ข้าคือ..ชาวนา..ชาวสวน..(แม้จะสมัครเล่นก็เหอะ)..

หมวดหมู่ของบล็อก: 


เมื่อลมหนาวเริ่มโชยมา..รวงข้าวจ้าวอีดอ(ข้าวพันธุ์เบาพันธุ์ชนิดหนึ่ง .มั้ง..)..ก็เริ่มแก่พอที่จะเกี่ยวได้..ผมเองก็ได้เวลาเป็นชาวนา..ข้าวที่สวนไม่ค่อยงามเพราะเจอฝนทิ้งช่วง..และต้องเกี่ยวไปหารวงข้าวไป..เพราะข้าวห่างเหมือนคนฟันหลอ..แดดก็ร้อนหญ้าก็เยอะคนก็ยังอยู่ในช่วงมึนๆ..อืมม์..ลำบากนะเนี่ย..ทำไงได้ก็ใจมันเรียกร้องอยากเป็นชาวนามากกว่าราชการ..ความทุกข์ที่ว่าก็กลายเป็นความสุข..ไม่ต้องอิจฉานะครับพี่น้อง..คนหน้าตาดีทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด..ฮ่าๆๆๆๆฮิ้วววว..



เดาเอาว่าเนื่องจากสภาพจิตใจของผมในช่วงนี้อาจจะไม่ปกตินัก..แม้ว่าพี่สาวและพี่ชายจะไม่พูดออกมา..แต่ผมรู้ว่าพี่ๆห่วงผมเลยไล่ผมไปทำอย่างอื่นไม่ให้เกี่ยวข้าว..กลัวเกี่ยวมือตัวเอง..ผมเลยได้เป็นชาวนาประมาณชั่วโมงเดียว..เอะ.หรือพี่กลัวผมดำมากกว่าเดิมก็ไม่รู้..ฮ่าๆๆฮิ้วววว..



ผมถือโอกาสไปสำรวจป่าสงวนน้อยๆ..ที่ห้อยๆเป็นพวงนั่นคือ"ผลต้นพอก"..ส่วนชื่อเข้าโรงเรียนของต้นพอกผมไม่รู้จักครับ..แหะๆๆ..เท่าที่เคยเห็นผลพอก.วัว.ควาย.กินเป็นของหวานหลังจากกินหญ้า..เดาว่า.วัว.ควาย.อมเอาไว้เคี้ยวเอื้องจะได้ช่วยย่อยอาหาร..และคายเม็ดออกมา..ส่วนผมก็ไปเก็บเม็ดของพอกที่วัว.ควาย.คายทิ้งมาผ่ากินเม็ดข้างใน..แต่กินมากไม่ได้จะรู้สึกเลี่ยนๆ..และเมาหน่อยๆ..ประสบการณ์สมัยเป็นหนุ่มชนบทนะครับ..อิอิอิ...



ไม่แน่ใจระหว่างต้นอินทผาลัมของคุณนุสิตา..หรือต้นระกำ..ที่ฝังลืมในป่าสงวนเล็กๆนี้..และไม่ทำอะไรทั้งนั้นครับ.ดูอย่างเดียว..ปล่อยให้ผจญชะตากรรมเอาเอง..ถ้าปรับตัวได้ก็รอด..หรือไม่ก็เดี้ยงถ้าไม่สามารถปรับตัวได้..อยู่สวนผมต้องเข้มแข็ง..โฮะๆๆๆๆฮิ้วววววว...



นี่คือตัวอย่างที่มีการปรับตัวได้..ต้นแก้วมังกรที่ฝังเอาไว้ตามโคนต้นไม้เจริญเติบโตได้แม้จะไม่สวยมากก็ถือว่าน่าจะรอด..ส่วนจะออกผลหรือไม่..แหะๆๆ.คงอีกนานถึงนานมากผมว่า..



สัปรดในสวนที่รอดแล้งมาได้..กล้วยที่เริ่มออกปลี.และผล..



ตอนเที่ยงพี่ชายลงกางข่ายดักปลา.ครั้งแรกได้ปลาจีนตัวประมาณ 1 กิโลกรัม 2 ตัว..แต่พี่สาวอยากกินปลาตะเพียนมากกว่าเลยปล่อยปลาจีน..ดักปลาตะเพียนแทน..ได้มาตัวเดียวเพราะปลาตัวโตกว่าข่ายที่กางข่ายโดนปลาสะบัดจนขาด..ปลาตัวเดียวกินกัน 4 คน..โชคดีที่มีน้ำพริกอยู่ไม่งั้น..ได้กินข้าวเปล่าแน่ๆ..นี่แหละน่าเขาบอกว่า.."อย่าหวังปลาตัวต่อไป..เพราะอนาคตยังมาไม่ถึง."..ฮ่าๆๆๆฮิ้วววว..



พืชพันธุ์..และสมาชิกในสวน..ซึ่งก็แน่นอนครับ..ไม่รู้จักชื่อเหมือนเดิม..รู้แต่ว่าเป็นตัวหนอน..กับดอกของพืช..แหะๆๆ..



และอีกหนึ่งบทบาทในชีวิต..เริ่มต้นปีงบประมาณ.เราก็เริ่มประชุมวางแผนการทำงาน..เป็นไงครับพี่น้องหน้าตาพอจะใกล้เคียงคำว่า."นักวิชาการ".หรือว่าเหมือน."ชาวนา.ชาวสวน".มากกว่า..


ขอบคุณพ่อแม่ที่ให้กำเนิด..บรรพบุรุษที่รักษาแผ่นดินให้อาศัย..กำลังใจจากผู้ปกครอง..สมาชิกบ้านสวน..ผู้ใหญ่โสที่เคารพ..และบ้านสวนพอเพียงของเรา..ลำใย..



 

ความเห็น

ชีวิตคนเราก็เหมือนตัวละครตัวหนึ่งละนะคุณลำใย เป็นทุกอย่างที่อยากจะเป็น ทั้งนักแสดง ผุ้เขียนบท ผู้กำกับและ อีกตั้งมากมาย เราต้องรู้สำนึกด้วยตัวเราเอง ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เท่านั้นเป็นพอ เพียงเพื่อ ที่จะต้องทำให้ดีที่สุดในของวันนั้น ๆ และต่อ ๆ ไป แค่นี้ชีวีก็มีความสุขแล้ว

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

สำหรับตัวเองคิดว่าชาวสวน ชาวไร่ มีความสุขมากกว่าคนเมือง


ถึงคุณภาพชีวิตจะต่างกัน แต่ไม่ต้องอดทนกับการจราจร รถติด


ไม่ต้องตีสองหน้า ไม่ต้องทำในสิ่งที่ฝืนใจนี่แหล่ะความสุขแท้ๆนะนัทว่า

มีความเพียร ต้องไ้ด้ดีทั้งสองอย่างแน่ๆ ครับ สู้ๆ    :embarrassed:

อะไรที่ทำแล้วสุขใจ อันนั้นถูกต้องที่สุดค่ะ

:cheer3: :cheer3: :cheer3:

อ้่าว..เกี่ยวข้าวแล้ว  เห็นป้ายาว่า  ป้ายาน่าจะได้เกี่ยวธันวา

:embarrassed:   ข้าวของลำใยน่าจะเป็นข้าวดอค่ะ  จะแก่ก่อนค่ะ  ข้าวป้ายาเป็นข้าวมะลิธรรมดาค่ะ

นี้แหละชีวิต  ลำใยเอ๋ยๆๆๆ

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

:admire2:  ชาวนา+นักวิชาการ ขอให้โชคดีกับงานทั้งสองอย่างนะค่ะ

ไม่ว่าชาวนาหรือนักวิชาการ เห็นคุณลำใยทำงานได้ดีทั้ง 2 อย่างเลยนะคะ

ชีวืตที่เพียงพอ..

ลงแขกไหมลำใย จะไปช่วย ชาวนาตัวจริงนะ แค่นั้นจิบๆ

 

 

หน้า