ขี้ ... แล้วนะนี่ ... ยัง ... !

หมวดหมู่ของบล็อก: 

    ก่อนที่จะจารอักษรใด ๆ ลงในบล็อกนี้ ข้าพเจ้าต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ก่อน ... ด้วยว่า แม้ขั้นจั่วหัวบล็อกนี้ ก็ก่อความรังเกียจให้ท่านผู้อ่านซะแล้ว

    ลงได้ชื่อว่า “ขี้” ... แค่ฟัง บุถุชนทั่วไป ก็ให้รังเกียจซะแล้ว ...

      คงมีพวกเดียวกระมัง ที่ชอบ และ เห็นประโยชน์ของ “สารพัด ขี้”

    ก็ เกษตรกร ผู้มีกสิกรรมธรรมชาติอยู่ในหัวใจ ไงครับ ... แต่ถึงงั้นก็เหอะ ผู้ชื่นชอบสารพัดขี้ เหล่านี้ ก็ยังรังเกียจ ขี้ หนึ่งอยู่ดี .... มันคือ

         “ขี้เกียจ” ... ไงครับ

    อันว่าเจ้า “ขี้เกียจ” ไปแทรกอยู่ที่ไหน ... กับใคร ... บอกได้ล่วงหน้าว่า “ยากจะหาประสิทธิภาพ และคุณภาพ ที่สมบูรณ์ ของผลลัพธ์ แห่งกิจกรรมนั้น ๆ”

    ที่จะนำมาเล่า ในบล็อกนี้ ก็เป็นเรืองทำนองนี้แหละ ... ทั้งเป็นตัวขี้เกียจ ที่แฝงเข้ามา โดยข้าพเจ้า มิได้มีเจตนาเลี้ยง แต่ประการใด ... ให้ฟ้าลั่น (ฟ้าร้อง) ซีเอ้า ... เรื่องของเรื่องมีว่า

        ข้าพเจ้าไปเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่ง ที่เกาะยอ สงขลา

    เขายกกล้วยมาให้วางเบื้องหน้า หวีหนึ่ง พร้อมบอก ... “กินแลตะ กล้วยนางยา” (กินดูซีกล้วยนางพญา)

    ข้าพเจ้าเอื้อมมือ ไปบิดผลกล้วยออกมาใบหนึ่ง ทำท่าจะปอก ... ฉุกจำบางอย่างได้ ... แหงะมองหน้าเพื่อน... เห็นเขาก็กำลังจับตามองอยู่เช่นกัน ... เป็นที่รู้กันในระหว่างกลุ่มเพื่อน ๆ เสียงหัวเราะเลยถูกเปล่งออกมาพร้อมกัน

        “กูว่า อีแลลีงกินกล้วยหีด ... โหร่ตัวเสียแล้ว” (ฉันว่าจะดูลิงกินกล้วย ซะหน่อย รู้ตัวซะแล้ว) เสียงปรารภจากเพื่อน (ขออภัยที่ใช้ภาษาไม่ประเทืองโสต)

        “เออ ... กูโหร่และ” (เออ ... ฉันรู้แหละ) ข้าพเจ้าบอก พลางลอกเปลือกกล้วย ออกเป็น 4 แฉก ส่งเนื้อกล้วยที่ปอก เข้าปาก (เวลาใครทานกล้วย  เพื่อน ๆ กลุ่มนี้ จะคอยจับตาว่า หากปอกเปลือก สามแฉกลงมา ก็จะถูกหาว่า ยังมีสัญชาติญาณ ของลิงอยู่) ... กลืนกล้วยแล้วบอกเพื่อนว่า ...

          “รสชาติดีนะ ใบก็ใหญ่”

      “อือ ... เขาให้หน่อมาปลูก ... มึงเอาไปปลูกมั่งลอง” (เอาไปปลูกลองดูบ้างซี)

    นั่งคุยกันด้วยเรื่อง สัพเพเหระ ตามประสาเพื่อนที่นาน ๆ เจอกัน ... จนข้าพเจ้าลากลับ เขาชวนลงสวน ขุดหน่อกล้วยที่ว่า ให้ 2 หน่อ ... ปฏิเสธ ก็ไม่ยอม หิ้วมายัดใส่กระโปรงท้ายรถจนได้

    กลับถึง สุราษฎร์ฯ เตรียมจะไปเข้ารับการอบรมที่ “ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ สองสลึง” เสียดาย หน่อกล้วยที่เพื่อนยัดเยียดมา ... เลยทิ่มลงดิน ไว้อย่าง “ขี้เกียจ” ๆ ... ไม่ได้ดูแลอะไรเท่าที่ควร ... ก็ “ขี้เกียจ” อีกนั่นแหละ!

    กลับลงไปเที่ยวที่ผ่านมา เดินลงไปดู ผักเขลียง ที่ขยายไว้ และ มะนาวที่ปลูกไว้ในท่อซีเมนต์ ... เดินลอดเฉียดกอกล้วย กอที่ว่า สะดุดตากะสีสุกเหลือง ของผลในเครือ

         เดินกลับไปเอามีดพร้า มาโค่นต้น

 

 

 

 

              ตัดเครือ แบกกลับบ้าน ...

         ลูก เห็น ... ร้อง ... อู้ ... ฮู !

    ขอถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อน ๆ ดู ... เลยจัด Pose ด้านข้าง ให้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     เอาจาก Top view บ้าง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

              ถ่ายที่ตัดแยกหวีออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

    ตัดก้านขั้วบนออก ...

       ลูกไปหาขวดน้ำอัดลม มาวางเทียบ แล้ว แช๊ะ ! ...เข้าให้

 

 

 

 

 

 

    เห็นแล้ว ก็ให้สำนึกว่า ... “นี่ ขนาด ขี้ ... ขี้ ... แล้วนะนี่ ... ยัง ... !

       คือ “ขี้เกียจ” ไงครับ ... ถ้าข้าพเจ้าไม่ขี้เกียจ ... คงได้ผลผลิตที่ดีกว่านี้ นะ”

    บอกกะตัวเองว่า ... จงจำไว้ ... ทีหลังอย่าทำ ! ... ทีหลังอย่าทำ !

              เลิก “ขี้” ซะที ... ใช่ ... “ขี้เกียจ” นั่นแหละ ....!

ความเห็น

   ครับ ! ...

     อันว่า "กล้วย" ต้องชื่นชมเขาแหละ ... ที่ออกมาอย่างที่เห็น

       แต่สำหรับผู้ที่นำเขาไปทิ่มลงพสุธา แล้วไม่เหลียวแลตามควร จึงควรจะจัดให้อยู่ในวรรณะ Reprobation ซะมากกว่า ... ฮึ ๆ ๆ

       

ดกจัง1หวีมีกี่ลูก

   หวีที่ลุกถ่ายไว้ แล้วเอามาให้ดู ถามลูกดูแล้ว ได้รับคำตอบว่า

     ประมาณ 27 - 28 ครับ

   เป็นพันธุ์กล้วยที่น่า ปลูก ครับ ... ไม่ดูก็ยังได้ เห็นไหมเอ่ย

  ลุงพาโลครับ หากขี้แล้วยังได้ขนาดนี้ถือว่าสุดยอดครับลุง

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

   แค่นี้ก็ประจานตัวเอง โขอยู่แล้ว ...

     เขาดี เพราะสายพันธุ์เขาดี มากกว่า ... ลุงนำมาเสนอเอาหน้า แบบชุมมือเปิบ น่ะครับ

ตกใจหัวข้อลุงพาโลอีกแล้ว  เพราะยังคิดว่าเรื่องขี้ปลาหุด กล้วยเพอเฟคมาก

ความพอเพียงจะทำให้ชีวิตมีความสุขแบบยั่งยืน

   ต้่องขออภัยอย่างยิ่ง ครับผม ... ที่สร้างความเข้าใจผิดให้ 

หน้า