ลองนั่งตอบคำถามด้วยตนเอง (Myself answers)

หมวดหมู่ของบล็อก: 

สวัสดีอีกครั้งครับ หลังจากคราวที่แล้ว เจี่ยะป้า บ่อสื่อ (กินอิ่มแล้วไม่มีงานทำ) ได้ตั้งคำถามถามเพื่อนสมาชิกเรื่องมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไปแล้ว คำตอบที่ได้รับจะเป็นกำลังใจและความคิดเห็นเสียเป็นส่วนใหญ่ ผมก็เลยลองหาเวลานั่งดูคำถามถ้าเป็นตัวเราเองเราจะตอบได้แค่ไหน เช่นเดิมครับมีอากู๋เป็นตัวช่วยอย่างดี เริ่มจากข้อแรกเลยแล้วกัน

 

  1. มีเพื่อนสมาชิกบ้านสวนพอเพียงท่านใดทำเกษตรอินทรีย์บ้างครับ และมีท่านใดทำตาม (ผ่าน) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์บ้างไหมครับ

ตอบ ผมนั่งค้นดู (Search) ในเว็บบ้านสวนพอเพียงส่วนมากสมาชิกที่นำเสนอบทความ (บล็อก - blog) ก็ทำเกษตรอินทรีย์ เพียงแต่ว่าเป็นเกษตรอินทรีย์แบบพึ่งพาตนเอง (คือ การเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ที่ต้องการผลผลิตไว้กินหรือใช้ภายในครัวเรือน ชุมชน หรือขายในตลาดท้องถิ่น เนื่องจากไม่เน้นผลิตเป็นสินค้า ผู้ปลูกจึงไม่ยื่นรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานต่าง ๆ  -อ้างอิงจากหนังสือ ORGANIC LIVING & GARDENDING สวนอินทรีย์พอเพียง สำนักพิมพ์บ้านและสวน จากรูปด้านล่างนี้ครับ)

ดังนั้นผมจึงยังไม่เห็นสมาชิกท่านใดในเว็บบ้านสวนพอเพียงจัดทำตาม (ผ่าน) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ครับ (ผมว่าจะนั่งลอกการบ้านสักหน่อย ) แต่ค้นในอินเทอร์เน็ตก็พบว่ามีหลายที่ (ไร่หรือสวน) ที่ผ่านมาตรฐานเช่นกันครับ  ตัวอย่างข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต IFOAM รับรองไปประมาณ 150 ที่ ("ปัจจุบันประเทศไทยมีเกษตรกรที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพียง 150 ราย การลงพื้นที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตข้าวจิ๊บหรือพืชผักในระบบเกษตรอินทรีย์ที่บ้านลิ่มทองในครั้งนี้ ก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกร เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปพัฒนาปรับปรุงการผลิตข้าวจิ๊บ หรือเพาะปลูกพืชผัก เพื่อให้ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเกษตรกรเองด้วย ว่าจะปฏิบัติได้มากน้อยเพียงใด" นางนาถฤดีกล่าว

     ที่มา ข่าวสดฉบับ วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8555 http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEF4TURVMU53PT0= )

 สำหรับมาตรฐาน Organic Thailand ข้อมูลเก่าหน่อย (“ข้อมูลการรับรอง Organic Thailand ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตรซึ่งไม่รวมข้าวที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมการข้าวในปี 2555 ที่ผ่านมา กรมวิชาการเกษตรให้การรับรองพื้นที่ผลิตพืชอินทรีย์ไปเป็นจำนวนรวม 9,440 ไร่  พืชที่ให้การรับรอง ได้แก่ ชา ไม้ผล พืชผัก พืชผสมผสาน เห็ด และพืชสมุนไพร  และสำหรับปีงบประมาณ 2556 ที่เพิ่งจะสิ้นสุดลง    กรมวิชาการเกษตรได้ทำการ ตรวจแปลงรายใหม่ จำนวน 878 แปลง ผ่านการตรวจรับรอง 173 แปลง   หรือร้อยละ 20  ตรวจต่ออายุแปลงเก่าจำนวน 1,434 แปลง ผ่านการรับรอง 1,204 แปลง หรือร้อยละ 84 สำหรับโรงคัดบรรจุและแปรรูปพืชอินทรีย์ ทำการตรวจต่ออายุ จำนวน 34 โรง ผ่านการตรวจรับรอง 25 โรง คิดเป็นร้อยละ 74 และตรวจรายใหม่จำนวน 15 โรง ผ่านการรับรอง 7 โรง คิดเป็นร้อยละ 47 จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตรมีมาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นในตรา Organic Thailand ได้เป็นอย่างดี”  ที่มา  จดหมายข่าวผลิใบ อังคณา  สุวรรณกูฏ )

สำหรับตัวอย่างที่ได้รับการรับรอง เพิกถอนหรือพักใบอนุญาตสามารถดูได้ที่เอกสารเผยแพร่ของสถาบันรับรองระบบการผลิตผลิตภัณฑ์การเกษตร ICAPS http://www.icaps.mju.ac.th/wtms_document.aspx?bID=1664 ตามลิงค์นี้แหละครับ

เพิ่มเติมเห็นหนังสือดี "ทำเนียบสินค้าอินทรีย์" เลยนำลิงค์มาฝาก http://www.organic.moc.go.th/sites/default/files/attachments/album_images/organic_book.pdf

แค่ข้อแรกผมก็อู่สื่อ ( มีงานทำ ) มากมายเลย สงสัยต้องไปหาอะไรอร่อย ๆ กินก่อนนะครับ สวัสดีครับ

ความเห็น

ขอบคุณที่ช่วยหาคำตอบให้นะคะ อ่านคำตอบแล้ว ก็จะขอความช่วยเหลือ ขออภัย ไม่ได้หาเรื่องค่ะ มีคำถามซึ่งอาจจะ จากที่อ่านไม่ครบถ้วน เลยมีคำถามว่าขั้นต่ำของการผ่านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ระบุขนาดพื้นที่ไหมคะ คือ อ่านบล็อกนี้แล้วคิดตามได้วย พลอยทำให้อยากทราบ ถ้ามีความเป็นไปได้ สนใจที่จะปฏิบัติ สิ่งที่ตามมาจะเกิดประโยชน์ใดได้บ้างน่ะค่ะ เผื่อจะช่วยให้เกิดแรงจูงใจทำใ้ผ่านมาตรฐาน

 ถ้ามีข้อความที่อ่านแล้วจะสะดุดไปบ้าง ต้องขออภัยคุณTueyFuu ด้วยนะคะ เจตนาถามเพื่อขอแบ่งปันข้อมูลความรู้น่ะค่ะ

ขอบคุณมากล่วงหน้าที่ช่วยเหลือแบ่งปันประสบการณ์และเรื่องราวเพิ่มความรู้ให้ค่ะ

ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้ครับคุณถ้วยฟู

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว


บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

ผมต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แต่อย่างใด เพียงแค่เริ่มสนใจและคิดว่าจะลองทำตาม (ตามประสาคนเจี่ยะป้าบ่อสื่ออย่างที่บอกไว้) ผมเลยลองนั่งศึกษาดู ถ้าท่านใดมีความประสบการณ์หรือความเห็นอื่นใด โปรดแนะนำด้วยนะครับ ในอินเทอร์เน็ตมีผู้นำเสนอเรื่องมาตรฐานเกษตรอินทรีย์พอสมควรแต่มักจะขาดตอน โดยเฉพาะปัญหาที่ประสบเจอกับการแก้ไข ดังนั้นหลายครั้งที่ผู้สนใจจะต้องเริ่มต้นทำเหมือนนับหนึ่งใหม่ทุกครั้ง

กลับมาที่คำถามพี่สายพิน ผมลองค้นดูไม่มีการจำกัดพื้นที่สำหรับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์นะครับ เพียงแต่ว่าที่ดูแล้วมันมีค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง (ทั้งในเรื่องการรับรองและการจัดการขึ้นอยู่กับแต่ละมาตรฐาน) ดังนั้นถ้ามองในรูปธุรกิจจะต้องคำนึงความคุ้มทุน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าถ้าพื้นที่มีขนาดเล็กและต้องการทำส่วนตัวโดยมากจะเป็นการต่อยอดธุรกิจหลัก อาทิเช่นโรงแรม/โฮมสเตย์ ตลาดเฉพาะเกษตรอินทรีย์ หรือรับจ้างผลิตให้แก่ธุรกิจที่ใหญ่กว่า อีกรูปแบบที่เป็นไปได้คือการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ (ความเห็นส่วนตัวคิดว่าผู้นำชุมชนต้องเข้มแข็ง -พูดง่าย ๆ คือ ผู้นำพูดแล้วชาวบ้านเห็นด้วยและทำตาม) และถ้าเป็นไปได้มีหน่วยงานรัฐหรือเอกชนสนับสนุนผ่านโครงการต่าง ๆ ก็สามารถทำผ่านมาตรฐานครับ

หมายเหตุ ผมดูข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งประกอบกันเป็นความเห็นด้านบนนะครับ

ไร่สุโขทัยนี้ดี ไร่นี้มีแต่ความสุข

ขอบคุณน้ำใจคุณTuayFooค่ะ กรุณาตอบช่วยค้นหาและสรุปให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

 

ประเด็นเรื่องความคุ้มทุนเป็นเรื่องที่ชวนให้คิดได้อีกหลายรอบนะคะ

ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจค่ะ หากทำกันได้คนละไม้ละมือ บวกกับความเข้มแข็งของชุมชน

การเห็นถึงความสำคัญของการเลือกนำเอาที่เรียกวิชาการมาปรับในการทำเกษตรอินทรีย์

ให้คนลงมือ(จริงๆแล้วน่าจะเหนื่อยเอาเรื่องมากๆเลยนะคะในการเริ่มต้น) ทำรู้สึกสนุกและใจมุ่งอยากพัฒนาไปด้วยพร้อมๆกัน

ขอบคุณมากอีกครั้งนะคะ 

 

ผมฟังดูแล้วรู้สึกเหนื่อยกับคำว่า วิชาการ มาตรฐาน หรือ ผมแก่แล้ว ๕๕๕

ตอนนี้ขอทำตามใจฉันก่อน

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

คุณเสินครับ อย่าพึ่งเหนื่อยเลยครับ ทุกสิ่งมันมีที่มาที่ไปครับ  แต่สุดท้ายเราจะเลือกใช้(เพราะมีประโยชน์)หรือไม่ใช้(เพราะไม่มีประโยชน์)ก็น่าจะขึ้นกับตัวเราเองนะครับ ตัวผมเองแค่คิดไว้ยังไม่รู้จะทำได้แค่ไหนเลยครับ

ไร่สุโขทัยนี้ดี ไร่นี้มีแต่ความสุข