอกแรก แล้ว โผล่พาดทับ ไปสาม แล้ว มุดลง ... รวบปลายดึงรวมไว้กับ ตอกสาน ตอกก่อนหน้านี้

     สาน ตอก 3 ... 4 ... 5 ... ฯลฯ. ด้วยวิธีเดิม ... ไล่ลำดับไปเรื่อย ๆ ...

     จนเหลือ ตอกยืน 9 ตอก ก่อนจบการสาน ... ถึงตอนนี้ เราอาจงง เมื่อเอาตอกยืนตอกนี้ เป็นตอกสาน เพราะไม่รู้ว่าจะสานมุดลงตรงไหน ? ... ด้วยตอกยืนที่จะข้าม เหลือเพียง 2 ตอก ... หาตอกยืน ตอกที่ 3 ไม่เจอ ... ก็ อย่าเครียด ครับ ไม่ต้องเครียด  ... เราก็เอา ‘ตอกสาน ที่เริ่มต้นสานตอกแรก’ เป็นตอกยืน ซะซีครับ

     คือ เรา มุดตอกสาน ตอกนี้ ลงระหว่าง ตอกสาน ตอกแรก กับ ตอกสาน ตอกที่สอง ไงล่ะครับ

     หากงง  กลับขึ้นไป คลิ๊กดูวิธีสานกระเช้า ที่ Link ไว้ให้ข้างบนซีครับ ... วิธีเดียวกันเด๊ะเลย ...

 

 

 

 

     สานเสร็จ ... ก็จะออกมารูปร่าง ขี้เหร่อย่างนี้แหละ ครับ ... ก็ยังไม่ได้ผ่าน  Couse ดัดจริต ... เฮ้ย ! ... ม่าย ... ช่าย ... หมายถึงยังไม่ได้ ดึง จัดรูปร่าง ตะหาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

    จับปลายตอกไล่ ดึง ดัด จัด ... ตามละดับ จนเข้ารูป ... ดูดีขึ้นป่ะ ? ...

   หากจะดัดแปลงเป็น ถาดใส่ผลไม้ ก็จัดซะตอนนี้แหละ

   ตอกที่เห็น เหลือรุงรังอยู่อย่าตัดทิ้งซะนะ !

 

 

 

 

     หน้าตาดูดี ... แต่ขากุด ! ... เอาป่ะ ?

     หากไม่เอา ... ก็มาเข้ากระบวนการสร้างขา ... ?

 

 

 

 

     โดย พลิกคว่ำลง ... แล้วสานก้น ด้วยตอกรุงรัง ที่บอกว่าอย่าตัดทิ้งนั่นแหละ ...

     การสาน ก็ใช้กระบวนการเดียวกับการสาน ตัวเสวียน นั่นแหละครับ ... แต่ เราสานด้วย “ลายขัดสอง” คือ สาน ‘ยกสอง ... ข่มสอง’ … สานไปจนหมดตอก ... ปลายตอกที่เหลือย่าตัดทิ้งนะครับ 

 

 

 

 

 

 

 

   ที่ไม่ตัดทิ้ง ... เพราะเราเอาไว้ ‘ถักเปีย’ เก็บไว้ระหว่าง ตัวเสวียน กับก้นเสวียน อย่างนี้ไงครับ ซึ่งนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังช่วยป้องกันการถอด คลายตัว ของก้านประกอบตอกด้วยครับ

 

 

 

 

     เอาละครับ เป็นอันเสร็จ กระบวนการสาน “เสวียน” ...

     แต่ท่านอาจรู้สึกรกลูกหู ลูกตา ... โอ๊ะ ! ผิดอีกละ ... รกลูกตาอย่างเดียว ... ลูกหูไม่เกี่ยว ... ด้วยว่า ... ยังมีปลายหนวดก้านตอก โผล่ให้เห็นหรอมแหรม อยู่ ... ก็ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาตัดหรอกครับ ... เพียงท่านนำไปลนกะเตาไฟ ขนเหล่านั้น ก็อันตรธาน ไปในไม่ถึงอึดใจ ... ถึงได้บอกไว้ในตอนต้นว่า ... “ไม่ควรใช้เชือก ประเภทแพ้ไฟ"

 

 

 

 

 

 

                  นี่ ... เห็นไหมครับ ....

 

 

 

เอาแถมให้ดูเล่น ๆ อีกรูป บางใบ จัดรูปร่าง เป็นถาดใส่ผลไม้ ... ใบไหนคงเห็นเนาะ ...

 

 

     บล็อกนี้ ... ไร้บท ลงท้าย และบทสรุป ใด ๆ ทั้งสิ้น ด้วยว่า แค่นี้ก็ยาวซะไม่มี ล่ะ ... ทั้งผู้อ่าน และผู้เขียน คงเบื่อจะแย่ละ

     ใคร่ขอฝากนิดเดียวว่า ... “วัสดุใกล้มือ ... ไม่ต้องซื้อ ... แค่ว่าง ๆ ก็จัดหา ... จะช่วยเราเชือดคอเวลา และสร้างมูลค่า ดีกว่าซื้อ ๆ ๆ และซื้อ .." ครับ

ความเห็น

   ค้างไว้นาน ... เกือบบูด

    Pc. เคร่ื่องเกา หมันเเสี้ย ... ม้ายเบี่ยเส่อเครื้องใหม้ ... 5555

ประโยชน์จากวัสดุใกล้ตัว ดีจังครับSmile

“นานุวัฒน์ ทำเกษตรให้สนุกและมีความสุข”

 จะมองมัน เฉย ๆ .. หรือ เห็นเป็นขยะ ... หรือเห็นเป็นประโยชน์ ก็อยู่ที่เรานี่แหละครับ

     ขอบคุณครับ ... ที่มองเห็นว่ามันยังมีประโยชน์

สุดยอดค่ะลุง  ยังไม่รับปากว่าจะพาเด็กทำ แต่ชอบใจมากค่ะ ครูคงต้องฝึกทำก่อนใช่ไหมค่ะ จึงจะสอนเด็กทำได้ ขอบคุณความรู้ที่ให้เป็นวิทยาทานค่ะ

ขอบคุณมากครับ

     ถูกต้องครับป้า ... เราเองยังทำไม่ได้ ... ทำไม่เป็น .. ไปบอก ไปสอนเขา เกิดปัญหาขึ่นมา แก้ไม่ได้ทั้งผู้สอน ผู้เรียน ... ก็พากันเข้ารกเข้าพงกันไปใหญ่แหละครับ

Surprised ฝีมือล้วนๆ ข้าน้อยขอคารวะ อิอิ Smile

หน้า