...........ที่มา(๕)
ความกังวลใจลึกๆ จะกัดกร่อนอยู่ข้างในจนกลายเป็นความเครียดเสมอ เมื่อรู้ว่างานที่เป็นองค์ประกอบร่วมของงานหลัก เป็นงานที่ตัวเองไม่ถนัด หรือจะพูดให้ถูกต้องว่าไม่มีพื้นฐานใดๆ เลย
นึกย้อนไปในสมัยที่ทำงานประจำเกี่ยวกับระบบโสตทัศนูปกรณ์ งานที่ถนัดคืองานถ่ายภาพ มีกล้องเป็นของตนเอง…ในขณะที่หน่วยงานที่ผมทำอยู่ยังไม่มีอุปกรณ์มากพอที่จะดันให้งานเดินหน้าต่อไปได้
งานที่รับผิดชอบคงไม่พ้นงานถ่ายภาพ
โชคดีที่ผมชอบ,ถนัด และทำได้ดีเท่าที่มีความสามารถในขณะนั้น
หัวหน้างานของผมสอนให้ผมเริ่มงานอย่างอื่นเป็นการเพิ่มเติม นั่นคืองานตัดต่อวิดีโอด้วยเครื่องลิเนียร์(มือหมุนและแป้นคอนโทรลแบบแมนน่วล-นิ้วจิ้ม) พื้นฐานของการใช้เครื่องมืออย่างชำนาญนับได้ว่าสำคัญมากในการลดปัญหาอย่างแรกของการเริ่มงานในลำดับถัดไป หากแต่พื้นฐานของการลำดับภาพเคลื่อนไหวให้ลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ(ตามบท+ด้นสด+ปัญหาเฉพาะหน้าโดยมีเวลาไล่กวด)นั้นสำหรับผู้ที่ไม่ได้ร่ำเรียนมาจากสถาบันใดๆ สำคัญมากกว่าและยากกว่าการใช้เครื่องมือหลายเท่าตัว
นับเป็นโชคดีที่นอกเหนือจากได้เจ้านายดีแล้ว...ผมชอบดูหนัง ชอบฟังเพลงเกือบทุกแนว ช่วงนั้นผมสะสมเพลงแปลกๆ ซาวด์แปลกๆ ไว้ค่อนข้างมาก
ผมนำมันทั้งหลายมาประยุกต์ใช้ผ่านการทำงานและรอดพ้นมาได้หลายงาน
....กระทั่งยุคคอมพิวเตอร์เข้ามา
ระบบการลำดับภาพด้วยคอมพิวเตอร์(นอนลิเนียร์)เข้ามาแทนที่ระบบเก่า และเจ้านายผมก็ส่งผมไปอบรมการใช้งานมันจนคล่อง
ปัญหาต่อมาที่ผมต้องเจอคือองค์ประกอบร่วมของการทำงานที่ต้องใช้ทั้งโปรแกรมตัดต่อ กราฟฟิก ฯลฯ ร่วมกับการใช้องค์ประกอบทางศิลปะมาร้อยเรียงเข้าด้วยกันกลายเป็นงานหนึ่งชิ้น ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาที...แต่ใช้เวลาทำงานเป็นอาทิตย์
นอกเหนือจากการประชุมบท(สะคริปต์)ร่วมกับหน่วยงานอื่น ออกกองถ่าย ฯลฯ งานสุดท้ายก่อนออกอากาศหรือใช้งานเพื่อการนำเสนอ ต้องมากองป็นจุดสุดท้ายที่ผม....
ความเครียดแทบจะลงไปกองในเม็ดอัณฑะ!!
แต่ท้ายสุดก็ผ่านมาได้ ทุกฝ่ายพึงพอใจ ไม่มีใครสนใจว่าจะผ่านขั้นตอนหรือแลกกับอะไรมาบ้าง
รู้ไหม..? ถึงตอนนี้ผมออกมาใช้ชีวิต ทำงานบางอย่างที่ตัวเองถนัด ชอบ และคิดล่วงหน้าแล้วว่าหากได้ทำจะทำได้ แม้ไม่ได้ดีเท่ามืออาชีพ แต่หากไม่มีงานชิ้นแรก ก็จะไม่มีวันได้เริ่มงานชิ้นต่อไป หากยังย่ำอยู่ที่เก่าโดยไม่พัฒนาจะด้วยขีดจำกัดด้านไหนก็ถามแสดงว่าต้องเรียนรู้เพิ่มขึ้น
โดยเหตุผลส่วนตัว...เวลาในเรียนรู้สรรพวิชาในโลกนี้ผมยังเจียดไว้เยอะ ส่วนเวลาในการมีชีวิตใครจะรู้ว่าจะยาวนานแค่ไหน
ใช้เวลาเรียนรู้กับงานถัก งานซองหนัง ฯลฯ แม้จะไม่เรียบร้อยเท่ามืออาชีพแต่ผมก็พยายามอย่างที่สุดแล้วเท่าที่ภูมิมี เครื่องมือมี ณ ช่วงเวลานี้..(มิถุนายน ๒๕๕๓)
อย่างที่บอกครับ..เวลาในการเรียนรู้สรรพวิชาของโลกนี้สำหรับผม...ยังมีอีกยาวไกล
ไม่รู้เคยอ่านเจอที่ไหนว่าไว้ว่า ชีวิตคือการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เริ่มจากเรียนรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้แค่ไหนสำหรับ "บางคน" นับว่ายากกว่าการปอกกล้วยเข้าปากแล้วเคี้ยวกลืน
ครับ...บางคนที่ผมว่า - คือผมเอง
…………………………………………………………………………………………..
- บล็อกของ sailomloy
- อ่าน 7146 ครั้ง
ความเห็น
sailomloy
27 มิถุนายน, 2010 - 07:46
Permalink
ผมเสียดายของ(เก่า)อ่ะครับ ส่ว
ผมเสียดายของ(เก่า)อ่ะครับ
ส่วนเวลาในการมีชีพ...มันแว๊บเข้ามาขณะนั่งเล่านี่แหละ
โชคดีที่ผมไม่รู้ว่า จีดีพี แปลว่ากะไร
ไม่งั้นปวดบั้นเด้าแหงมๆ
ออกปากรุนท็อกที !!!
ตั้ม
27 มิถุนายน, 2010 - 06:34
Permalink
เคยเหมือนกัน..ช่วงหนึ่งของชีวิต
เรื่องงานช่าง..ผมต้องถอยห่าง..ไร้ฝีมือโดยสิ้นเชิง อ่านของคุณสายลมแล้วมาสะดุดที่เรื่องสะสมซาวด์ ผมเองช่วงหนึ่งก็เคยเก็บสะสมซาวด์(สมัยเรียนและทำงานช่วงต้นชีวิต) เป็นรุ่นเทปมีเป็นกล่องใหญ่เลย เอาไว้ใช้ประกอบการทำละครเวทีบ้าง งานแสดงแสงสีเสียง (เล็กๆ..แสดงภายใน) สไลด์ บ้าง...ไม่ใช่งานหลักแต่เป็นงานชอบที่หาคนทำไม่ค่อยได้(ถ้าไม่จ้าง)..หลายปีมานี่..แทบไม่ได้แตะ..แม้แต่เรื่องเพลงทั่วไป..ซึ่งผมหยุดมาเกือบ 20 ปี..อาจเป็นเพราะบ้างานมากในช่วงนั้น..คิดย้อนแล้วเหนื่อย..ผ่านมาได้ยังไงก็ไม่รู้
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
sailomloy
27 มิถุนายน, 2010 - 07:44
Permalink
ความหลัง....ความหลัง... ผมชอบ
ความหลัง....ความหลัง...
ผมชอบคำนี้อาจเพราะ วัย
ชิมิ?
ออกปากรุนท็อกที !!!
น้ากล้วย
27 มิถุนายน, 2010 - 07:31
Permalink
เนื้อเรื่องดีเยี่ยม
งานของสาย ลม ลอย แฝงไว้ด้วยคติเสมอ ตามแนวทางธุรกิจ เป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้า ดี ๆ พ่อกวี อิเล็คทรอนิค
sailomloy
27 มิถุนายน, 2010 - 07:43
Permalink
แหม..น้ากล้วย
แหม..น้ากล้วย เรียกพ่อกวีอิเล็กฯ
เอิ๊กๆ
ส่วนเรื่องธุรกิจ...ผมไม่มีหัวทางนี้เลยจริงๆ นี่เป็นแค่เรื่องเล่าครับ..เล่าถึงที่มาที่ไป
ของผม
ออกปากรุนท็อกที !!!
จันทร์เจ้า
27 มิถุนายน, 2010 - 07:52
Permalink
เพลินเลย
ชอบเรื่องเล่าเช้านี้มากๆเลยค่ะ ตอนแรกจันทร์เจ้าคิดว่าเล่าเรื่องมีดๆๆๆ ก็เลยไม่สนใจ แต่พอได้อ่านแล่ว โอ้ว....ประทับใจมากเลย ขอบคุณมากนะคะ สำหรับเรื่องเล่า และประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ต่อไปนี้ จะอ่านๆๆๆๆค่ะ อิอิ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
แดง อุบล
28 มิถุนายน, 2010 - 09:50
Permalink
ชอบอ่าน
ชอบการเขียนค่ะ
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
หน้า