ไปแหล่งสูดโอโซนอันดับ7ของโลกที่วังน้ำเขียวมา

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ไปแหล่งสูดโอโซนอันดับ7ของโลกที่วังน้ำเขียวมา

 

     อิจฉาดงดมที่อยู่ไกลกว่ายังได้ไปพอปลีกงานได้ก็กระโดดขึ้นรถพรรคพวกไปกันเชียวเราไปเส้นทางเขาใหญ่ไปวังหมีแวะกินข้าวร้านเล็กๆติดปั๊มน้ำมันเจอเพื่อนครูที่นั่นพึ่งรู้จักกันแต่อัธยาศัยไมตรีดีมากขอชม..คุยกันถูกคอเราบอกวันหลังพี่ขอผอ.มากางเต้นท์นอนในโรงเรียนได้มั้ย  เพื่อนบอกได้เลยเพราะทุกปีจะมีหลายบริษัทที่นำพนักงานมาทำกิจกรรมและพักผ่อนกันเป็นประจำในหน้า High คือช่วงหน้าหนาว ที่นี่เราพักที่รีสอรทเล็กๆน่ารักชื่อ ณ ปลายนา ชอบอัธยาศัยของคุณสาเจ้าของ  

อากาศที่นี่ก็เหมือนกับบ้านเราแต่กลางคืนจะเย็นกว่านิดๆเราหลับสบาย  เช้ามีหมอกหนาจนมองไม่เห็นภูเขาสายๆหน่อยหมอกคลายค่อยเห็นฉากหลังเป็นภูเขา เช้าหลังจากจิบกาแฟและเชคเอาท์ เราไปกินข้าวร้านเดิมเป็นข้าวต้มและต้มเลือดหมูร้อนๆรสชาติอร่อย แล้วเราก็นั่งรถไปเที่ยวต่อไปแวะตามรายทางมีจุกชมวิวและรีสอร์ทมากมายตามหุบเขาสูงต่ำเราแวะเข้าห้องน้ำที่จุดชมวิวเขื่อนลำพระเพลิง ซื้อเห็ดหอมสดที่นี่

 

ไปต่อสวนดอกหน้าวัวสุชาดาที่นี่เขาปลูกองุ่น ผักไฮโดรโปรนิค และกล้วยไม้ป่า มีที่พักหลายหลัง

จากนั้นเราก็ขับรถข้ามไปอีกฝั่งคือไปตำบลไทยสามัคคีแวะซื้อของที่เพิงขายของข้างทางที่ยาวเป็นแนว เห็ดสดอีกมีทั้ง เออรินจิ เห็ดหอมผักสดๆจากไร่พุดทรานมสด องุ่น เราเข้าไปดูร้านไม้ดอกและสวนลุงไกร

 

ที่นี่ดีมากตรงมีป้ายบอกทางชัดเจนดีและเยอะยะไปหมดเวลาถามทางผู้คนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส อาจเป็นได้มั้ยว่าพออากาศดีผู้คนเลยใจเย็นใจดี  ส่วนราคาของกินผักผลไม้ก็เป็นราคาปกติทั่วๆไปของแหล่งท่องเที่ยว  มีรีวิววังน้ำเขียวของดงดมติดตามที่http://www.bansuanporpeang.com/node/5717และอีกเวบhttp://www.thaiweekender.com/index.php/wangnamkaew.html

ความเห็น

มันโล่งตาสบายตัวดีค่ะแจ้ว  มีภาพสวยๆจากรีวิววังน้ำเขียวของท่านอื่นอีกติดตามที่นี่ค่ะ..ท่านถ่ายรูปได้สวยมาก


http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rainynight&month=17-11-2008&group=7&gblog=8

สวยมากคะ  ขอตามไปเที่ยวด้วย

ตามมาเลยค่ะขอบคุณที่ติดตาม  หัวหกก้นขวิดกับเราด้วย

น่าไปพัก  อากาศดี

เหมาะสำหรับขาลุยๆค่ะป้าเล็ก...คนแพ้หญ้าแพ้ละอองพืชต้องระวังแต่เหมือนสวิสอย่างท่เขาว่านะคะ..มันสบายตาดีอย่างนี้ค่ะ


ขอบคุณภาพจาก fm เย็นตาโฟดอทคอม

ดูแล้วสดชื่นจริง ๆ ต้องหาโอกาสไปให้ได้

ดิฉันก็เป็นคล้ายๆอจ.แหละค่ะ  เห็นอะไรก็ประทับใจ ซาบซึ้งใจไปหมด  แม้กระทั่งนั่งรถชมวิวที่สวีเดนนี่ยังเคยบอกแฟนเลยว่าชอบต้นสน รักต้นไม้นานาชนิดที่นี่มาก  มันเหมือนเป็นบ้านของดิฉันเอง  เพราะรักและซาบซึ้งใจกับอะไรที่ชาวบ้านเขาเห็นว่ามันธรรมด๊า ธรรมดา หน้าบ้านขณะเขียนอยู่ก็เห็นต้นบีเยอร์ค ที่ใบร่วงเหลืองเกือบหมดโดนลมพัดพริ้ว  มันห้อยย้อยระย้าเหมือนม่านไทรเลยค่ะ  ก็สวยไปอีกแบบนะคะ

วันหลังอัพก้อนหินดินทราย ใบไม้ใบหญ้า มาให้กันแลบ้างนะคะ  ขอบคุณค่ะ

เมื่อก่อนดิฉันชอบเข้าป่ามาก  ไปหาเห็ด หาไม่เจอก็เดินเล่น  ชมวิวทิวทัศน์   ตั้งแต่ถูกเห็บมีเชื้อโรค โบเรเลีย กัดเข้า 2 ครั้ง ครั้งหลังหน้าเป็นอัมพฤกษซีกซ้าย  หูหนวกไปข้างนึง และลิ้นไม่รับรู้รส ตั้ง 3 เดือน ตอนนี้ก็ยังมีลิ้นที่ไม่รู้รสอยู่บ้าง  มันไปทำลายระบบประสาททำให้มือ-เท้าชา+เจ็บปวดแสบปวดร้อนด้วย  ก็เลยไม่กล้าไปเก็บเห็ดอีกค่ะ อีกอย่างนึงหลานชายก็แพ้เห็บมากด้วยค่ะ  โดนกัดทีแผลเหวอะหวะน้ำเหลืองไหล  เค้าก็กลัวค่ะ  น้องสาวอยากไปอีกแต่ว่าเวลาไม่อำนวย  อากาศเย็นมีฝน ลม ใบไม้ก็ร่วงเต็มไปหมด  มองไม่เห็นเห็ดแน่


คิดถึงตอนอยู่สต๊อกโฮลม์ที่มีเวลาเมื่อใดก็เข้าป่าทันที  เพราะมันอยู่ใกล้ๆบ้าน  ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง  ป่าที่นั่นทุกป่าก็มีที่จอดรถสะดวกแก่การไปเก็บเห็ด  พอย้ายมาอยู่ชายฝั่งตะวันตก  หาทางเข้าป่ายากมากเพราะที่ดินของชาวนา กั้นไว้ต้องเป็นคนแถวนี้จึงจะรู้ทางเข้าป่า  ไม่มีที่จอดรถด้วยค่ะ   เป็นที่น่าเสียดายที่ดิฉันไม่ค่อยรู้จักใคร  แต่ถึงรู้จักเค้าก็ไม่บอกกันค่ะ  เค้ากลัวเราไปเก็บเห็ดหมดป่า 555 


น้องสาวไปรร.ที่นี่มีเพื่อนเยอะ  ไม่มีใครเลยที่จะพาเราไปป่า  นั่นเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า  คนไทยกลัวคนอื่นแย่งอาหารไปหมด 555

เห็ด truffle  รึปล่าวคะเคยอ่านเจอว่าเขาต้องใช้หมูดมกลิ่นไปหาตั้งแต่ไก่โห่..จริงไม่จริงยังไงเล่าให้ฟังทีค่ะ

หน้า