...........ที่มา ๑๖ - ชะตากรรม(กำ)ชะตา..........
นอกเหนือจากงานการที่ต้องทำประสาคนบ้านสวน มีวิถีเป็นเป็นปรกติเยี่ยงชาวบ้านทั่วไปแล้ว ผมคิดเอาเองในยุคที่เริ่มต้นออกจากงานประจำมาใช้ชีวิตแบบนี้แล้ว ช่วงเวลาว่างอื่นๆ ในยุคแรกคือการเสาะหาเรื่องราวจากรอบๆ บ้าน รอบหมู่บ้าน กระทั่งไกลถึงหมู่บ้านอื่นๆ เท่าที่ตัวเองสามารถดั้นด้นไปถึง เก็บรายละเอียดของแง่มุมความคิด ถ้อยคำต่างๆ พืชพรรณ สิ่งของที่กำลังถูกปล่อยปละละเลย หลงลืมหรือทิ้งขว้าง
เคยคิดว่าตัวเองจะกลับมาใช้ชีวิตเยี่ยงชาวบ้านธรรมดา ไม่หวือหวา ไม่แปลกแยก สี่ห้าปี ก็แล้ว หกเจ็ดปีก็แล้ว ความไม่เป็นปรกติของตัวเองยังเด่นชัด ทั้งแนวคิด วิถีปฏิบัติ กระทั่งความเชื่อต่างๆ ในวิถีแห่งตนเองและคนใกล้ชิด
แม้จะมีการงานอันธรรมดา เช้าถึงเย็นก็เหมือนชาวบ้านทั่วไป กินอยู่ เมามาย ไร้สาระ ก็เหมือนแทบทุกกระเบียด – สุดท้ายก็พบว่ามิอาจเป็นไปอย่างที่อยากเป็นแต่เดิม
สิ่งที่เก็บซ่อนเร้นไว้ได้ด้วยกรอบของศีลธรรมบางข้อ เพื่อกดสันดานดิบเถื่อน เก็บความเหนือกว่าบางใครทั้งความรู้สึกและความรู้ เงื่อนไขบางข้อที่ลุงพูนเรียกว่าโลวโปรไฟล์ในวิถีของการดำรงชีพถูกนำมาบดบังความไม่เหมือนด้วยกลัวว่าจะเป็นความโดดเด่นเกินธรรมดา
อย่างไรก็แล้วแต่...สุดท้าย “ข้างใน” ของผมก็ยังบอกว่า มิอาจ มิบังอาจเป็นชาวบ้านธรรมดาได้ ด้วยว่าความเป็นชาวบ้านธรรมดามันยาก..มันยิ่งใหญ่เกินคนที่หลุดกรอบของความเป็นธรรมดาแบบผมจะปรับก้าวให้ย่างถึงด้วยวิธีคิดอย่างที่ผมเป็น
...หรือผมคิดมากไป?
สามวันที่ผ่านมา ผมยังขลุกขลุยอยู่กับมีดแกะผลไม้ของคุณมาย คุณอิ๋ว และเจ๊โส เป็นงานที่ยากและจุกจิกจนทำให้อารมณ์กระเจิดกระเจิงได้วันละหลายหน ระหว่างที่ทำก็จะมีคนผ่านทางแวะมานั่งพูดคุยสอบถามโน่นนี่ ผมทำงานไปพูดคุยไปด้วยเกรงว่าหากมานั่งพูดคุยอย่างจริงจังแล้วตัวเองก็จะไม่ได้งานในที่สุด หลายวันเข้าเริ่มออกอาการเบื่อ เหนื่อยหน่าย
ผมแก้ไขโดยการเปลี่ยนงาน เป็นตัดหญ้า แต่งสวน ทำแปลงผัก ฯลฯ
ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สนานเท่ากับการทำมีดยากๆ ที่เคยไว้แล้วออกมาในรูปแบบอื่นๆ เพื่อเป็นการบำบัดตัวเองไปในตัว
ผมทำมีดเล่มนี้ไว้เมื่อหกเดือนที่แล้วตอนที่ เริ่มฝึกการใช้ข้อมือในการใช้ค้อนรีดชิ้นงานจากสี่เหลี่ยมผืนผ้าร้อนๆ ออกเป็นเส้นเล็กๆ บิด พับงอและขนดจนกลายเป็นด้ามของมีดสไตล์ฝรั่งยุคโลหะเล่มหนึ่งงในหลายเล่มที่เคยทำออกมา
อย่างที่เคยบอกเล่ามาแล้วครับ...ผมตั้งใจจะทำมีดพื้นบ้านให้ได้ดี ทั้งการใช้งานและเหมาะสมควรค่าแก่การเก็บรักษา แต่ถึงทุกวันนี้นอกเหนือจาการอบชุบ ขวานไม่กี่เล่ม มีดพร้าสามเล่ม ผมยังไม่สามารถขึ้นรูปมีดพื้นบ้านเลยแม้แต่เล่มเดียว...
คิดไปคิดมาก็เหมือนกับการใช้ชีวิตของผม...ตั้งใจอย่างหนึ่ง เพื่อที่จะพบว่าเราเป็นอีกอย่างหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนชะตากรรมหรืออะไรกัน?
หรือผมกำชะตาไว้ไม่ยอมปล่อยวางเอง?
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
..........................................................................................................
- บล็อกของ sailomloy
- อ่าน 6385 ครั้ง
ความเห็น
sailomloy
29 สิงหาคม, 2010 - 18:49
Permalink
Tui
ขอบคุณมากครับผม ขอบคุณจริงๆ
ออกปากรุนท็อกที !!!
ปุ๊ก
29 สิงหาคม, 2010 - 17:24
Permalink
กว่าจะเป็นมีด...
กว่าจะเป็นมีดสักเล่ม
นึกแล้วยากน่าดูเลยนะคะ
สมัยก่อน ก๋งก็เป็นคนตีมีด มาจากเมืองจีน
แต่ปุ๊กเกิดไม่ทันเลยไม่ได้สัมผัสกับสิ่ง
เหล่านี้เท่าไหร่..
ทำแค่...พอดี
ใช้อย่าง...พอเพียง
เก็บออม...พอสมควร
3 พอ...เพื่อความสุขในชีวิต
msn kra_pook@hotmail.com
sailomloy
29 สิงหาคม, 2010 - 18:41
Permalink
ปุ๊ก
ยังมีเครื่องไม้เครื่องมือของก๋งหลงเหลืออยู่บ้างไหมครับ....(ของมีครู) ถ้ามี น่าจะไปขออัญเชิญมามาตั้งครู
ปู่ผมก็เคยตีเหล็ก เครื่องมือ ตอนนี้ผมยังตามหาอยู่ น่าจะยังพอมีเหลืออยู่ แต่อยู่ที่บ้านพรรคพวกแกในสมัยโน้น
ออกปากรุนท็อกที !!!
ปุ๊ก
29 สิงหาคม, 2010 - 19:21
Permalink
ไม่มีเหลือแล้วค่ะ
ก็หลายสิบปีแล้วค่ะ
เหลือก็แต่ของที่ก๋งทำไว้
เพราะสมัยก่อนมีการไล่ต่างด้าว
ไม่ให้อยู่ จ.ชายแดน(ปราจีน เมื่อก่อนติดกับเขมร)
ก๋ง ต้องหนีต่างด้าว ไปหลายปี
ตอนหลังมาก็ มาทำสวนปลูกผักอ่ะค่ะ
โดนไล่ที่อีก เลยมาซื้อที่ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นที่อยู่ในตลาด
โชคดีไป...โดนหลายไล่อ่ะค่ะ
ทำแค่...พอดี
ใช้อย่าง...พอเพียง
เก็บออม...พอสมควร
3 พอ...เพื่อความสุขในชีวิต
msn kra_pook@hotmail.com
sblue12
29 สิงหาคม, 2010 - 18:05
Permalink
ที่มา
อ่านที่มาแล้วทำให้คิด... ขนาดด้ามมีดยังฝืนบิดให้เป็นเกลียวได้.. ชะตากรรมก็น่าจะฝืนได้เหมือนกัน
"ไม่มีอะไรอยู่กับที่ ถ้าเราไม่หยุดเดิน"
sailomloy
29 สิงหาคม, 2010 - 18:38
Permalink
sblue12
น่าคิดเนอะ
ออกปากรุนท็อกที !!!
เจ้โส
29 สิงหาคม, 2010 - 18:28
Permalink
กำชะตา
ไปกำไว้ทำไมจ๊ะ หนักเปล่า ๆ อย่าไปกำไว้..... แค่คลายมือออกแลัวแบกรรมก็จะหล่นไปเอง
garden_art1139@hotmail.com
sailomloy
29 สิงหาคม, 2010 - 18:38
Permalink
เจ๊โส
กรรมหล่นไปเอง...แหม..เจ๊ก็พูดไป....เอิ๊กๆ
ออกปากรุนท็อกที !!!
ตั้ม
29 สิงหาคม, 2010 - 20:15
Permalink
ขอโทษ..
มันขึ้นเบิ้ล..ให้พักสายตาแล้วกัน
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
ตั้ม
29 สิงหาคม, 2010 - 20:14
Permalink
การค้นหา..
ผมก็คนนึง..ที่ปลีกจากทางสายคอนกรีต..สู่ทางลูกรัง..อยากเป็นเยี่ยงชาวบ้านสามัญทั่วไปที่ไม่ต้องยึดโยงกับหัวโขนของสังคมที่มีขีดขั้นกั้นระดับ..คิดว่าไม่ได้หลงทาง..แต่มาถูกทางเสียมากกว่า..อย่างน้อย..ก็ไม่ต้องวุ่นวายกับการแข่งขันชิงดีชิงเด่น ใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัขล่าเนื้อเหมือนเก่าก่อน..บางครั้งความคิดมันเตลิดไกลถึงขั้นปลีกวิเวกตัดขาดจากสังคมภายนอกเสียด้วยซ้ำ..ไม่ใช่เพราะความผิดหวังหรือประชดสังคม..เพราะที่ผ่านมาชีวิตก็ไม่เคยพลาดหวังอะไร..หากแต่..ระอากับสีสันของสังคมที่บางครั้งผู้คนแต่งแต้มจนเกินเลยไปเสียมากกว่า..
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
หน้า