น้ำหมัก....น้ำหมัก....และน้ำหมัก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้ ขอเสนอ....แต่น แตน แต๊นนนนนนนนน

น้ำหมักเปลือกมังคุด (นอกรอบจากของลุงพูน)

หลังจากที่เอา น้ำหมักที่ป๊าทำนั้น มาผสมน้ำ กับ น้ำผึ้ง แล้วเอามากิน ที่ใต้ขวดจะมีตะกอน

ป๊ากับแม่ เลยจัดการ เอาตะกอนนั้น มาใส่อีกขวด รวมๆกัน ได้อยู่ในขวดผลไม้แช่อิ่มอยู่ขวดนึง

ตั้งไว้สักสี่ ห้าวัน วันนี้เอามาดู เอ๊ะ.... มันแปลกๆ ทำไมมันเป็นสองชั้นล่ะ

ชั้นบน เป็นเหมือนฟิล์ม ที่จะค่อยๆโตเป็นวุ้นต่อ

แต่ชั้นล่างนี่สิ มันดูเหมือนจับตัวกันเป็นก้อน....

ตอนนี้เลยสงสัย ว่าจะเอาตรงไหนมากินได้ก่อน หรือว่า...ต้องรอมันต่อไปอีกถึงจะเอามากิน

เอ๊.....ยังไงดี

รอคนมาตอบ (แล้วลุงพูนเราไปไหนล่ะเนี่ย...สงสัยผู้เฒ่าจะเอนหลังเร็ว หุหุ)

 

หลักฐานคาตา ว่ามันเป็นสองชั้น

ความเห็น

รอด้วย...ยังตกลงไม่ได้ใช่มั้ยคะว่าจะกินตรงไหน...

ชีวืตที่เพียงพอ..

เรียกว่า เป็นการตกลงใจไ่ม่ได้ของตัวเองดีกว่าค่ะ เหอๆ

รอผู้เฒ่าประจำบ้านมาตอบ แต่ตอนนี้คงหลับไปนานแล้ว งุงิ งุงิ

กำลังคิดว่า ถ้ามาตอบช้า จะช้อนมากินให้หมดขวดเลย อิอิ

ถ้ารู้จักพอดี....ทุกอย่างก็ดีพอ

          น้ำหมัก หรือที่จริง คือ น้ำส้มสายชูหมัก (จากเปลือกมังคุด) ที่เอาไปให้ใช้กันนั้น ป๊าตักเอาแต่น้ำมากรองใส่ขวดเอามาให้ใช้กัน 

          วุ้นเป็นผลพลอยได้ (by product) จากการหมัก วุ้นที่เราคุ้นเคยกันก็คือ วุ้นน้ำมะพร้าว ที่เอามากินกับน้ำแข็งใส เพราะฉนั้น กินได้ทั้งเนื้อและน้ำ 

          ในขวดหรือในถังหมัก ถ้ามีน้ำตาลผสมอยู่ด้วย เชื้อจะเจริญเติบโตต่อไป น้ำหวานๆในถัง ก็จะเปรี้ยวขึ้นเรื่อยๆ จากเปรี้ยวน้อยๆ จนกระทั่งเปรี้ยวจึ๊ด ขณะเดียวกัน วุ้นก็จะหนาขึ้นเื่รื่อยๆ หากไม่ถูกกระทบกระเทือน แต่ถ้าภาชนะที่ใช้หมัก ได้รับความกระทบกระเทือน วุ้นก็จะแยกตัว ก่อชั้นใหม่ขึ้นมา ลองกลับไปดูบันทึกก่อนของป๊า ที่มีรูปกำลังหยิบวุ้นขึ้นมาให้ดู

          การกิน ให้กินน้ำตามเดิม ส่วนวุ้นค่อยตักออกมากินวันหลัง หรือจะรอขวดต่อไป ตอนนี้เชื้อน้ำหมักกำลังขมักเขม้นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

http://www.bansuanporpeang.com/blog/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%94-541

อ่านรอบเดียวเข้าใจเลยค่ะ ลุงพูน อ่านอีกรอบช่วยให้จำแม่นยำขึ้น ... บันทึกนี้มีชีวิตชีวานะคะSmile

ขอบคุณค้าบบบบบบบบ

ถ้ารู้จักพอดี....ทุกอย่างก็ดีพอ

ลูกสาวป๊า(ลุงพูน) มีลีลาการเขียนเห็นภาพและชวนอ่าน มีชีวิตชีวาอีกต่างหาก พลอยได้ต่อยอดการทำน้ำหมักด้วย (เคยเห็นก้อนหนาเป็นนิ้วกว่าเลยค่ะ พี่ชายทำ)อ่านไปยิ้มไป ชวนให้อยากขอแบ่งชิมบ้างอ่ะค่ะ ... แล้วยังได้ทราบบรรยากาศในบ้านว่าอาป๊าไปเอนหลัง คุณแม่กับอาป๊าช่วยกันทำงาน เรียกว่าทำงานกับเป็นทีมในบ้าน อีกหนึ่งครอบครัวที่มีความสุขกับชีวิตบ้านที่พอเพียงและขยันค่ะ ขอบคุณนะคะ ...ชื่อล้อคอินจะเรียกเป็นชื่อ(พิมพ์ไทย)ง่าย ๆ ว่าอะไรดีนะคะ เรียกก้อย หรือว่า กลอยได้ไหมคะ(ตั้งให้เอง ป๊าอ่านจะตกใจว่าเปลี่ยนชื่อให้ลูกสาว อิอิ)

          ขอบคุณคุณสายพินครับ

          ชื่อ ล้อคอิน ว่าจะให้เปลี่ยนเป็นคำที่ใครๆก็อ่านได้ง่าย แต่ว่าตอนนี้จะเป็นชื่อที่ซ้ำกันอยู่ครับ

          แบบว่า สมัครมาโดยไม่ทราบล่วงหน้า ก็เลยไม่ได้ให้คำแนะนำสำหรับการตั้งชื้อ ล้อคอิน ครับ

กินได้ด้วยหรอ....ยังไม่ค่อยเข้าใจ


:confused:

ป้าแมว....

น้ำหมักนี้ เอามากินได้ค่า โดยผสมกะน้ำผึ้ง และ น้ำ ในปริมาณที่เท่าๆกัน จะได้รสชาติเปรี้ยวๆหวาน

แต่จะให้ดี กินในปริมาณน้อยๆก่อน เพราะอาจมีอาการ มึน หรือ บางคนอาจจะมีท้องเสียบ้าง เนื่องจากเป็นการขับออกมาค่ะ

วุ้นมันก็เอามากินได้ค่ะ เปรี้ยวๆ เหนียวๆเหมือนวุ้นมะพร้าวค่ะ

ตามดูต่อในบล๊อกของลุงพูนนะคะ

http://www.bansuanporpeang.com/blog/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%94-541

ถ้ารู้จักพอดี....ทุกอย่างก็ดีพอ

แวะมาดูน้ำหมักค่ะ^^


^^อยู่กับความสุขที่พอเพียง^^

หน้า