......................ที่มา 32 สิ่งที่มองไม่เห็น................
๑.
สามสี่วันที่ผ่านมา มีวัยรุ่นขับรถเครื่องมาวนเวียนในซอยบ้านผม แล้วมองลึกเข้าไปในบ้าน หลังบ้าน รอบๆ บ้านอย่างตั้งใจและน่าสงสัย
วันนั้นผมอยู่ในมุมที่เขามองไม่เห็นผม ทำให้คืนนั้นกลายเป็นคืนจับโจรอย่างที่เคยตั้งใจไว้
เปล่าดอก ผมไม่มียุทโธปกรณ์ใดไปจับกุม หรือต่อสู้ ทั้งยังไม่นิยมชมชอบอะไรแบบนี้เท่าไรนัก อาจเพราะเลยวัย ไม่มีต่อม ไม่ชอบ ไม่สนาน – ว่ากันไป
เย็นวันนั้นผมทำงานตามปกติจนกระทั่งฟ้าเริ่มมืด นัดแนะกับเพื่อนซึ่งเป็นตำรวจไว้เรียบร้อยกะว่าให้มันจัดการ ผมจะคอยไล่จากตรงนี้
เย็นนั้น ผมล่ามม้าสองตัวไว้เล็มหญ้าหน้าบ้าน
อาลน้ำอาบท่าเสร็จทายากันยุง เตรียมไฟฉาย แต่งชุดสีกลืนกับความมืด ปิดบ้านล็อคกุญแจเรียบร้อย เปิดไฟตามปกติเหมือนทุกวัน ถือพร้าบ่ายหน้าเดินดุ่มเข้าสวน เลือกมุมที่ลับตาแต่สามารถมองเห็นเส้นทาง และหน้าบ้านได้ชัดเจน
มะพร้าวแห้งรองนั่ง ปรับสายตาให้ชินกับความมืดรอบราย แสงไฟฟ้าจากบ้านใกล้เคียงและบ้านหลังที่ไกลออกไป ดูแปลกปลอม คิดย้อนกลับไปยังวัยเด็ก วัยที่ไฟฟ้ายังเดินทางไปไม่ถึง
เรา – ทโมนน้อยสามสี่คน จับกลุ่มกันเดินกลางถนนสีฝุ่นตอนหัวค่ำ นานๆ จะมีเสียงรถวิ่งเข้าผ่านมา เราสบตากันแล้วกระโจนเข้าหามุมหลบแสง...
สนุกในการมองคนอื่นในที่มืด - อารมณ์แบบนี้คนที่เกิดท่ามแสงไฟประดิษฐ์คงไม่รู้สึกร่วม
๒.
เสียงกลางคืน สำหรับคนที่คุ้นชินอาจเป็นเสียงของความเงียบ ไม่รกหู เป็นเสียงที่กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นลมหายใจ เป็นทุกอย่างที่เป็นชีวิต
แน่นอนครับ – ชีวิตชนบท
สายตาที่คุ้นชินกับความมืดทำให้เห็นราบางชนิดเรืองแสงในความมืด เชื้อราประเภทนี้ทำเอาภาพเก่าตามมาหลอกหลอน
สมัยที่เดินดุ่มหาทางออกจากป่าเหนือเขื่อนเชี่ยวหลานเราเดินจากต้นน้ำที่เยิบหยุ่น ตาน้ำซับเล็กๆ หยดลงมาทีละหยด ละหยด กระทั่งสายน้ำกลายเป็นห้วยลึกเพียงตาตุ่ม กลายเป็นโตรกธารลึกถึงเอว เชี่ยวและลื่น
จากกลางวันยันกลางคืนในความมืดกลางป่ารก แสงของเห็ดราแต้มอยู่ที่นั่นที่นี่ ทุกหนทุกแห่ง
ผมหยิบแท่งกลมๆ ขึ้นมาอันหนึ่ง กวัดแกว่งในจินตนาเหมือนดาบของตัวเอกในหนังสตาร์วอส์ แท่งกลมท่อนนั้นมีกลิ่นของเห็ด และมันคือไม้ไผ่ที่อาบไปด้วยราเรืองแสง นี่นับเป็นเรื่องโชคดีในความเหนื่อยล้าโดยแท้ หนึ่งในภาพประทับนิ่งในก้นกรุของความจำ
ครับ,เป็นบางสิ่งซึ่งรื่นในความระทม
๓.
ในยุคที่ยางพาราราคาขึ้นพรวดพราด เรือกสวนไร่นากลายสภาพจนจำเค้าเดิมไม่ได้อีกแล้ว อย่าได้คาดหวังว่าจะเห็นต้นไม้ในความทรงจำซักต้นท้ายสวน แค่ริมชายคาก็แทบจะไม่มีที่ให้เชิงชายได้หย่อนตัวเองอย่างอิสระ
สวนขี้คร้าน ยืนยงพื้นที่รกเรื้อเสมือนป่าจริงๆ อยู่หลายหย่อม ถูกมองจากเพื่อนบ้านอย่างเสียดายในพื้นที่ น่าจะปลูกยางพาราให้รู้แล้วรู้รอด (อย่างน้อยถ้าผมปลูกไปตั้งแต่ตอนนั้น ป่านนี้คงรวยเป็นบ้าเป็นหลัง)
ครับ...พื้นที่ป่าส่วนตัวของผม ยังคงอยู่ถึงตอนนี้ความดื้นรั้นและลูกบ้าของคนในสวนโดยแท้
แค่มีสวนยางพาราใกล้สวนผม วัยรุ่นคนนั้นยังมองลอดใต้ถุนบ้านเพียงเพื่อจะค้นหาว่า บ้านผมมียางพาราตากแขวนอยู่หรือไม่ พอให้ได้สอยเก็บติดไม้ติดมือยามเจ้าของเผลอไผล
บ้านไหน สวนไหนมียางพารา อย่าได้คลาดสายตาจากเพลี้ยกระสอบพวกนี้เด็ดขาด เพราะกำลังระบาดพรวดพราดพอๆ กับราคายางเลยทีเดียว
ผมนั่งสงบทบทวนเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่โจรขึ้นบ้าน ยันวัยรุ่นขับรถวันเวียน บางที การได้ออกมานั่งในสวน ในความมืด แล้วได้คิดอะไรต่อมิอะไร ทีละอย่าง อย่างมีสติ อย่างมีสมาธิแบบนี้ ต้องขอบใจวัยรุ่นหน้ามึนคนนั้นเหมือนกัน
สามทุ่มกว่า – ฝนตก ผมเข้าบ้าน
๔.
ห้าทุ่มครึ่งคืนนั้น เสียงมอเตอร์ไซค์คันเดิม ขับมาอย่างช้าๆ พอถึงหน้าบ้าน รีบเร่งเครื่องผ่านไปโดยเร็ว
อาจเพราะม้าสองตัวหน้าบ้าน บวกกับแสงไฟสว่าง ทั้งหน้าบ้าน ข้างบ้าน หลังบ้าน
กระทั่งในส้วม
- คงรู้แกวว่าเจ้าบ้านรู้ตัว
โธ่ โจรเอ๋ย ... จะลักอะไรก็เอาไปเถอะ ตรูจะขรี้
- บล็อกของ sailomloy
- อ่าน 4843 ครั้ง
ความเห็น
เอ้
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 01:13
Permalink
มีดดูดิบ ๆ
มีดดูดิบ ๆ น่าใช้ดี
เล่าเรื่องลำดับความดี รวมถึงภาษาที่ลงตัว น่าจะเป็นนักเขียนนะ
บ้านที่ปาย Pai forest home
sailomloy
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 19:25
Permalink
เอ้
เดาว่าผมเป็น(นักเขียน)หรือว่ากำลังผลักดันให้ผมไปเป็น(นักเขียน)ครับ?
อันนี้สงสัยจริงๆ
นิ
ออกปากรุนท็อกที !!!
oddzy
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 05:21
Permalink
เกือบหลับ
อ่านย่อหน้าแรกสายตาก็เมื่อยล้ายังไงช๊อบกล แต่ก็ดันทุรังอ่านจนจบค่ะ นึกว่าอ่าน นิยาย ตื่นเต้น เร้าใจ โจรบุกปล้นชิงตัวเจ้าสาว อะไรเงี๊ย... ที่ใหนได้ ขอเวลาส่วนตัวก็ไม่บอก แล้วเรื่องราวที่เล่าน่ะมันเกี่ยวข้องกะมีดยังไง ตรงใหนหนอ... ฮึม..ฝากไว้ก่อนเถอะ พออ่านจบแล้วหายง่วงเลยนี่ซิ...
sailomloy
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 19:24
Permalink
oddzy
ไม่เกี่ยวกับมีดครับ...
แค่อยากบอก ว่า ปวดอึ
แค่นั้นแหละ
ออกปากรุนท็อกที !!!
แจ้ว
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 07:14
Permalink
สวนขี้คร้าน
ติดตามอ่านสวนขี้คร้านมานานนม น่าจะมีหลายคนคิดว่าทำไมยังเป็นสวนขี้คร้านเพราะทั้งปาล์มทั้งยาง ราคาแพงแสนแพง เดี่ยวนี้ป่าหมาก ป่าพร้าว หาไม่เจอแล้ว
เรื่องโจร ชุกชุม แถวบ้านก็มีให้ได้ยินทุกเช้าค่ำ 2 คืนก่อน "ฟันคอกันในสวนยาง" พี่บ่าวเหอ ทำให้คนตัดยางหวาดผวากันทั้งตำบล สาเหตุประเด็นหลัก ๆ น่าจะมาจากเรื่องเด็กติดยา.....
ยางแพง ปาล์มแพง แต่ทำให้มีโจรเยอะขึ้นแบบนี้น่ากลัวจริง ๆ
มีดทำครัวสวยดีค่ะ ปลอกหนังสวยจัง
sailomloy
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 19:23
Permalink
แจ้ว
คนที่สงสัยก็ปล่อยเขาไป...สวนขี้คร้าน แต่คนในสวนขยัน ก็ว่ากันไป
นิ
ออกปากรุนท็อกที !!!
ป้าเล็ก..อุบล
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 07:21
Permalink
จบแล้วยังนิ
ตกลงวันนี้ โจรมาหาหม้าย
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
sailomloy
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 19:22
Permalink
ป้าเล็ก..อุบล
วันนั้นมา วันนี้หม้าย
ครับ
ออกปากรุนท็อกที !!!
น้อย สวนบุรีรมย์
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 08:32
Permalink
ชาวสวนยางคงลำบากใจกับเพลี้ยกร
ชาวสวนยางคงลำบากใจกับเพลี้ยกระสอบกันจริงๆ ตากแผ่นยางไว้ก็เหมือนตากแบ้งค์ร้อยไว้
แต่ผมลำบากใจกับเด็กน้อยที่ไม่ตั้งใจเรียน ผู้ใหญ่ที่ไม่ตั้งใจทำงาน แภวบ้านเริ่มมีเยอะขึ้นเรื่อยๆ
สวนเกษตรบุรีรมย์การเกษตรแบบเสาร์เว้นเสาร์ เน้นที่เราปลูกเองกินเอง
บริการจัดทำและดูแลเว็บไซต์ ถูก ดี มีประสิทธิภาพ
sailomloy
13 กุมภาพันธ์, 2011 - 19:21
Permalink
น้อย สวนบุรีรมย์
ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้มากกว่า เฮ้อ.....!!! ครับ
ออกปากรุนท็อกที !!!
หน้า