ได้รับ FW.mail มา ลองพิจารณาว่าจริงมั๊ย แล้วเราจะปรับเปลี่ยนวิถีของคนไทยให้ดีขึ้นกว่านี้ได้ไหม
10 ประเด็นที่ทำให้คนไทยล้าหลัง ในมุมมองของ วิกรม กรมดิษฐ์
ที่มาภาพ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=271638
1. คนไทยรู้จักตัวตนของเราเองต่ำมาก กล่าว คือ รู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะมีสำนึกต่อสังคมส่วนรวมสูงมาก ของเราจะไม่คำนึงถึงส่วนรวม แต่จะเป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา จนทำให้เกิดวัฒนธรรมสืบทอดกันมายาวนาน โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจทุกระดับชั้น จนมีคำพูดว่า ธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ทุกคนแสวงหาอำนาจเพื่อจะตักตวงเพราะความไม่รู้จักตัวตน ไม่รู้จักประเทศของตัวเองเช่นนี้แล้วทำให้ประเทศชาติของเราล้าหลังไปเรื่อย ๆ
2. การศึกษาของไทยยังไม่ทันสมัย สอนให้คนเห็นแก่ตัวมากกว่า ขาดจิตสำนึกต่อสังคม แม้แต่ภาษา คนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้เราขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ ประเทศอื่น ๆ รู้จักคนไทยน้อยมาก เพราะคนไทยไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง เราจึงตามหลังชาติอื่น เพราะคุณภาพการศึกษาของเราไม่ทันสมัย จะเห็นว่าคนมีฐานะ จะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า
3. คนไทยมองอนาคตไม่เป็น เท่าที่สังเกตเห็นว่าคนไทยกว่า 70% ทำ งานแบบไร้อนาคต แบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวัน ๆ น้อยนักที่จะวางแผนให้ตัวเองอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายที่ชัดเจนในอนาคต สะสมความสำเร็จไปอย่างเป็นลำดับ หรือเป็นเพราะไม่กล้าฝัน หรือไม่มีความฝันก็ไม่แน่ใจ และชอบพึ่งสิ่งงมงาย โชคชะตา พอใจทำงานแบบตำข้าวสารกรอกหม้อ ทำให้ประสิทธิภาพของเราไม่ทันกับการแข่งขันระดับโลก
4. คนไทยไม่ค่อยจะจริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ การรับปากของเรามักทำแบบผักชีโรยหน้า หรือเกรงใจ แต่ทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จากประสบการณ์ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติจะพบว่าประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น ญี่ปุ่น หรือยุโรป คนเขาจะให้ความสำคัญกับสัญญาข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว ซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้ ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิต ในการเชื่อถือด้านนี้ลงไปเรื่อย ๆ
5. การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประเทศของเรากระจุกตัวความเจริญเฉพาะในเมืองใหญ่ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกลจะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน ในต่างประเทศ การสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ห่างไกล แต่มีองค์ประกอบอื่น ๆ สนับสนุนเขาก็ลงทุน การสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคจะเป็นประโยชน์ ทำให้เป็นการลดต้นทุนในการดำเนินการทางธุรกิจอย่างมาก ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม
6. การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็งและดำเนินอย่างไม่ต่อเนื่อง สังคมไทยชอบทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกปราบปรามไม่จริงจัง อาจได้ยินกรณีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารก็ตาม
จะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง
7. สังคมไทยชอบอิจฉาตาร้อน ไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษและชอบเลี่ยงเป็นศรีธนญชัย เมื่อจนตรอกในวงการเราจะพบกระแสของคนประเภทนี้ปะปนมากขึ้น จะเพราะเป็นเพราะสังคมเรายอมรับหรือยกย่องคนที่มีอำนาจ มีเงิน แต่ไม่มีใครรู้ภูมิหลังโดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจเอาตัวรอดหน้าตาเฉย คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ายเสียอีก เพราะทำความเสียหายต่อบ้านเมืองมากกว่า และจะเป็นประเภทดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ทำให้คนดีไม่กล้าจะเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว
8. เอ็นจีโอบ้านเราค้านลูกเดียว ทำให้เราเสียโอกาสในการพัฒนา เพราะเอ็นจีโอบางกลุ่มที่อิงผลประโยชน์อยู่ ถ้าจะพูดกันแบบมีเหตุผล ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เอ็นจีโอดี ๆ ก็มีแต่บ้านเรามีน้อย กรณีน้ำท่วมเพราะไม่มีเขื่อนรองรับเพียงพอ พอเกิดน้ำท่วม พวกที่ค้านจะแสดงความรับผิดชอบด้วยหรือเปล่า บ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน
9. คนไทยอาจจะไม่พร้อมในเวทีโลก เพราะไม่ถนัดภาษาอื่น ที่ไม่ใช่ภาษาตัวเองทำให้โลกภายนอกไม่รู้จักคนไทยเท่าที่ควร และการจัดการตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลก ของเราขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดี ทำให้เราสู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้
10. คนไทยเลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบันเด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเองต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเอง ขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเองและเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม คุณวิกรมแสดงความเห็นว่าการอบรมเยาวชนมาจาก 3 ทาง หนึ่งภายในครอบครัว สองจากโรงเรียนและสามจากสังคม หรือสื่อสารมวลชน
ความเห็น
lekonshore
11 สิงหาคม, 2011 - 15:54
Permalink
อืม มันก็จริงค่ะ
ถ้าอย่างนั้นต่อไปจะเลี้ยงลูกแบบบุฟเฟ่นะค่ะ หากินเองล้อเล่ง ๆๆ
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
นู๋หวึ่ง
11 สิงหาคม, 2011 - 15:58
Permalink
พี่ตั้ม
ขอบคุณ ที่นำมาให้อ่าน เป็นความจริงทั้งหมด
ชีวิตไม่ได้เกิดมา เพื่อยอมแพ้
สร
11 สิงหาคม, 2011 - 16:21
Permalink
เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ค่ะ คุณตั้ม
วิธีแก้ยากเหมือนกันนะ คุณตั้ม ข้อ 10 อยากมีเวทีแลกเปลี่ยนระหว่างพ่อแม่เด็ก คุณตั้มจัดให้หน่อยซิคะ
sorn07(แอ๊ด)gmail(ดอท)com
รักบ้านเกิด
11 สิงหาคม, 2011 - 16:34
Permalink
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
โอกาสและฐานะในสังคมก็พอจะบอกได้ว่าประเทศไทยเจริญได้แค่ไหน เพราะสังคมไทยไม่เปิดโอกาสให้ฐานะทางสังคมเท่าเทียมกัน
สมศักดิ์ชาประเสริฐ
11 สิงหาคม, 2011 - 17:57
Permalink
การศึกษา
ส่วนมากความรับผิดชอบไม่มี เช่นนักเรียนให้ไปอ่านหนังสือห้องสมุด สรุปใจความไม่ได้เลยเพราะมัวแต่เล่น หนุ่มสาวที่มีครอบครัวส่วนมากจบแค่ชั้น ป.6 ผมสอนพ่อ สอนแม่แล้วต้องลูกของเขาอีก ???
หนุ่มชาวสวน
11 สิงหาคม, 2011 - 18:12
Permalink
พี่ตั้ม
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
prikhom
11 สิงหาคม, 2011 - 18:32
Permalink
คุณตั้ม
จริงทุกข้อ สังคมไทยเน้นแต่เรื่องเงิน ทำอย่างไรก็ได้ขอให้ได้เงินเยอะๆ
เลี้ยงลูกแบบโอ๋ทำให้จนช่วยเหลือตัวเองไม่เป็น
เอาเป็นว่า ขอให้อ่านแล้วก็นำมาเป็นแนวทางพัฒนาให้ดีขึ้น
ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ
thiwagonblackcat
11 สิงหาคม, 2011 - 19:27
Permalink
เห็นด้วยทุกข้อเลย ชอบมากก็ข้อ
เห็นด้วยทุกข้อเลย ชอบมากก็ข้อ 2 กับ ข้อ สุดท้ายท้ายสุด ลูกเทวดาของแม่
:uhuhuh:
RUT2518
11 สิงหาคม, 2011 - 19:48
Permalink
พี่ตั้มครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลดีๆ
sunavee21
11 สิงหาคม, 2011 - 20:21
Permalink
ถูกต้องนะครับ
ยิ่งอยู่ในวงการการศึกษา ยิ่งเห็นว่าเป็นจริงยิ่งกว่าข้อ 2 และ 10 ครับ
สวนจินตนาการ
นำจินตนาการ มาผสานให้เป็นจริง
หน้า