งุมงำ
ในขณะที่ลมหนาวกำลังทอดกายมาเยือน ฝนฟ้าที่ฉ่ำครองอาณาจักรก็มิอาจยื่นยอม เงื่อนไขข้อตกลงแห่งฤดูกาลเวลา ถูกทลายลงด้วยความยื้อสุดเดชของทีมห่าเม็ดฝน ต้านทานด้วยทุกๆอภินิหาร และนับวันทั้งสามฤดูในพื้นที่แถบนี้ ต่างก็ทวียื้อแย่งกันอย่างรุนแรง
ก้าวร้าวอย่างเต็มสรรพกำลังหนักขึ้นๆทุกปี เหมือนเป็นการอวดเบ่งเทพบารมี เพื่อสานสร้างผลงานขอเลื่อนตำแหน่งปลายปี ก็มิปาน
อะไรก็ไม่รู้ แอลๆโยๆ หรือลาๆย่าๆ หรือ ภาวะโลกร้อน ที่แทนคำเรียกขานสถานการณ์ตามภาวะวิสัย แต่ไม่ว่าจะให้เกียรติ ตั้งหรือเรียกชื่อของพวกเธอเหล่านั้นว่าอย่างไร เธอก็ได้ทิ้งรองรอยแห่งความปวดร้าว เสียหายแก่เรา ”ผู้คน” แห่งวิถีชีวธรรมโลก ผู้เป็นส่วนย่อยเล็กๆ แต่กรุกร่างประหนึ่งว่าทุกอย่างในผืนปัฏพีนี้ เราควบคุมได้และแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ(อโพส โซฟี เอส ‘s )เสียแทบทั้งหมดทั้งสิน
วันนี้เราทำได้แค่เพียงลอยคอมองหา สบตาถามหาความรับผิดชอบจากสิ่งที่เรา พอจะหยิบยกนำอ้างหาได้ มาเป็นเหตุผลว่าอะไรทำให้เราเป็นแบบนี้ หรือฟ้าจะชำระล้างแผ่นดินผืนนี้ หรือเป็นเวรเป็นกรรมของเรา หรือรัฐบาล หรือ อีก หรือ อีก หรือ อีก หรืออีก หรือ หรือ อีก หรือ อีก หรือ อีก หรือ อีก หรือ ขึ้นอยู่กับความเชื่อในฐานคิดอัตตวิสัยที่จำกัดจำเขี่ยของแต่ละบุคคล
มีสักคนไหมที่จะบอกว่า..ฉันโทษฉันเอง....
แผ่นดินที่เราต่างก็มีส่วนช่วยกันย้ำยี มากน้อยต่างกันไป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างเมามันและหลงลืมตัว
ทุกอย่างในโลกนี้ย่อมมีเท่าเดิมแปรเปลี่ยนแค่สภาพที่เป็นไป ยอดเขาที่ตระห่าน ถูกเด็ดยอดชฎาทิ้งถมทะเล เนินควนถูกถูกบรรทุกถมฝังจมหนองน้ำ แมกไม้ถูกตัดทอนโค่นต้น เป็นเครื่องใช้ไม้สอย ทุกอย่างใต้พื้นพิภพถูก แคะ ล้วง จ้วง แทง สูบเล่นแร่แปรธาตุเป็นพลังงาน เผาพลาญจนควันฝุ่นคุ้งขจาย จนโลกสูญเสียความสมดุล อวดครวญ เริ่มถามหาผู้รับผิดชอบและบทลงโทษ
เราทำเหมือน เรามาจากดาวดวงอื่นและดาวโลกดวงนี้ คือ แหล่งทำมาหากิน คือไซล์งานชั่วคราวที่ต้องเร่งรีบ กอบโกย เก็บกำ เพื่อสงผ่านกำไรไปยังบริษัทดาวแม่ที่อยู่ “กาแล็กซี” ไหนก็ไม่รู้ในจักรวาล
เราทำเหมือนว่า คนในช่วงไม่กี่ทศวรรคหน้าจะหันหลับมาเยินยอเรา ว่า เราคือนักปฎิวัติอุตสาหกรรมตัวยง จนโลกต้องพิกลพิการแบบนี้
เราลืมอะไรไปหรือเปล่า...มนุษย์มักแสดงและแสวงหาสิ่งที่คิดว่าดีกว่าด้วยการ ทำลาย โดยลืมไปว่าโลก ธรรมชาติก็มีชีวิต แปรผลิกตัว ปรับสมดุลด้วยการทำลาย เราด้วยเช่นเดียวกัน
ถ้าเราชาวโลก ค่อยๆพอ ค่อยๆเดิน และละมุนกับโลกใบนี้อีกสักนิด....ใส่ใจดูแล และรวมกันวางแผนการรวมอยู่ร่วมกัน มันก็คงจะดีกว่านี้ แม้นจินตภาพที่เรียนนำจะอยู่ในโลกแห่งความฝัน
แต่วันนี้เมื่อตื่นขึ้นมา เราช่วยตัวเองให้ได้ก่อนตามวิถีพอเพียง ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยโลก แม้จะช่วยโลกไม่ได้มากแต่ก็คงเป็นอีกหนทางหนึ่งในวิถีที่ อาจหยุดทำร้ายโลกได้
แม้นจะไม่ใช่ทั้งหมดที่จะช่วยโลกได้ในความเป็นจริงของวันนี้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการชะลอเพื่อให้ชาติพันธุ์มนุษย์ของเราในอีกหลายทศวรรคหน้าได้มีเวลา ปรับตัว ตั้งหลักและแก้ไขเยียวยาทัน ต่อสภาพภาวะที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนเราวันนี้ตั้งหลักกันแทบไม่ทัน
เพื่อการดำรงได้อย่างไม่ต้องรันทดมากนักแห่งเผ่าพันธุ์ในอนาคต อันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเรา
หากแต่ในวันนี้รอบแรก แจกแค่ถุงยังชีพน้ำท่วมไปก่อนนะ ส่วนรอบสองเราจะแจกผ้าห่มไปด้วยพร้อมๆกัน แน่นอนเราจะแจกทุกปี
เวรระกำ....!!!
หมายเหตุ
เอลนินโญ-ลานินญา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา "เอลนินโญ" และ "ลานินญา" เป็นคำพูดที่มีการกล่าวถึงอย่างมากว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดความผิดปกติของสภาพภูมิอากาศบริเวณต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงปี 2540-2541 ที่ผ่านมานี้เกิดความแห้งแล้งอย่างมากจนทำให้เกิดไฟป่ารุนแรงและยาวนานขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย รวมถึงประเทศในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ บราซิล ตอนใต้ของแอฟริกา และในแถบคาบสมุทรอินเดียมีฝนตกชุกมากจนเกิดน้ำท่วมในประเทศบังคลาเทศ เคนยา สหรัฐอเมริกา ชายฝั่งประเทศเปรู เอควาดอร์ แม้แต่ในยุโรปและในบางครั้งหลังจากปรากฏการณ์เอลนินโญสิ้นสุด
ลานินญาเป็นปรากฎการณ์ในลักษณะตรงกันข้าม ก็อาจเกิดตามขึ้นมาเช่นเดียว ในบริเวณที่เกิดน้ำท่วมผ่านไปแล้วก็อาจจะเกิดเป็นความแห้งแล้วขึ้นมาแทน
คำว่า "เอลนินโญ"และ "ลานินญา" เป็นการเขียนคำอ่านตามภาษาสเปน เพราะที่จริงแล้วสองคำนี้เป็นภาษาสเปน คือ El Ninõ และ La Ninã แต่ถ้าหากจะเขียนและอ่านตามภาษาอังกฤษก็คือ El Nino (เอลนิโน) La Nina (ลานินา) ซึ่งแล้วแต่จะนิยมเขียนกัน
เอลนินโญ คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการไหลย้อนกลับของผิวน้ำทะเลที่อุ่น ในช่วงเวลาช่วงหนึ่งๆ จากบริเวณเส้นศูนย์สูตรทางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ไปแทนที่กระแสน้ำเย็นที่ไหลอยู่เดิมบริเวณเส้นศูนย์สูตรทางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและบริเวณชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ เมื่อการอุ่นขึ้นของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลได้แผ่ขยายกว้างก็ส่งผลกระทบต่อการหมุนเวียนของบรรยากาศแผ่ขยายกว้างออกไป
ลานินญา
ลานินญา (ในภาษาสเปน หมายถึง เด็กหญิงตัวน้อย) คือปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นตรงกันข้ามกับเอลนิโน เป็นการสะท้อนกลับแบบบวก(Positive Feedback)
กระแสน้ำเย็นเปรู จะไหลกลับมาในทิศทางเดิม เพราะลมสินค้าตะวันออกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้กระแสน้ำอุ่นไหลมาทางเอเซียอาคเนย์ ทำให้เอเซียอาคเนย์ มีพายุรุนแรงมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอุทกภัย และทำให้ทวีปอเมริกาเหนือฝั่งตะวันตกมีฝนตกชุก แต่จะช่วยยับยั้งการเกิดพายุในทวีปอเมริกาใต้ th.wikipedia.org/wiki/ปรากฏการณ์โลกร้อน
- บล็อกของ มานี มานะ วีระ ชูใจ
- อ่าน 5617 ครั้ง
ความเห็น
ลุงพูน
31 ตุลาคม, 2010 - 21:09
Permalink
มานี มานะ วีระ ชูใจ
ผมชอบอ่านบทความแบบนี้ ลองตามไปอ่านบทความของหมอประสาน ต่างใจ ฉบับวันอาทิตย์ของไทยโพสต์ http://www.thaipost.net/sunday/241010/29109
มานี มานะ วีระ ชูใจ
1 พฤศจิกายน, 2010 - 01:53
Permalink
ขอบคุณทุกท่านนะครับ
ที่แวะมา..วันนี้ผมตอบเมนต์ไม่ทันแล้วครับ...
ตอบทางใจไปให้แล้ว...
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
Tui
1 พฤศจิกายน, 2010 - 08:07
Permalink
ตามมาอ่าน เห็น ด้วย กบ ข้อ
ตามมาอ่าน เห็น ด้วย กับ ข้อ ความ ข้างต้น ครับ
มาย
1 พฤศจิกายน, 2010 - 13:49
Permalink
อื่ม..งุมงำ
สะท้อนออกมาจากใจ..
ขอบคุณค่ะ
there is a will , there is a way .
หน้า