ขนมจีนน้ำยาป้าเล็กต้องคู่กับหมุยหอม
เมื่อเช้าที่บ้านก็ทำขนมจีนน้ำยาตรงกันกับป้าเล็กพอดีเลย ขนมจีนจะอร่อยไปไม่ได้เลยถ้าขาดผักเหนาะ ผมเองไปได้ผักเหนาะแสนอร่อยมาเมื่อกี้เอง กลับมาถึงบ้านขนมจีนเกือบหมดแล้ว ไปทำคอมพิวเตอร์ให้พี่ที่รู้จักกัน ที่บ้านเขามีต้นหมุย ผมไม่รู้นะครับว่าเขาเรียกว่าอะไรผมเรียกว่า "หมุย" ก็แล้วกัน ได้ยอดหมุยเป็นของฝากนำรูปมาให้ชม เผื่อป้าเล็กยังมีขนมจีนอยู่แล้วก็มานั่งกินหนมจีนเหนาะยอดหมุยที่หน้าคอมนะป้านะ
ที่ได้มาทั้งหมด
ต้นหมุยครับที่บ้านพี่เขา ผมได้มาปลูกตั้งแต่ปีที่แล้ว 2 ต้นยังเล็กอยู่
ดอกอ่อน ใบอ่อน
ใบอ่อนแบบนี้ก็กินได้
ดอกแบบนี้ก็กินได้
เขียนเสร็จล่ะ ไปกินขนมจีนน้ำยาเหนาะยอดหมุยดีกว่า
- บล็อกของ sothorn
- อ่าน 11555 ครั้ง
ความเห็น
rose1000
10 สิงหาคม, 2010 - 22:33
Permalink
จะทานจริงเหรอ
ที่ว่าน่าทานน่ะ เจ้าสามตัวนี่อ่ะนะ สงสารมันเถอะ 5555555
p-p
10 สิงหาคม, 2010 - 22:11
Permalink
แหะ ๆ ขอโทดด้วยค่ะ
แหะ ๆ
ขอโทดด้วยค่ะ พอดีว่าอ่านไม่ออกอ่ะค่ะ รออยู่ตั้งนาน คิดว่าไม่มีคนตอบซะอีก ชอบคุณค่า
p-p
10 สิงหาคม, 2010 - 22:13
Permalink
ขอรบกวนอีกรอบ มีสรรพคุณไหมคะ
ขอรบกวนอีกรอบ มีสรรพคุณไหมคะ อาจารย์บอกว่า ผักหมุยนี่อยู่จำพวกรสมัน ช่วยเรื่องคลายเส้น
ดวงหทัย
10 สิงหาคม, 2010 - 22:27
Permalink
หมฺรุย
ลองใช้คำว่า curry leaf หานะคะ จะเจอเวบ wikipedia สรรพคุณเป็นภาษาอังกฤษ พอทราบคร่าวๆ ลองแกะดูนะคะ
The leaves of Murraya koenigii are also used as a herb in Ayurvedic medicine. Their properties include much value as an anti-diabetic,[3] antioxidant,[4] antimicrobial, anti-inflammatory, hepatoprotective, anti-hypercholesterolemic etc. Curry leaves are also known to be good for hair, for keeping it healthy and long
http://en.wikipedia.org/wiki/Curry_Tree
สัววรณ์
3 สิงหาคม, 2011 - 12:50
Permalink
วงศ์ RUTACEAEClausema
วงศ์ RUTACEAE
Clausema excavata Burn.f.
ชื่อสามัญ
ขี้ผึ้ง, แสนโสก (นครราชสีมา); ชะมัด (อุบลราชธานี); เพี้ยปาน, หญ้าสามฮิ้น, หมี่ (ภาคเหนือ); มะหลุย (ภาคใต้); มุยใหญ่, ยม (ชุมพร); รุ้ย (กาญจนบุรี); สีสม, หมอน้อย (ภาคกลาง); สมัดใบใหญ่, หัสคุณโคก (เพชรบูรณ์); สามเสือ (ชลบุรี); สามโสก (จันทบุรี); สันโสก (ภาคตะวันออกเฉียงใต้); สำรุย (ยะลา); หวดหม่อน (ภาคกลาง, ภาคเหนือ); หัสคุณ, อ้อยช้าง (สระบุรี); สมัด (ยโสธร)
สรรพคุณ
ยับยั้งเชื้อเอดส์ เมื่อนำรากและเหง้าสันโศกมาสกัดด้วย 35% เอทานอล/น้ำ สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อเอชไอวี-1 (โรคเอดส์) ได้ พบสารยับยั้งเชื้อเอดส์ถึง 5 ชนิดในรากและเหง้า (ได้ดำเนินการจดสิทธิบัตร 2 ฉบับ คือ สารบริสุทธิ์ประเภทคูมารินและคาร์บาโซล ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ HIV-1 (anti-HIV-1 activity) ที่แยกได้จากสันโศก (Clausena excavata) Patent Application No.086881 และสารบริสุทธิ์ O-methylmukonal ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ HIV-1 (anti-HIV-1 activity) ที่แยกได้จากสันโศก (Clausena excavata) เป็นครั้งแรก Patent Application No.086882) โดยได้นำสารเหล่านี้มาทำการวิเคราะห์เพื่อควบคุมคุณภาพของสารสกัดสันโศก โดยขณะนี้พบสภาวะที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ด้วย HPLC เพื่อควบคุมคุณภาพของสันโศก เนื่องจากสันโศกแต่ละแหล่งมีการออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อเอดส์ต่างกัน โดยแหล่งที่มีการออกฤทธิ์ดี คือ ตราด ลำปาง จันทบุรี เชียงใหม่ ฉะเชิงเทรา ภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ใช้สมุนไพรชนิดนี้หมักด้วยเหล้าโรง 35 ดีกรี ประมาณ 7 วัน ก่อนนำไปรับประทานควรจะนำไปอุ่นเคี่ยวเพื่อให้เอทานอลระเหยออก
สันโศก (ชื่อวิทยาศาสตร์ :Clausena excavata Burm. f.)เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Rutaceae ที่มีน้ำมันหอมระเหยในใบและส่วนต่างๆ ของต้น
สันโศก (clausena evcavata)
สันโศก เป็นไม้พุ่ม พบได้ทั่วไป มีลำต้นสูงคล้ายกับไม้ยืนต้น พบว่าในรากและเหง้าสันโศก มีสารออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ HIV-1(เอดส์) ถึง 5 ชนิด ณะวิจัยได้พบวิธีควบคุมคุณภาพของสันโศกโดยการวิเคราะห์สารออกฤทธิ์ยับยั้งเอดส์เพื่อนำไปใช้เป็นสมุนไพรเสริมยับยั้งเชื้อเอดส์ การสกัดด้วย 35% เอทานอล-น้ำ โดยให้ความร้อน หรือ ที่อุณภูมิห้อง จะออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อเอดส์ได้ดี ภูมิปัญญาท้องถิ่นใช้แช่ด้วยเหล้า 35 ดีกรี ประมาณ 7 วัน และก่อนนำไปรับประทานควรนำไปอุ่นเพื่อให้เอทานอลระเหยออกไป สมุนไพรนี้จึงเป็นความหวังที่จะใช้เป็นสมุนไพรเสริมหรือเป็นยารักษาโรคเอดส์ ซึ่งนอกจากรักษาโรคเอดส์แล้ว สันโศกยังเพิ่มภูมิคุ้มกันและยับยั้งเชื้อราและเชื้อวัณโรคได้ด้วย
อาจารย์เกษตรศาสตร์วิจัยต้นสันโศก และบอระเพ็ดมีคุณสมบัติรักษาโรคเอดส์ โดยพบสารในกลุ่ม "คุมมาริน" ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับต้นไม้ในมาเลเซีย ที่สหรัฐซื้อลิขสิทธิ์กว่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปพัฒนาเป็นยาแผนปัจจุบัน
ในการสัมมนาแนวทางการวิจัย และพัฒนาสมุนไพรไทยรักษาโรคเอดส์ โดยกรมแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข รศ.งามผ่อง คงคาทิพย์ อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการวิจัยสมุนไพรไทยที่ผ่านมา ได้เริ่มพบสมุนไพรที่มีประโยชน์ทางการรักษา โดยในกลุ่มงานวิจัยที่ทำอยู่ได้ลงลึกถึง การแยกสารบริสุทธิ์ในสมุนไพรว่า ตัวใดที่ทำการออกฤทธิ์ในการรักษาด้านใดบ้าง โดยเฉพาะในบางโรคที่มีผลกระทบมาก อย่าง โรคเอดส์ จึงพบสารบางชนิดจากสมุนไพรต้นสันโศก และบอระเพ็ดที่มีฤทธิ์ยับยั้งโรคเอดส์
จากการทดลองในต้นสันโศก พบสารบริสุทธิ์ถึง 5 ชนิดที่ยับยั้งโรคเอดส์ได้ และยังมีสารคุมมาริน สารคาโบรายเอและบี เช่นเดียวกับที่พบมากในต้นไม้ชนิดหนึ่งในรัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ซื้อลิขสิทธิ์กว่า 100 ล้าน เพื่อนำไปวิจัยต่อในการคิดค้นยารักษาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเอชไอวี-เอดส์
นอกจากนี้ 1 ใน 5 ของสารบริสุทธิ์ ที่ทีมวิจัยพบยังเป็นสารชนิดใหม่ ที่ยังไม่เคยมีผู้รายงานมาก่อน เป็นสารใน "กลุ่มคาร์บาโซล" ขณะนี้อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร สารดังกล่าวมีฤทธิ์ที่ยับยั้งโรคเอดส์ได้ดีกว่าสารคาราโนรายในต้นไม้ของมาเลเซียที่ทางสหรัฐซื้อไป
รศ.งามผ่อง กล่าวต่อด้วยว่า ผลการทดสอบการรักษาโรคเอดส์ เป็นผลจากการทดลองในการวิจัยสารสกัดเท่านั้น
ที่ศึกษามานานกว่า 3 ปี แต่ยังไม่ได้มีการนำมาทดลองรักษากับสิ่งมีชีวิต หรือผู้ป่วยโรคเอดส์ และทางมหาวิทยาลัยอินเดียน่าได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้ โดยได้ติดต่อขอร่วมและสนับสนุนในการวิจัยนี้ แต่เราต้องการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยมากกว่า
เพราะต้องการให้เป็นทรัพย์สมบัติของคนไทย แม้ว่าที่ผ่านมาจะเคยมีการตีพิมพ์งานวิจัยเผยแพร่ในวารสารต่างประเทศมาแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยต้นสันโศก ไม่ใช่ทุกต้นที่จะนำมาสกัดรักษาโรคเอดส์ได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับเวลา และแหล่งที่ปลูกด้วย โดยแหล่งที่มีคุณภาพอยู่ที่ภาคตะวันออก
หน้า