ข่าว ชู "ฟักข้าว" เป็นผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ ต้านมะเร็ง-ชะลอแก่

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้ภูมิใจเสนอ ผลงานวิจัยของคนไทยอีกหนึ่งคน เกี่ยวกับฟักข้าว

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ ขึ้น

น.ส.จันทร์แรม แสนคำ


ดร.ประไพภัทร คลังทรัพย์


ต้นฟักข้าวเป็นเถาไม้เลื้อยคล้าย ตำลึง


ผลสุกของฟักข้าว


ผลฟักข้าว (ซ้าย) และเนื้อใน (ขวา)



ความชรามาแน่ๆ แต่เราสามารถชะลอให้มาช้าๆ ได้ด้วยผักผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ไม่ต้องไปบินไปหาผลเบอร์รีถึงเมืองนอกเมืองนา เพราะผักพื้นบ้านของไทยเรามีอยู่มากมายที่ช่วยต้านโรคและต้านความชราได้ และที่กำลังเป็นน้องใหม่มาแรงของวงการตอนนี้คือ "ฟักข้าว" หรือ "แก๊กฟรุต" นั่นเอง
       
       ในปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจาก ฟักข้าวจำหน่ายในท้องตลาด หรือรู้จักกันในนาม "แก๊กฟรุต" (GAC fruit) ซึ่ง น.ส.จันทร์แรม แสนคำ นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาชีวเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า ฟักข้าวเป็นผักพื้นบ้านของไทยอยู่ในตระกูลเดียวกับมะระ เป็นไม้เลื้อยที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งชาวบ้านทางภาคเหนือและอีสานนิยมนำส่วนยอดและผลอ่อนของฟักข้าวมาปรุง อาหารรับประทานกันในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่นิยมรับประทานผลสุก จึงมักมีผลแก่เหลือเป็นจำนวนมาก
       
       "มีรายงานการวิจัยในต่างประเทศหลายฉบับระบุว่าผลฟักข้าวมีสารไลโคพีน (Lycopene) สูงกว่าในมะเขือเทศ 70-100 เท่า ซึ่งสารนี้ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก และมีแคโรทีน (carotene) มากกว่าแครอท 10 เท่า และมีรายงานด้วยว่าชาวเวียดนามนิยมบริโภคฟักข้าวมากที่สุด โดยนำส่วนของเยื่อหุ้มเมล็ดในผลแก่มาผสมกับข้าวสารแล้วนำไปหุงรับประทาน สามารถช่วยบำรุงสายตา แก้ปัญหาการมองไม่เห็นในช่วงกลางคืนได้ แต่ในฟักข้าวนั้นยังมีสารอื่นๆ อีหลายชนิดที่มีฤทธิ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้เช่นกัน" น.ส.จันทร์แรม กล่าว
       
       ทั้งนี้ น.ส.จันทร์แรม ได้ร่วมกับฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง ประเทศไทย (วว.) ทำการศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดจากฟักข้าวในการต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุทำ ให้เซลล์เสื่อมสภาพและเกิดโรคต่างๆ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนภายใต้โครงการสร้างภาคีในการผลิตบัณฑิตระดับปริญญา โท-เอก ของ วว. โดยนำผลสุกของฟักข้าวมาแยกเป็นส่วนเนื้อ เปลือก และเยื่อหุ้มเมล็ด แล้วแยกสกัดด้วยน้ำและเอทานอลที่ความเข้มข้นต่างๆ
       
       จากนั้นตรวจสอบสารทางเคมีด้วยวิธีทินเลเยอร์โครมาโทกราฟี (TLC) พบว่ามีเบต้าแคโรทีน แอลฟาโทโคฟีรอล (รูปแบบหนึ่งของวิตามินอีในธรรมชาติ) และโทโคฟีรอลในรูปแบบอื่นๆ อีกจำนวนมาก อยู่ในส่วนที่สกัดด้วยเอทานอล 95% ทั้งสามส่วน และเมื่อนำไปทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยเทคนิคโฟโตเคมิลูมิเนสเซนส์ (PCL) พบว่าสารสกัดจากเปลือกที่สกัดด้วยเอทานอล 95% มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดสำหรับกลุ่มสารที่ละลายไขมัน และสารสกัดจากเยื่อหุ้มเมล็ดที่สกัดด้วยน้ำมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด สำหรับกลุ่มสารที่ละลายในน้ำ
       
       จากผลการวิจัยข้างต้นนั้นสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อ สุขภาพจากฟักข้าวได้ โดยหลังจากนี้ทีมนักวิจัยจะดำเนินการทดสอบความเป็นพิษ ศึกษาฤทธิ์ต้านการทำลายดีเอ็นเอ ศึกษาฤทธิ์การก่อการกลายพันธุ์ของสารสกัดจากผลฟักข้าว เพื่อให้ได้ข้อมูลทางวิชาการที่ครบถ้วนและครอบคลุมทั้งสองด้าน
       
       อย่างไรก็ดี ดร.ประไพภัทร คลังทรัพย์ นักวิชาการฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. ซึ่งร่วมในการวิจัยครั้งนี้ด้วย เปิดเผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ว่า มีการบริโภคฟักข้าวเป็นผักพื้นบ้านกันมา นานแล้ว จึงไม่น่าห่วงว่าจะมีอันตรายใดๆ หากนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ แต่ต้องศึกษาเพิ่มเติมถึงวิธีการสกัดหรือแปรรูปฟักข้าวที่เหมาะสมและคุ้มค่า ต่อการผลิตในระดับอุตสาหกรรม รวมถึงการเก็บรักษาสารสำคัญให้คงตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์ได้นานพอควร ซึ่งคาดว่าภายในปีหน้าน่าจะมีผลิตภัณฑ์จากฟักข้าวในกลุ่มของอาหารออกมาเป็น ต้นแบบ และหากมีการต่อยอดเชิงพาณิชย์ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ผลสุกของฟักข้าวที่ไม่ มีใครนำไปรับประทานได้เป็นอย่างมาก
       
       ทั้งนี้ การศึกษาวิจัยฤทธิ์ของสารสกัดจากฟักข้าวในการต้านอนุมูลอิสระนี้เป็นส่วน หนึ่งของโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพชะลอความชราจากสารต้านอนุมูล อิสระในผักพื้นบ้าน ผักไฮโดรโปนิกส์ และพืชตระกูลถั่ว ของ วว. ที่มีกำหนดระยะเวลาโครงการไว้ในระหว่างปี 2552-2555

 

ที่มา ::

http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9530000127423

ความเห็น

เดี่ยวปลูกแล้วจะกินทุกวัน จะได้สาวตลอด อิอิ

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

ดีๆอย่างงี้อย่าลืมปลูกกันเยอะนะครับ

ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ   msn/krawmovie@hotmail.com

จะพยามปลูกให้ได้ค่ะ

จะได้กินของดีมีประโยชน์

ฝีมือเราเอง

ขอบคุณค่ะ แต่ฟักข้าวแดงปลูกไม่ขึ้นค่ะ อย่างนี้ต้องลองอีกค่ะ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

คุณประโยชน์เร้าใจแบบนี้...ต้องหากินมั่งล่ะ..^_^..

MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com

ฟักข้าวของพี่ เพิ่งงอกไม่กี่ใบเอง  ไม่รู้นานแค่ไหนจะออกลูก คงต้องรอก่อน  อีกหน่อยคงได้กิน


อิอิ  หวังไว้ว่างั้นนะ

 

เพราะเหตุนี้แหละ..พี่ถึงต้องเพาะฟักข้าวไง..ลูกสวยด้วย..แต่งสวนก็งาม..แต่ไม่รู้จะงอกปะ..

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

เดี๋ยวต้องรีบหามาดื่ม (:

สำหรับข้อมูล ที่เป็นประโยชน์  Smile

there is a will , there is a way .

อันนี้ชอบมาก555

หน้า