รู้ไว้จะได้ระวัง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

      เมื่อวันพุธที่ 16 มีนาคม 2554 ย่าตอนได้ไปปิดทองรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชฌกูฏ


คนไม่มากเหมือนช่วงวัน เสาร์ - อาทิตย์  ขึ้นรถไป 2 ต่อแล้วเดินขึ้นอีกประมาณ 1 กม.


ตอนเดินขึ้นเหงื่อยังออกอยู่เลย ขณะปิดทองอากาศเริ่มเย็น ๆ  ต้องนอนค้างบนเขาพรุ่งนี้


เช้าถึงจะลง  ไปขอยืมผ้าห่มวัดมาคนละ 2-3 ผืน ลมพัดแรงมาก หนาวขึ้น ๆ เรียกว่า


หนาวถึงกระดูกดำเลย ผ้าห่มช่วยอะไรแทบไม่ได้  ยังดีนะที่ยังมีเสื้อกันหนาวติดตัวไปด้วย 


ไม่ได้หลับเลยจนถึงเช้า


       ทำวัตรเช้าแล้วฟ้าสางก็ลงจากเขา  เชิงเขาที่เราจอดรถไว้จะมีร้านขายอาหาร


ผักผลไม้  ต้นไม้เยอะแยะ ซึ่งไม่ซื้อไม่ได้เดี๋ยวกลับบ้านไม่ถูก  วันนั้นก็เลยได้ต้นกระวาน


ต้นดาหลา  ระกำเปรี้ยว  มะเขือพวง  และผักกูดสดมาก น่ากิน เป็นผักที่เห็นแล้วไม่ได้


ต้องซื้อ  กลับไปนี่ต้องตำน้ำพริกแน่นอน


        หลังจากไม่ได้นอนทั้งคืน  น้ำพริกไม่ได้ทำ  ขอนอนก่อน  อากาศก็ยังเย็นทิ้งผัก


ไว้นอกตู้ไม่ต้องแช่ด้วย  จนวันศุกร์ถึงเอาเข้าตู้เย็น  ดีแฮะไม่มีเหี่ยวเลย


        วันเสาร์เอาระกำมาทำน้ำพริกขยำ กินกับยอดผักเหลียงผัดไข่อร่อยมาก  เลยลืม


ผักกูดเสียสนิท  น้ำพริกขยำก็ตักไปแจกเพื่อน แจกน้อง


        วันอาทิตย์นึกถึงผักกูดได้  เลยแบ่งมา 1 กำ  ต้มน้ำให้เดือดพล่านเติมเกลือลงไป


1 ช้อนชา เอาผักใส่ลงไปลวกพอสุกตักขึ้นใส่อ่างน้ำเย็นทันที  จะทำให้ผักเขียวปี๋น่ากิน


กินกับน้ำพริก  กำเดียวกินคนเดียว  ตกกลางคืนทำไมปวดท้องนิด ๆ


        เช้าวันจันทร์ถ่ายท้อง 2 -3 ครั้งแต่ไม่ได้ปวดท้องมากก็เลยไม่ได้ทานยาอะไร


แต่จะมีอาการคล้ายกระเพาะปัสสาวะอับเสบ  ปัสสาวะไม่ค่อยออก  กังวลอยู่


แต่คิดไปว่านั่งเล่นคอมฯนานเกินไป  หยุดถ่ายแล้วก็เลยไม่ใส่ใจ


        จนเช้าวันพุธ  ตำน้ำพริกอีกกินกับผักกูดที่เหลือ  ยังสดปิ๋งอยู่เลยแต่คราวนี้


ลวกเสร็จไม่ได้แช่น้ำล้างน้ำเย็นแล้วกินเลย  ทำงานบ้างนั่งอยู่กับคอมฯบ้าง  ตกเย็น


ทำไมปวด ๆ ท้อง  ปัสสาวะก็ไม่ค่อยออก  เราต้องรักษาตัวเองก่อน ไม่ไหวแล้วค่อย


ไปหาหมอก็เลยกินขิงแคปซูลไป 4 เม็ด เพื่อช่วยย่อย  คืนนั้นนอนปวดท้องเหมือน


ไส้พองเต็มท้อง  ปวดหัว  ปวดกระดูกร้าวไปทั้งตัว  อยากถ่ายท้องแต่ไม่อยากลุกขึ้น


มันสลึมสลือ  เราก็มาคิดว่าเราเป็นอะไร  เรากินอะไร  ค่อย ๆ รวบรวมข้อมูลแล้ว


ใช่แล้ว  ผักกูดแช่ฟอรมาลีนแน่เลย  เปิดคอมฯเข้าไปดูซิว่าอาการของคนที่


กินผักแช่ฟอรมาลีนเป็นอย่างไร  ใช่เลย  เรากำลังเป็นอยู่  ทำไงดี  อ้อ  เรามีรางจืด


คุณสมบัติเขาใช้ล้างพิษได้ดี  ก็เลยต้มรางจืดกับใบเตยแถมชะพลู  ดื่มต่างน้ำอยู่


2 วัน  ก็เลยรอดตายได้มาเล่าเรื่องให้สมช.ฟัง   ยาวไปหน่อยแต่คงพอมีประโยชน์


บ้างนะคะ


 


                              

ความเห็น

เดี๋ยวนี้กินอะไรก็อันตรายไปหมด เข้าทำนองตาดีได้ตาร้ายเสีย เมื่อก่อนผักพื้นบ้านพวกนี้มันไม่มีราคา เดินป่าผ่านน้ำตกเดินกว่าจะถึงแคมป์ที่พักเก็บได้เป็นหอบๆ เอาไปผัดน้ำมันจิ้มกับน้ำพริกที่ติดตัวไป หรือไม่ก็ล้างกินสดๆ 

เป็นเพราะเดี๋ยวนี้คนเริ่มรู้และหันไปกินผักพื้นบ้าน ทำให้เกิดกระแสบริโภค ดีมานด์-ซัพพลาย วงจรอุบาทว์เหมือนเดิม จากที่เคยเก็บขึ้นตามธรรมชาติ ก็เริ่มปลูกขาย ทั้งขจร ผักกูด ฯลฯ ยิ่งมีความต้องการข้ามถิ่นยิ่งต้องหาวิธีถนอมผักให้คงความสดด้วยวิธีการไม่ดีแบบนี้ ต้องระวังค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะคะ

เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่ผักจากธรรมชาติแล้วค่ะคุณ slowlife เขาปลูกผักกูดขายแล้ว


แต่เราลืมไปเห็นว่าเป็นชานเมืองป่าเขา  คิดว่าเก็บมาจากเขา จากธรรมชาติ


ผักสวย ๆต้องระวังเลย พิษทั้งนั้น ปลูกกินเองดีกว่าค่ะ  ขอบคุณค่ะ

เปิดคอมมาก็เจอบล็อกของย่าตอนเลย  ดีออกค่่ะ เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ

ปลูกเอง-กินเองนั่นแหละ..สุดยอด เพราะเรารู้ว่าปราศจากพิษแน่นอนค่ะ

เขียนดีแล้วค่ะ  เติมภาพสักนิดแจ๋วเลย..อิอิ

แบ่งปันน้ำใจส่งต่อกันไป ....ไม่รู้จบ

ตอนเป็นนักเรียนเป็นเชียร์ลีดเดอร์เหรอคะ


รู้ไหมถ้าไม่เห็นป้าจิ๊ด  มีโกรธ


ส่งข้อความไปนานแล้วอ่านหรือยัง

มีเล่นคำด้วยนะ..อิอิ...ไม่ต้องเชียร์หรอกค่ะ  เขียนแบบนี้..มีแววค่ะ

อ่านแล้วค่ะ  เข้ามาเป็นพักๆตาไม่ค่อยดีน่ะค่ะ

แบ่งปันน้ำใจส่งต่อกันไป ....ไม่รู้จบ

น่าเป็นหว่ง...ขนาดกินผักพื้นบ้านแล้วนะ...แต่คนที่ไม่มีความรับผิดชอบ...ไม่คิดถึงคนอื่นยังมีอีกมาก...ขอบคุณที่บอกกันคะจะได้ระวังตัวไว้...

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

วันนั้นพอเดินเลยออกมาหน่อย  เขามีต้นผักกูดใส่ถุงไว้ขายเลยค่ะ


ต้นละ 20 บาทจะซื้อมาปลูกแล้วนึกขึ้นมาได้ ไม่มีที่ปลูก  อยากปลูกเอง


ให้หมดจะได้กินผักปลอดสารพิษ

ต้องขอขอบคุณย่าตอนมากที่นำเรื่องนี้ มาบอกเล่าให้สมาชิกได้รับรู้ครับ เป็นประสบการณ์ที่ประโยชน์มากครับ ว่าการที่จะเลือกซื้อผักผลไม้ทานจะดูที่ความสวย ความสดไม่ได้

อยากให้ทุกคนทราบค่ะ  จะได้ระวังและรู้วิธีแก้ปัญหาให้ตัวเอง


ใช้ภูมิปัญญาที่เรามีอยู่ดูแลรักษาตัวเองก่อน  ไม่ไหวค่อยไปหาหมอ


ยินดีค่ะที่ได้ช่วยกัน

ขอบคุณค่ะที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เราจะได้ระวังเวลาจะฃื้อหรือกินอะไร

หน้า