มีเรื่องอยากมาเล่าคุณครูช่วยอ่านหน่อยคะ
วันนี้มีเรื่องภูมิในตัวลูกชายสุดที่รักมาเล่าคะแต่ในความภูมิใจก้อมีอะไรคาใจนิดๆหน่อยๆการศึกษาของทุกวันนี้เค้าแบ่งเป็นช่วงชั้นประถม1-3คือช่วงชั้นที่1ประถม4-6คือช่วงชั้นที่2ลูกชายอยู่ประถม5ก้อคือช่วงชั้นที่2คะที่นี้เวลามีการแข็งขันสอบวิชาการเค้าก้อจะสอบแบบช่วงชั้นประถม1-3มาสอบแข็งกันประถม4-6ก้อมาแข็งกันแล้วเด็กๆที่อยู่ประถม4-5จะสู้พี่ๆประถม6ได้ไม่คะเพราะขอ้สอบที่เอามาแข็งเป็นของพี่ประถม6หมดเลยวันนี้ลูกชายไปสอบแข้งได้ลำดับที่5จากนักเรียน16โรงเรียน16คนมีเด็กๆประถม6ทั้งหมด15คนลูกชายเป็นกาคะอยู่ประถม5คนเดียวสอบได้ที่5คะลูกไม่เคยเรียนพิเศษเพราะคิดว่าเค้าหน้าจะใช้ชีวิตในวัยเด็กให้คุ้มหน่อยไม่อยากกดดันลูกมากเวลาเรียนก้อเรียนไปพอพักก้อเล่นตามสบายที่ลูกชายสอบสู้เค้าไม่ได้เพราะไม่ได้เรียนพิเศษหรือเพราะเรียนอยู่แค่ประถม5ไม่แน่ใจเลยใครที่เป็นคุณครูช่วยอธิบายให้กุ้งเข้าใจหน่อยคะตอนนี้งงมากที่การเรียนการสอนไม่เหมือนตอนเราเด็กๆเลยนี้คือหน้าหล่อๆของคนเก่งคะอิอิ
- บล็อกของ กุ้งแห่งสวนชมบุญ
- อ่าน 5316 ครั้ง
ความเห็น
satjang
4 พฤศจิกายน, 2010 - 22:18
Permalink
ดีใจด้วยนะคะ
ให้กำลังใจเค้านะคะ อย่าให้เค้าเหลิงนะคะ ก้อยเคยเป็นมาก่อน... เรียนเก่งมาตลอด พอตอนหลัง ๆ เหลิงไปหน่อย กลับตัวแทบไม่ทัน..
...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...
กุ้งแห่งสวนชมบุญ
5 พฤศจิกายน, 2010 - 10:49
Permalink
ไม่รู้เหลิงไม
ไม่รู้ว่าน้องกายจะเหลิงไมนะคะแต่เค้าชอบพูดว่าน้องกายก้อทำตามครูบอกเพื่อนๆไม่ทำเองเค้าจะพูดเวลาที่เราถามว่าทำไม่เพื่อนถึงทำไม่ได้เด้กแถวๆนี้สวนใหญ่อยู่กับผู้สูงอายุคะก้อเลยไม่ค่อยมีใครแนะนำเรื่องการเรียนและก้อเกเรเล็กน้อยที่บอกว่าเล็กน้อยเพราะเค้ายังรู้จักยกมือไหว้ผู้ใหญ่เวลาเจอกันคะ
ดาวเรือง
5 พฤศจิกายน, 2010 - 02:00
Permalink
ระบบการศึกษาในเอเชีย
กับยุโรปไม่เหมือนกัน คนที่นี่เขาไม่ให้การบ้านเด็กเล็กๆ มันขึ้นอยู่กับผู้ปกครอง ถ้าอยากให้ลูกตนมีการบ้าน เรียนหนักๆก็ไปตกลงกับครูและเด็กเอง การที่ผู้ปกครองจะให้ลูกเรียนหนักๆโดยที่เด็กไม่ยินยอม มันก็ไม่มีผลอะไรอยู่ดี
เค้าไม่ต้องการให้เด็กของเค้าเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเพราะความเครียด เหมือนเด็กไทย จีน ญี่ปุ่น ซึ่งแข่งขันกันเรียนจนไม่รู้จักการใช้ชีวิต เข้าสังคม ฯลฯ เรื่องนี้ดิฉันรู้ดีเพราะถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างนั้น ได้ที่ 1 ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับผู้ปกครอง ได้ทั้งทุนการศึกษาตั้งแต่ ป. 6 จนจบมหาลัย ก็ยังไม่ดีพอ ได้งานที่ดีมากด้วยตนเอง มีงานมาจ่อรอตั้ง 4-5 งาน ก็ยังไม่เก่งพอ สอบเข้างานได้ 97 เปอร์เซนต์ แซงเด็กเส้นไปไกล ผู้ปกครองก็ยังไม่ค่อยจะแสดงความดีใจเลยค่ะ
ที่เล่ามาทั้งหมด อยากจะบอกคุณกุ้งว่า อย่าทำให้ลูกไม่มีความสุขเหมือนอย่างที่ดิฉันเคยเป็นเลยค่ะ สงสารเด็ก ดิฉันไม่เคยเรียนพิเศษเลย เรียนแค่ในห้องเรียนก็มากพอแล้ว ถ้าเรารู้จักจัดเวลา ทำการบ้าน ก็เก่งจนไม่รู้จะเก่งอย่างไรแล้วค่ะ
หลานคนเดียวของดิฉัน เค้าเพิ่งอ่านหนังสือออกเมื่อวานนี้เองค่ะ มันมาของมันเองหลังจากที่เราพยายามให้เขาเขียนอ่านอยู่สักพักนึง เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้เขาเรียนตามพละกำลังของเขา (แม่เขาอยากให้เขาเป็นหมอ) แต่ดิฉันว่าอย่าคาดหวังอะไรมากนัก ถ้าเผื่อเขาไม่ชอบเรียนขึ้นมา เราจะไปบีบคั้นให้เขาเรียนได้อย่างไร ให้เขาค้นพบตัวเขาเอง โดยแรงสนับสนุนของเราก็พอแล้ว จริงไหมคะ?
Tui
5 พฤศจิกายน, 2010 - 07:32
Permalink
แสดงความยินดีไปกับ คุณ กุ้ง
แสดงความยินดีไปกับ คุณ กุ้ง เรื่อง ลูกชายด้วยครับ เห็นด้วย กับเรื่องไม่เรียนพิเศษ ครับ คุณกุ้ง ส่งเสริมรู้ให้เห็นคุณค่า ของเงิน แบบนี้ น้อง ต้องโตมาเป็นคนดี ด้วยครับ สิ่งหนึ่งที่ได้ กับตัวเองตั้งแต่เด็ก คือการอ่านครับ คุณกุ้ง ส่งเสริมการอ่านให้ น้องตั้งแต่เล็กๆ จะดีมาก มันจะติดตัวดีครับ อ่านหนังสือ พิมพ์ อ่านเรื่องสั้น อ่านหนังสือเด็ก น่าสนใจมากครับ อีกอย่างการอ่านหหนังสือไม่เสีย สายตาดีครับ ไม่เหมือน ใช้คอมด้วยครับ แต่ใช้คอมช่วยส่งเสริมภาษาอังกฤษ ดี แต่ผม เรียนภาษาอังกฤษนี่ได้ จากการอ่านหนัง สือ เยอะ เหมือนกัน ครับ
กลับมาเรื่องเรียนพิเศษ ปรกติ สมัย ก่อน ที่บ้านเรา หรือ สมัยนี่ ที่นี่ก็ ดี เด็กที่ต้องเรียน พิเศษนั้น คือเด็ก ที่มีปัญหาการเรียนในห้อง ดังนั้น จึงต้องมี การเรียนพิเศษ เสริม พยายาม จะเข้าใจเหมือนกัน ว่า ทำไม โรงเรียนไม่สอนให้ดี ตั้งแต่ในห้อง จะได้ไม่เสียเวลาเด็กเล่น หลังเลิกเรียน สมัยนี้ ที่บ้าน พี่ชายผม ก็ส่งลูกเรียนพิเศษ ใครๆ ก็ ย่อมยากให้ลูก เรามี พื้นฐานดีทั้งนั้น ครับ แต่วิธี ของคุณกุ้งนั้น จากความเห็นผม คิดว่าคุณกุ้งเดินมาถูกทาง
กุ้งแห่งสวนชมบุญ
5 พฤศจิกายน, 2010 - 11:09
Permalink
คุณตุล
เย็นนี้เจ้ากายกลับมาได้อ่านข้อความของส.ม.ช บ้านสวนคงหน้าบานแน่ๆเลยคะ
panatda
5 พฤศจิกายน, 2010 - 08:38
Permalink
ลูกชาย เก่งค่ะ
ผลการสอบกับรุ่นพี่ ผลดีแล้วค่ะ ไม่ต้องเรียนพิเศษได้ค่ะ แค่ขยันทบทวนในเนื้อหาที่เ้รียนมาในแต่ละวัน
ก็พอแล้วค่ะ ใส่ใจในการเรียน เรียนรู้นอกห้องเรียน มีนันทนาการบ้างค่ะ
เด็กๆๆจะไม่เครียดมากค่ะ พ่อ แม่เอาใจช่วยดูแลเขา ลูกๆๆจะน่ารักมากค่ะ
กุ้งแห่งสวนชมบุญ
5 พฤศจิกายน, 2010 - 11:07
Permalink
แป้วจ๋า
ทุกๆเสียงเป็นกำลังใจให้เจ้ากายขอบคุณมากคะ=^-^=
บุญพา
5 พฤศจิกายน, 2010 - 08:39
Permalink
น้องกุ้ง
ลูกชายเก่งนะค่ะ ชื่นชมค่ะ
ถ้าจะให้พูดเรื่องเรียนพิเศษ หากว่ามากเกินไป ไม่ค่อยเห็นด้วยนะ เด็กๆหลายคน ไม่แน่ใจว่ามีความสุขมั๊ย มีแต่เรียนๆๆๆๆไม่ได้เรียนรู้สังคม หรือโลกภายนอกเลย
ชีวิตคนเราเกิดมา ต้องเรียนรู้ และมีความสุขควบคู่กันไปตลอดค่ะ บางคนตั้งใจเรียนอย่างเดียว พอจบมา...มีเหตุให้เสียชีวิต รู้สึกเศร้าแทนค่ะ ไม่มีโอกาสเรียนรู้รสชาดของชีวิตเลย
ความคิด อาจจะไม่เหมือนคนอื่นๆนะ...
เจ้โส
5 พฤศจิกายน, 2010 - 09:18
Permalink
สุดยอด
ดีใจด้วยคะน้องกุ้ง ลูกชายน่ารักนะคะ ต่อไปต้องเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศไทยแน่นอน หัวอกพ่อแม่มีลูกไม่เกเร รู้หน้าที่ของตนเอง พ่อแม่ก็สูขใจ
garden_art1139@hotmail.com
กุ้งแห่งสวนชมบุญ
5 พฤศจิกายน, 2010 - 10:58
Permalink
เจ้โส
เจ้ากาย10ขวบแล้วคะไม่รู้โตขึ้งจะออกหัวหรือก้อยแต่ทุกวันนี้สอนให้รู้เป็นคนดีของทุกๆคนบนโลกคะกุ้งบอกลูกว่าถ้าสิ่งที่เราทำแล้วไม่กลัวจะโดนว่าอันนั้นแหละคือสิ่งที่ดี(ลูกชอบถามว่าเป็นคนดีเป็นยังไงยากไม)บ้านกุ้งจะสอนลูกแบบเข้าใจง่ายๆคะจะได้จำนานๆ
หน้า