อาชีพหลักหรืออาชีพรองดี

หมวดหมู่ของบล็อก: 

  ผมทำงานประจำเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง อายุงานก็จะครบสิบหกปีแห่งความหลังแล้วครับ ผู้เฒ่าผู้แก่เคยพูดใหฟังบ่อย ๆ ว่า " ไก่ชนถ้าวิ่งชน เลี้ยงไปก็เสียข้าวเปลือก " ครับผมเห็นด้วย แต่นี่ผม " วิ่งสู้ฟัด "  ผมทำมาหลายปีแล้วตั้งแต่ชีวิตติดลบ มาวันนี้มีบวกเข้ามาให้เห็นรำไรแล้วครับ มาชมกันครับ



  เจ้าเสือน้อยของลูกสาว วันนี้หลังจากเลิกจากงานประจำ แปดโมงเช้า ผมทำงานเป็นกะครับ สลับสับเปลี่ยนกันไปเรื่อย ๆ กลางวันสองอาทิตย์กลางคืนหนึ่งอาทิตย์ ถึงบ้านเก้าโมงตรง จับเจ้าเสือน้อยของลูกสาวเข้าสวนยาง ไม่ไกลจากบ้านครับ



  เปลี่ยนยูนิฟอร์มเรียบร้อยให้น้ำให้ท่าก็ลงมือครับ



  ไปถึงสวน ผบ. เตรียมพร้อมในสวนอยู่ก่อนแล้วหลังส่งลูกสาวสองคนไป รร.



ไม่ได้สร้างภาพเอาจริงเลยครับ คุณแดงกับอ้ายเวทย์ คงจะได้สัมผัสสักวัน นะครับ คุณ ลำไย เล่นเขียดไม่ต้องกลัวคาว แต่นี่ไม่คาวครับพี่น้อง ...กลิ่นไม่ต้องห่วง



  ทำงานหกคืนครับ เก็บจำหน่าย ไม่มาก กก. เพราะยางประมาณสามร้อยต้น



  คนตัดยางไม่สบาย ลำบากตั้งหลายสิ่ง ครับ กลิ่นเหงื่อกลิ่นขี้ยาง ติดเสื้อผ้าอยากอาเจียร แต่คงไม่ใช่ผมหรอกครับ มันเป็นอาชีพ



  ได้สามเข่งเข่งเกือบสี่ครับ เข่งละ 30 กว่า กก. ๆ ละ 41 บาท ครับ



 ลุ้นน้ำหนักครับ ขี้ยางถูกแต่ข้าวสารแพง เพลงบอกคนใต้ว่าไว้นานแล้ว



  ฮะฮ้า ชื่นใจ ผบ. หายเหนื่อยครับ พอแปลงสภาพก็เปลี่ยนกลิ่นครับ



 ต้นยางที่โค่นล้มเพราะเป็นโรครากขาวจากเชื้อราครับ



 ว่างโล่งเกือบ 1 ไร่ครับ ว่าจะหาต้นปาล์มมาปลูกครับ กันเชื้อราระบาด ไม่งั้นลุกลามไปเรื่อยครับต้นยางยืนตาย เรื่อย ๆ


  เสร็จจากเรื่องยางก็มาที่แปลงผักในสวนยางเล็กครับข้างบ้าน จ้างเค้ามาเก็บถั่วฝักยาวและมะระขี้นก ที่เริ่มจะร่วงโรยตามวันเวลาครับ



 ได้มะระสามถุงเศษครับ ถุงละ 5 กก. ๆ ละ 14 บาทครับ



  มัดถั่วใส่ถุงครับ ถุงละ 5 กก. ๆ ละ 15 บาท



  อาชีพเกษตรกรไม่มีอะไรแน่นอนครับ ราคามีขึ้นมีลงตามกลไกตลาด ของผมมีแม่ค้ามารับถึงสวนครับ ค่ายาค่าปุ๋ยสารพัด ดีอยู่อย่างใส่ปุ๋ยให้ผัก ยางก็พลอยได้กินด้วยถือว่าได้สองอย่างครับ



 ทำเองสองคน ผบ.ก็คงแย่ละครับ ต้องหาแรงงานมาช่วยตลอด แบ่ง ๆ กันทำ แบ่ง ๆ กันใช้ พอมีรายได้ด้วยกัน อุดหนุนจุนเจือไปด้วยกันครับ



  นี่ครับสุกคาต้นเยอะแยะครับ



 


  นี่ครับ สภาพของซุ้มมะระเริ่มหมดสภาพไปตามอายุขัยครับ



   พาเจ้าเสือน้อยมาแวะรองผลฟักข้าวตามที่พี่เสินเตือนครับผม 


 นี่ครับเล่นไม่เลิก



  ค้างเดียวกันกับที่เจ้าเสือน้อยแวะมาครับ



  ลาก่อนนะครับ พบกันบล็อกหน้าครับ สวัสดีครับ


  ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง ขอบคุณครับ

ความเห็น

เป็นกำลังใจให้ครับ

     :cheer3: :cheer3: :cheer3:

  ครับขอบคุณครับ

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

บริเวณที่ยางตายผมคิดว่าน่าจะลงไม้ยืนต้นพวกตะเคียนทอง มากกว่าปาล์ม เพราะปาล์มต้องการแดดจัดทั้งวัน ในสวนที่ยางล้มไปแดดอาจไม่พอ ต้นปาล์มก็เจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ ที่แนะให้ลงตะเคียนเพราะว่า ตะเคียนปลูกในที่ร่มได้ดี ต่อไปทำเป็นค้างให้เสารสได้อีก และขยายพื้นที่ปลูกผักไปยังบริเวณนั้น และทำน้ำหมักชีวภาพ รดพื้นที่ที่ยางเป็นโรค จะช่วยให้เชื้อโรคลดลงได้ เพราะจุลินทรีย์ตัวดีมีมาก

  ครับลุงพูนผมนึกเห็นภาพเลยครับและก็ยังมีต้นกล้าตะเคียนทองเหลืออยู่อีกสิบกว่าต้นน่าสนใจครับ อีกทั้งยังมีเมล็ดพันธ์เสาวรสของคุณติ๋มครับ (มังคุดหวานฯ ) ที่ผมยังหาทำเลเหมาะ ๆ ไม่ได้ที อะไรมันจะพอเหมาะพอดีกับความคิดลุงพูนขนาดนั้น ที่ว่าจะปลูกปาล์มใช่ว่าจะหวังผลอะไรหรอกครับ เพียงแต่ว่ารากปาล์มจะดูดซับเชื้อราที่ระบาดและระงับการการลุกลามในพื้นที่นะครับ ผมมีสองช้อยให้ตัดสินใจครับ รอฟังผลลัพธ์นะครับ ขอบคุณนะครับลุงพูนสำหรับคำแนะนำที่ดี

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

:cheer3::cheer3::cheer3:เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ สู้ๆ นะคะ

   พออยู่ พอกิน พอใช้ พอใจ = พอเพียง

  ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

แบ่งเวลา ทำได้สองอาชีพ เก่งมากก่ะชื่นชมด้วยใจจริงค่ะ สู้ๆๆ :cheer3: :cheer3:

  ขอบคุณครับ

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

แหม...พี่บ่าว กินฟักข้าวไปลูก..สองลูก หล่อขึ้น หนุ่มขึ้นทันตาเห็นเลยน๊า...ผบ. ก็น่ารัก ขยันทั้งบ้านเลย...:love:

  ขอบคุณนะครับเจ๊นันท์ ไม่เสียทีที่เฝ้ารอมาเป็นปีครับ ขอบคุณสำหรับคำชม

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

หน้า