ทดสอบความสามารถในการพึ่งพาตนเอง
โดยปกติผมจะออกกำลังกายตอนเช้าด้วยการทำโยคะ ปั่นจักรยานและน็อคบอร์ดเทนนิส ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่พอมองเห็นความรกนอกรั้วหลังบ้านที่เป็นที่มาของงูเงี้ยวเขี้ยวขออีกทั้งกลัวเรื่องไฟ ก็เลยมีความคิดเปลี่ยนกิจกรรมที่ non-productivity ด้วยการลงมือลุยเองเสียเหงื่อและได้อรรถประโยชน์และอย่างน้อยก็เป็นเครื่องทดสอบความสามารถว่า เราจะพึ่งพาตนเองด้วยการทำเองได้มั๊ย
เห็นจันทร์เจ้าบุกเบิกลุยสวนที่คลองลานด้วยตัวคนเดียว เลยมีแรงฮึดและวางแผนว่าหากได้ไปอยู่สวนใหญ่ราดรี เมื่อใช้เครื่องจักรขุดสระ เกรดไถแล้วต่อไปเราจะต้องพึ่งพาตนเองเป็นหลัก เจเจยังทำได้แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ แต่ก่อนอื่นเริ่มทดสอบตัวเองแบบง่ายๆด้วยการถางความรกนอกรั้วหลังบ้านก่อน ต้องรีบทำแต่เช้าขณะที่คนอื่นยังไม่ตื่น เพราะขี้เกียจฟังเสียงบ่นว่าทำไมไม่จ้างคนทำ และยิ่งถ้าเพื่อนฝูงรู้คงโดนบ่นหูบานเลย ค่าจ้างคนงานไม่น่าจะเกิน 300 บาท เพื่อนมันต้องค่อนขอดว่าแค่ลูกสาวเอ็งสอนหนังสือให้ฝรั่งชั่วโมงนึงยังได้มากกว่าหรือแค่เอ็งยอมทำงานชั่วโมงนึงก็ได้มากกว่าเยอะจ้างได้ตั้งหลายคน ทำไมต้องมาทนลำบากอย่างนี้ เพื่อนฝูงมักจะบ่นทุกครั้งที่รู้ว่าผมทำสวนเองจัดสวนเอง ไม่เคยจ้างใครทำยกเว้นการสร้างสระน้ำตก
ชั่วโมงครึ่งก็เรียบร้อยพร้อมๆกับเหงื่อที่โทรมกาย เหนื่อยเอาเรื่องแต่ไม่หนักหนาทำได้สบายๆ เลยค่อนข้างมั่นใจว่าหากไปอยู่สวนใหญ่แล้วหาคนสวนช่วยไม่ได้อย่างน้อยก็พึ่งพาตนเองได้ แต่คงต้องอาศัยเครื่องมือมากกว่าที่จะลงแรงทั้งหมด
ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นเยอะ ไม่รกทั้งภายในและภายนอก
เดี๋ยวต้องเตรียมคำตอบ ที่ต้องตอบเพื่อนในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา
1. สิ่งที่ทำเป็นเป็นการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูง สุดไหม - minimize cost - maximize utility (ต้นทุนต่ำสุดบนผลประโยชน์สูงสุด)
2. เป็นการ division of labor (แบ่งงานกันทำตามความถนัด) ของ Adam Smith มั๊ย
ใครมีคำตอบ..ช่วยตอบหน่อย..สำหรับผม..พอจะตอบได้ว่า..อะไรที่เป็นความสุข ไม่เบียดเบียนใคร ครอบครัวคนรอบข้างไม่ต้องพึ่งพาในการหาปัจจัยของเรา ก็ทำไป ความสุขอาจไม่ได้วัดที่ตัวเลข แต่อยู่ที่รอยยิ้มที่ได้จากุขภาพจิตและสุขภาพกาย..คงใช่นะ
แถมท้าย..ที่บอกว่าน็อคบอร์ดเทนนิส ลองดูสนามพอเพียงของผม ไม่ต้องเสียตังค์ครับ
ส่วนจักรยานก็ปั่นตามถนนแถวๆหมู่บ้าน
- บล็อกของ ตั้ม
- อ่าน 8748 ครั้ง
ความเห็น
สาวน้อย
22 มิถุนายน, 2011 - 12:47
Permalink
พี่ตั้ม ปีนกำแพงออกไปหรอ
เห็นมีบันไดด้วย... ตักซะเตียนเลย ที่นี้... ต้องระวังหนุ่มๆ แทนงูสิคะ บ้านโล่งแบบนี้
ชีวืตที่เพียงพอ..
ตั้ม
22 มิถุนายน, 2011 - 14:16
Permalink
ปีนกำแพง
ปีนกำแพงโดยใช้บันไดจ้า..กำแพงสูงสองเมตรกว่า ไม่ปีนลงใช้กระโดดลงคงขาหัก..หนุ่มๆไม่กลัว เจอบีบีด่านแรก
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
จันทร์เจ้า
22 มิถุนายน, 2011 - 12:56
Permalink
พี่ตั้มๆๆ
พี่ตั้มน่ะ สุดยอดดดดดดดดดด มากกว่า เจเจ เยอะ
เจเจ แค่ไปปลูกๆๆ และ ดูแลคนปลูก อีก สองคน แฮะๆๆ
แต่จากนี้ต่อไป คงต้องคนเดียวจริงๆ กำลังซื้อเครื่องตัดหญ้า จะตัดด้วยตัวเอง
สู้ๆพี่ตั้ม เราจะไปด้วยกันนะ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
ตั้ม
22 มิถุนายน, 2011 - 14:23
Permalink
บอกแล้วไง..เจเจ..
พี่บอกแล้วไง..ได้เจเจเป็นต้นแบบ..เป็นแรงเสริมให้ฮึดนะจะบอกให้
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
JaJing
22 มิถุนายน, 2011 - 13:01
Permalink
ใจกล้า
ต้องใจกล้าด้วยนะครับพี่ตั้ม ดูๆ แล้วถางไปกลัวจะเจองู
พอเพียง พอเพียง
ตั้ม
22 มิถุนายน, 2011 - 14:28
Permalink
กลัวงูมาก
อย่างจะจิงว่านั่นแหละ..กลัวที่สุดคืองูจงอาง..ไม่รู้มีรึปะ..เคยตีตายในสวนที่บ้าน ก่อนลงก็เคลียร์พื้นที่ อยู่บนกำแพงเอาไม่ไผ่ยาวๆหวดไล่ทั้งแถบก่อน และใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด ปกติพี่ไม่ชอบใส่กางเกงขายาวทำสวนมันอึดอัด งานนี้ต้องเกงยีนต์ขาวยาว บู๊ท เสื้อแขนยาว หมวก แว่น(กลัวงูพ่นพิษใส่ตา) ถุงมือ พร้อมมีดพร้าทั้งยาวและสั้น 2 อัน พอลงไปก็เคลี่ยร์พื้นที่ไล่ถางจากที่โล่งไปเรื่อยๆ กลัวเพราะพุ่มไม่รกสูงมากทึบด้วย ต้องค่อยเลาะ ในใจภาวนาขออย่าเจองูเลย..
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
little finger
22 มิถุนายน, 2011 - 13:08
Permalink
แปะ
รูปแรกนี่เท่ห์เชียว...หล่อเวลามีแว่นและหมวก :uhuhuh:
อีกแล้วสวนราดรี........กรุณาเว้นวรรคด้วยแปะ :uhuhuh:
เชื่อสิต้องมีคนอ่านผิดแบบก้อย :sweating:
ตั้ม
22 มิถุนายน, 2011 - 14:30
Permalink
ก้อย..
แปะเขียนตามก้อยว่าแล้วนะ..แปะจะหล่อต่อเมื่อใส่หมวกใส่แว่น 5555 แต่จริงๆที่ใส่นะ เพราะเป็นชุดป้องกัน..ใส่ให้มิดชิด มันรกชัฏมาก
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
ยุพิน
22 มิถุนายน, 2011 - 13:31
Permalink
คุณตั้ม..เจ๋งจริง
มาชื่มชมความใจกล้า กล้าคิด กล้าทำค่ะ
ตั้ม
22 มิถุนายน, 2011 - 14:37
Permalink
คุณยุพิน
ถ้าเป็นความกล้าของการสละเงินเดือนประจำละก้อ บอกได้เลยว่าคิดอยู่นานเหมือนกัน และหลายคนก็บอกว่า"บ้า" แต่คิดว่าสะสมทุนมาพอสมควรพอเป็นภูมิคุ้มกันได้โดยไม่ต้องหาเพิ่ม อาศัยดอกผลโดยเงินต้นไม่หาย ให้เงินมันสร้างตัวมันเองโดยหักกลบเงินเฟ้อแล้วไม่ติดลบ ให้บวกสัก 3-4% ก็น่าจะพออยู่ได้จนถึงอายุ 75 เลยตัดสินใจง่ายขึ้น แล้วแสวงหาความต้องการที่แท้จริง ตอบสนองในช่วงเวลาทีพอมีกำลัง เลยออกมาแบบนี้แหละ
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
หน้า