โรคเวียนหัว บ้านหมุน
เข้านอนตั้งแต่สองทุ่ม ตื่นขึ้นมาตอนตีสองกว่า เจอบล๊อกน้องน้อย...เลยรำพึงรำพันเกี่ยวกับโรคประจำตัว ใส่บล๊อกน้องน้อยยาวไปหน่อย...เลยคัดลอกเอามาลงในนี้อีกครั้ง เผื่อมี สมช.คนใด มีคนใกล้ตัวมีอาการเวียนหู บ้านหมุนบ้าง จะได้เข้าใจโรคนี้มากขึ้น
น้องน้อย...
เข้ามาอีกครั้งตอนไหน...ช่วยไขข้อข้องใจให้พี่สรด้วย 2-3 วันมานี้ พี่มีอาการเวียนหัวอีกแล้ว หลังจากที่อาการนี้...มารุมเร้า เมื่อต้นปีนี้ ตอนเป็นครั้งแรก เวียนหัวบ้านหมุนอย่างหนัก ขยับตัวไม่ได้ จะคลื่นไส้ จะอาเจียร โชคดีที่แม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน จึงไม่ตกใจกันมากนัก นอกจากสามี ที่จะพาหาหมอในตอนนั้นให้ได้ แต่เลือกที่จะดื้อ...เนื่องจากอยากนอนนิ่ง ๆ ขยับตัวแล้วจะเป็นหนัก ไม่อยากตอบคำถามใด ๆ ...หลังจากนั้น ไปหาหมอ ที่ รพ.มหาราชนครศรีฯ พยาบาล หมอ ก็จะถามคำถามที่คาดการณ์ไว้แล้ว...เลยเล่าอาการไปว่า เวียนหัวบ้านหมุน ไม่มีเสียงในหู ความดันเลือดปกติ เนื่องจากคนไข้ของ รพ.มีมากมาย หมอจึงไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องขี้ผงสำหรับหมอ แต่เป็นเรื่องใหญ่มโหฬารสำหรับคนไข้มาก ถามหมอว่าอาการแบบนี้เป็นโรคอะไร หมอที่ค่อนข้างประหยัดคำพูด สงสัยกลัวว่าพูดไปคนไข้ก็คงไม่เข้าใจ อธิบายแบบยาว ๆ ก็เสียเวลา สู้เอาคำพูดและเวลาไปให้ลูกค้าที่คลีนิกดีกว่า บอกว่า...เกี่ยวกับหินปูนในหูชั้นในหลุด ชักจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ ใครสนใจ ติดตามบนบล๊อกดีกว่า...เดี๋ยวจะเอาไปขึ้น...เป็นวิทยาทาน...สำหรับ สมช. แต่...น้องน้อย ถ้าทราบช่วยบอกหน่อย มีสมุนไพรตัวไหนช่วยโรคนี้ได้บ้าง...สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับโรคนี้กับพี่สร...ยาวมาก โปรดติดตาม หากมีเวลาอ่าน เพราะโรคนี้สามารถเกิดขึ้นกับคนรอบตัวหรือใครก็ได้ และมีผลต่อชีวิตประจำวันมาก
ทีนี้น้องน้อยทราบแล้วใช่มั๊ยว่าทำไม...พี่สรจึงชอบยาดมเป็นพิเศษ...แต่ไม่รบกวนน้องน้อย ในการส่งหรอกนะค๊ะ...ขอบคุณมาก ๆ สำหรับน้ำใจ แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วจ๊ะ
เล่าต่อ...อีกเล็กน้อย...หลังจากเอายาจาก รพ.มหาราช+ยามูลนิธิของ รพ. มากิน หลายรายการ ก็ดีขึ้นบ้างแต่ไม่หาย ค่อนข้างเครียด เนื่องจากไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทุกชิวิตในบ้านต้องพึ่งพาเราทุกคน จึงตั้งหน้าตั้งตาศึกษา ทำความรู้จักโรคทางเน็ต และลองสุ่มดูว่าคนรอบข้าง ทั่ว ๆ ไปรู้จักโรคนี้แค่ไหน...เริ่มจากพี่ชายที่อยู่ กทม.ว่าที่นายอำเภอ พี่ชายก็ไม่รู้จัก จึงได้แนะนำให้รู้จัก และให้หาข้อมูลหมอผู้เชี่ยวชาญโรคนี้ จนในที่สุดได้ติดต่อขอจองคิวตรวจที่ รพ.มอ.ที่หาดใหญ่ หลังจากทราบข้อมูลว่า อ.หมออารักษ์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคที่เป็น จึงนัดวันไปตรวจ หมอตรวจแค่วันละ 15 คนเท่านั้น เริ่มจากการเข้าห้องตรวจการได้ยิน...ไม่มีปัญหาใด ๆ สรุปว่าที่อาการเป็นเกี่ยวกับน้ำในหูชั้นในซึ่งควบคุมการทรงตัว อาจจะมีหินปูนหลุดลงไปในน้ำ ทำให้น้ำในหูแกว่ง จนมีผลทำให้การควบคุมการทรงตัวมีปัญหา รวนไปหมดเลยค๊ะ...ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ วิธีรักษานอกจากให้ยาแล้ว อาจารย์หมอให้นั่งห้อยขา แล้วก็จับศรีษะเหวี่ยงซ้าย เหวี่ยงขวา (ครึ่งตัวบน)กลับมาตรง เป็นรอบ ๆ 2-3 รอบ รู้สึกดีขึ้น จนขากลับบอกสามีว่าหายแล้ว... หลังจากที่เป็นอยู่ประมาณ ครึ่งเดือน...ถ้าใครอยากถามอะไรก็ทิ้งคำถามไว้นะค๊ะ...จะมาตอบภายหลัง ตอนนี้ จะไปกายภาพบำบัด เหวี่ยงศรีษะด้วยตนเอง...และก็นอนต่อ หากอาการยังไม่ดีขึ้นคงต้องไปหาอาจารย์หมออีกครั้ง
- บล็อกของ สร
- อ่าน 19587 ครั้ง
ความเห็น
แจ้ว
6 ธันวาคม, 2010 - 11:11
Permalink
หินปูนในหูเคลื่อน
พี่สร วันก่อนสักประมาณ 2 เดือน พาแม่ไป รพ. ด้วยอาการบ้านหมุน ได้ยินเสียงให้หูวิ้ง ๆ ซึ่งแม่จะเป็นบ่อยมาก แม่อายุ 58 แต่เดือนหนึ่ง ๆ จะมีอาการ2-3 ครั้ง จนแจ้วผวา เวลาได้รับได้โทรศัพท์ เพราะจะต้องเตรียมตัวไป รพ. อีกแน่ ๆ ไปถึง รพ. หมอก็ฉีดยาแก้เวียนหัวทุกครั้ง นอนรอดูอาการให้ยามากิน... ทุกครั้ง
จนเราก็ชักจะทนไม่ไหวแล้ว... ระยะเวลาหลายเดือนที่แม่เป็นแบบนี้ การรักษาก็แค่นี้ พอวันนั้นมีหมอสาวคนนึง เหมือนกับเพิ่งจบไม่นาน พุดว่า อาจจะเกิดจากหินปูนในหูเคลื่อน...... ไอ้หยา ไม่เคยได้ยิน..... แล้วหมอก็ฉีดยาแก้เวียนหัวให้อีก 1 เข็ม แล้วนอนดูอาการ ถ้าไม่เวียนแล้วก็กลับบ้านได้
นี่คือ ใช้บัตรทอง.... ถ้าถามมากก็จะถูกมองหน้าอีก.... ยาที่ได้คือยาคลายเครียด ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้เวียนหัว ยาแก้ปวด รวม ๆ แล้วก็หลายแผง....... เพราะไปทุกทีได้ยาตัวใหม่ทุกที
พอครั้งล่าสุด ได้เจอหมออายุรกรรมฯ ก็บอกจะให้ฉีดยา 1 เข็ม ก็เลยเอ่ยปากถามว่า วันก่อนได้ยินหมอสาวบอกว่าอาจจะเป็นหินปูนในหูเคลื่อน กลับได้รับคำตอบจากหมอมาทันทีว่า คุณเคยเห็นใครเป็นโรคนี้แล้วยัง หมอเป็นหมอมานานยังไม่เคยรักษาคนป่วยโรคนี้เลย.....แฮ่วๆๆๆๆๆ นั่นคือคำต่อว่า.....
แต่แม่บอกว่าก่อนจะเกิดอาการ เหมือนกับว่า เวลารับโทรศัพท์ และคุยโทรศัพท์แล้วมันมักจะมีอาการเสมอ.... อาจจะมีส่วนจริง ๆ แต่ก็ไม่รู้จะรักษายังงัย นอกจากพยายามควบคุมการเปลี่ยนอิริยาบทให้ช้าลง..... ส่วนการบำบัดของพี่สรก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ อาจจะทำให้หินปูนที่เคลื่อนออกมาเข้าที่เข้าทาง อิอิ...นึกเอาเองค่ะ รอฟังพี่สรต่อนะคะ
ขอให้หายไว ๆ นะคะ
ดงดม
6 ธันวาคม, 2010 - 11:53
Permalink
แจ้ว......แม่พี่เพิ่งไปรักษามา
แม่ยายพี่ก็เป็นโรคนี้ ไปรักษามาหมอบอกว่า หินปูนในหูเคลื่นไปตกในหูชั้นใน ทำให้มีอาการแบบนี้ แล้วหมอก็รักษาโดยการเอาผู้ป่วยผูกติดกับเครื่องมือให้ทำหัวแก่งไปมาสักพัก แล้วให้ใส่แว่านตาของหมอๆดูจากแววตา แล้วบอกว่าหินปูนหลุดออกมาแล้ว แม่บอกว่าหายเป็นปลิดทิ้งเลย หลังจากนั้นหมอก็ใส่ปลอกคอล๊อกใว้สองวัน ห้ามเคลื่อนไหวไวๆ ทำอะไรให้ช้าสักสองวัน ตอนนี้หายเวียนหัว ไม่มีอาการผิดปกติ สรุปว่าหายเลย ผมขอบอกว่าโรคนี้รักษาไม่ยาก นะ แจ้ว ขอให้แม่หายไวๆๆนะ
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
6 ธันวาคม, 2010 - 21:32
Permalink
พี่ดม
ไม่หายขาดนะคะ แต่จะหายไปนาน แต่พอลืมๆ สักปีก็กลับมาอีก แก้วเป็นๆหายๆ มา5ปีแล้ว
ต้องพักผ่อนให้พอ ทานอาหารให้ถูกด้วยคะ ถึงจะไม่กลับมาไว
สร
7 ธันวาคม, 2010 - 09:38
Permalink
น้องแจ้ว
แม่อายุ 58 เองหรือค๊ะ...ขอแนะนำค่ะ...ให้น้องแจ้วโทรไปที่คลีนิคหู รพ.มอ.หาดใหญ่ นัดวันตรวจ ระบุหมอไปเลยค่ะ...อ.หมออารักษ์ จะตรวจแค่วันละ 15 คนเท่านั้น ถ้าเกี่ยวกับหินปูนเคลื่อนหรือหลุด พี่ว่าอย่างน้อยก็ได้ท่าในการกายภาพบำบัดกลับมา แต่ต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วย เช่น แม่เป็นความดันหรือไขมันในเส้นเลือดสูงหรือไม่...ช่วงแรก ๆ ที่เป็นพี่เครียดมาก ๆ คิดถึงขั้นจะขึ้นไปผ่าตัดที่ กทม.รู้สึกว่าจะมีหมอเชี่ยวชาญอยู่ที่ รพ.รามคำแหง
sorn07(แอ๊ด)gmail(ดอท)com
สายพิน
6 ธันวาคม, 2010 - 11:30
Permalink
ข้าวหมากอาจน่าสนใจค่ะ
เพิ่มอัลกอฮอล์ลนิดหน่อย พอเป็นยาแก้มึนๆเวียนๆ แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ยิ่งถ้าใครเป็นวัยทอง(หยอด)ล่ะก็ยิ่งน่าสนใจค่ะ แต่ไม่ทราบว่าจะขัดกับรักษาเรื่องน้ำในหูหรือเปล่านะคะ ไว้ต้องลองปรึกษาผู้รู้
ยายอิ๊ด
6 ธันวาคม, 2010 - 13:11
Permalink
อืม ดีจัง
ดูอาการแล้ว บางครั้งก็เป็นนะ แต่เดี๋ยวนี้ ช่างแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอะไร ทำวันนี้ให้ดีที่สุดค่ะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
Sopha B'
6 ธันวาคม, 2010 - 13:27
Permalink
ตอนแรก
นึกว่าเป็นความดันซะอีก เห็นพี่สาวเป็น ชอบบ่นว่าปวดหัว โรคนี้อยู่ ๆ เวียนหัว จะอาเจียน อย่างเดียวเลยหรือคะ
สาววาริน
6 ธันวาคม, 2010 - 17:46
Permalink
หายเร็ววันนะ
ได้ยินบ่อย ๆ ค่ะ ก็ค่อยๆหาย ส่งกำลังใจให้นะคะ
lekonshore
6 ธันวาคม, 2010 - 19:27
Permalink
พี่สร
ขอให้หายเร็ว ๆ นะค่ะ
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
tanapon
6 ธันวาคม, 2010 - 22:12
Permalink
เป็นเหมือนกัน
คุณพี่สรเป็นเหมือนกันกับน้องนกเลยค่ะ ตอนปลายเดือนมีนาคมปีนี้แหละค่ะไปงานแต่งงานของเพื่อนแฟนที่อำเภอสว่างแดนดินสกลนครค่ะเดินทางจากร้อยเอ็ดผ่านกาฬิสินธ์ไปต้องข้ามเขาลูกเตี้ยๆไป 2-3ลูก จึงจะถึงสว่างแดนดินงานเลี้ยงตอนกลางคืนก็ไม่ได้ทานเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เลยนะคะ พอตื่นมากลางดึกจะเข้าห้องน้ำปรากฏว่าบ้านหมุนจนตัวเซ ทีแรกคิดว่าลุกเร็วเลยนั่งลงใหม่แล้วค่อยๆลุก เหมือนเดิมเวียนหัวบ้านหมุนเลยใช้มือเกาะไปตามผนังห้องจนถึงห้องน้ำแล้วก็ทำธุระจนเสร็จก็ค่อยๆเซออกมาหลับตาแล้วก็นอนใหม่คิดว่าตื่นตอนเช้าคงหาย แต่พอตอนเช้าจะลุกออกจากที่นอนบ้านหมุนไม่หยุดเลยก็นอนอยู่อย่างนั้นแหละทั้งวันเลยทานแก็วิงเวียนก็แล้วยาหอมก็แล้ว ดมยาก็แล้ว เป็นอย่างนั้นอยู่ 3 วันเต็มเลยตัดสินใจไปพบแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับหู บอกรายละเอียดให้คุณหมอทราบหมดแล้ว คุณหมอก็เลยใช้เครื่องตรวจระดับน้ำในหู ปรากฏว่าไม่เท่ากัน คุณหมอก็เลยให้ยามาทาน 5 วันดูก่อน ถ้ายังไม่หายคุณหมอก็จะทำการวินิจฉัยรายละเอียดลึกลงไปอีก โชคดีที่อาการทุเลาลง ไม่งั้นกล้วคุณหมอจะบอกว่าต้องผ่าตัดหวาดเสียวมาก สาเหตุที่เป็นอาจเป็นเพราะว่าช่วงที่เดินทางไปนั้นตอนรถขึ้นเขาหูมันอื้ออาจจะกลืนน้ำลายไม่ทันหรือไม่ได้กลืนตลอดที่หูอื้อมันเลยมีอากาศเข้าไปดันน้ำที่อยู่ในหูเราให้ไม่เท่ากันค่ะ พี่สรสู้ๆ เดี๋ยวก็หายนะคะ
หน้า